Skip to main content


(เพลงปราสาทไหว บรรเลงพิณเปี๊ยะ โดย สมบูรณ์ กาวิชัย)

ผู้ส่งเข้าประกวด: นางรัษฎาพร บริจินดา
ได้รับรางวัลจากการประกวดต้นไม้ใหญ่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ประจำปี 2549
สถานที่ วัดเชียงมั่น
เลขที่ 171 ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
อายุ ประมาณ 80 ปี
ความสูง ประมาณ 7 เมตร
เส้นรอบวง 0.60 เมตร

วัดเชียงมั่นเป็นวัดแรกของเมืองเชียงใหม่ ตามตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อครั้งที่พญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่นั้น ได้สร้างวังขึ้นที่นี่ จึงถือเป็นบ้านของท่าน เชียงใหม่มีอายุครบ 713 ปีในวันนี้ (12 เมษายน 2552) การสร้างเมืองเชียงใหม่มีการกำหนดฤกษ์ยามและบันทึกไว้ชัดเจน โดยระบุให้เชียงใหม่เป็นเมืองวนานคร มีต้นไม้เป็นหลัก มีแหล่งน้ำคอยเลี้ยงต้นไม้ มีชัยภูมิรองรับความเจริญเติบโตของเมือง

"ต้นลั่นทมในวัดเชียงมั่นนี้ มีอายุประมาณ 80 ปี เป็นพุ่มใหญ่สวยมาก ถึงคราวผลัดใบ จะมีดอกสีขาวผลิออกมาเต็มต้น มีกลิ่นหอม......ทุกวัน เวลา ตี 5 และ 6 โมงเย็น จะมีคุณตา อายุ 75 ปีหิ้วถัง อุปกรณ์ดูแลต้นไม้ไปวัดทุกวันเพื่อรดต้นไม้ พรวนดินให้ปุ๋ย ดูคุณตามีความสุขมาก .........."

คุณรัษฎาพร บริจินดา
ชุมชนวัดเชียงมั่น

มนุษย์มักมีความทรงจำต่อสรรพสิ่งเสมอ ลั่นทมต้นใหญ่ต้นนี้ตั้งอยู่ข้างโบสถ์วัดเชียงมั่น ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่พญามังรายมาพำนักอยู่ที่นี่เมื่อครั้งสร้างเมืองเชียงใหม่ นอกจากความสำคัญต่อเมืองดังที่ว่าแล้ว ต้นลั่นทมในวัดนี้ต้องมีความหมายต่อคุณตาที่ตื่นแต่เช้ามารดน้ำพรวนดินด้วยความสุขอย่างยิ่ง

คุณตาอาจเป็นคนปลูกลั่นทมต้นนี้ อาจเคยพาคุณยายมาเก็บดอกไม้บูชาพระที่นี่ ความทรงจำมากมายอาจฝังไว้ใต้ต้นลั่นทมต้นนี้

เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีชีวิต วันนี้ผู้คนจะฆ่ากันตายใต้ฟ้าเดียวกัน เมืองเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ฟ้าเมืองเชียงใหม่ร่ำไห้ สงครามแห่งสีเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาชนะกันคนละยก

ปิดสนามบิน เหลืองชนะ
ปิดการประชุมอาเซียน แดงชนะ

..........

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…