Skip to main content

 

 


ต้นโพธิ์ที่วัดนี้ตั้งอยู่กลางลานจอดรถ อายุประมาณ 200 ปี ความสูงประมาณ 25 เมตรเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงากับรถที่มาจอดเพื่อชมความงามของวิหารที่ตกแต่งด้วยผลงานการแกะสลักโลหะ

 

  


ใต้ต้นโพธิ์มีเสาไฟฟ้าและสายไฟระโยงระยาง โคนต้นมีไม้ค้ำศรีค้ำจุนต้นโพธิ์ไว้ไม่ให้หายไปจากการรุกไล่ของพื้นคอนกรีต ต้นโพธิ์เป็นต้นไม้สำคัญทางพุทธศาสนา จึงมีประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับต้นโพธิ์ โดยเฉพาะการทำบุญด้วยไม้ค้ำศรี นัยว่าเพื่อค้ำจุนพระพุทธศาสนานั้น ดูราวกับว่าเป็นสิ่งค้ำจุนต้นไม้ใหญ่ให้คงอยู่ท่ามกลางความเจริญทางวัตถุ

 


เห็นต้นไม้กลางลานคอนกรีตแบบนี้แล้วคิดถึงป่าเขาทุ่งหญ้า อย่างในเพลงที่นำมาให้ฟังวันนี้ ชื่อเพลงใกล้ตา ไกลตีน หาฉบับเสียงร้องของน้าหงาใน Youtube ไม่มี ได้เวอร์ชั่นของคุณสุนทรี เวชานนท์ มาให้ฟังกัน จริง ๆ แล้วเวอร์ชั่นนี้ก็ชอบ



คุณสุนทรีเคยเล่าให้ฟังว่าตอนเข้าห้องอัดเพลงนี้ ร้องม้วนเดียวจบ แล้วน้าหงาใส่เสียงซึง เคยมีโอกาสฟังเธอร้องสดในคอนเสิร์ตสายน้ำสามัญชน ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับคาราวานวงใหญ่ รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนั้นเธอร้องได้ผ่อนคลายแต่มีพลัง และดนตรีในวันนั้นเรียบง่ายและสมบูรณ์แบบ



ส่วนเวอร์ชั่นนี้ฟังทีไรก็รู้สึกว่าต้องปีนกระไดฟัง เพราะเสียงเธอสูงปรี๊ด ฟังยากเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ชอบฟังเพลงนี้เวลาคิดถึงทุ่งหญ้า ลมหนาว และต้นไม้ใหญ่บนสันภู คิดถึงกลิ่นดิน กลิ่นใบไม้แห้ง ฝุ่นที่มากับสายลม ฉันเคยขับรถเลียบแม่น้ำโขง บนเส้นทางแม่สาย-สามเหลี่ยมทองคำ-เชียงแสน เปิดเพลงนี้คลอไปด้วย รู้สึกเข้ากับบรรยากาศดีนัก

เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า เพลงนี้น้าหงาแต่งที่เมืองน่านเมื่อครั้งอยู่ในป่า เพื่อนของเขาตายไปกับการสู้รบ หลุมฝังศพของเพื่อนอยู่ใกล้ตัว

 

คิดถึง...แต่ไปหาไม่ได้



บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…