Skip to main content

http://charyen.com/jukebox/play.php?id=30336 

เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงเก่า ๆ ของไทยกันบ้างค่ะ ชื่อเพลงดอกพะยอมยามยาก เสียงร้องของเพลิน พรหมแดน ซึ่งไม่คิดว่าจะมีเพลงแบบนี้ เพราะเพลงที่สร้างชื่อให้กับเพลิน พรหมแดนมักเป็นเพลงตลก ๆ เป็นเพลงร้องสลับพูด ตอนเด็ก ๆ ชอบฟังมากฟังไปหัวเราะไป คล้าย ๆ กับเพลงของวิฑูรย์ ใจพรหม ตอนนี้



จะเขียนถึงดอกพะยอม ก็นึกถึงคำว่า "ดอกพะยอมยามยาก" คีย์เข้าไปในกูเกิ้ล เพื่อหาเพลงเกี่ยวกับดอกพะยอม ก็มีเพลงนี้ และเพลงพะยอมลืมนา ของพรศักดิ์ ส่องแสง เป็นพะยอมสมัยใหม่ดอกพะยอมจากไปเรียนหมอที่เมืองบางกอก ทิ้งให้อ้ายรออยู่ที่บ้านนอก กับอีกเพลงของสายันห์ สัญญา ชื่อเพลงบ้านวังพะยอม

 


พะยอมปีนี้บานเยอะจนมีคนบอกว่าดอกไม้กลัวตายเลยพากันบาน อากาศเริ่มร้อน ดอกไม้เมืองเหนือบานสะพรั่ง แต่อากาศไม่เป็นกัลยาณมิตรกับคนเท่าไรนัก หมอกควันหนาทึบราวกับจะบอกมวลมนุษย์ว่า ดอกไม้บานได้ ฟ้าก็เป็นสีเทาได้ อยากเผาป่าอยากกินผักหวานกับไข่มดส้มก็ต้องทนอึดอัดกับสภาพอากาศที่ตามมาจากการเผาป่า

 


โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี แม้แต่ผักหวานกับอากาศบริสุทธิ์

 



ดอกพะยอมบานทั้งเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งหมู่บ้านสันคะยอม ที่เห็นพะยอมเพียงต้นเดียว และเป็นต้นที่เจ้าของบ้านนำมาปลูกใหม่ ส่วนคนสันคะยอมแท้ ๆ นั้นมีต้นพะยอมปลูกไว้สูงยังไม่ถึงเอว ต้นที่บานสะพรั่งอวดโลกอยู่นี้ อยู่ที่หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และถนนที่เห็นในรูปนี้เป็นถนนสายต้นพะยอมสูงใหญ่กลีบดอกโรยไปตามถนน (ถนนที่มีสาวถูกฆ่ามัดคอตายในรถ คาดว่าจะเป็นบริเวณใต้ต้นพะยอมนี้)


ส่วนตลาดต้นพะยอมไม่เหลือต้นพะยอมไว้ให้ชมสักต้น โดนถนนกินหมด อย่าไปพูดถึงมันเลยนะ พูดแล้วเกลียดความเจริญกับคนที่ไม่รักต้นไม้

 



มีพี่คนหนึ่งหลงใหลต้นพะยอมมาก เธอยืนแหงนหน้ามองพะยอมต้นใหญ่ที่ใต้ต้นปล่อยให้กลีบดอกโปรยปรายลงมา พร้อมกับพึมพำว่า อยากตายใต้ต้นพะยอม ส่วนอีกคนหนึ่งขับรถผ่านไปเห็นต้นงิ้วที่ป่าช้าแห่งหนึ่ง เธอโทรมาบอกฉันว่าถ้าเธอตายได้มาเผาที่นี่คงมีความสุข ฉันทั้งขำทั้งเย้ยหยันความสุขของเธอ พวกศิลปินน่ะ (ฮา)

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…