Skip to main content
 


Pavarotti Last Performance "Nessun Dorma" @ Torino 2006

แม่ไร้สี

ขณะถ่ายภาพต้นงิ้วที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งเมื่อเย็นวันหนึ่ง แม่ออกมาเป็นเพื่อนฉัน ในวันฟ้าหม่นมัวฉันทำงานแม่ยืนเหม่อมองรอบกาย  เมื่อฉันผละจากกล้องและต้นงิ้วต้นนั้น ถ่ายรูปแม่ไว้สองรูป...ไกล ๆ  ฉันเป็นช่างภาพที่ถ่ายแต่ภาพคนอื่นๆ มากมาย  ถ่ายภาพหมาแมว ถ่ายภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้ ดอกไม้ แต่ไม่เคยถ่ายภาพแม่ดี ๆ สักรูป           
          แม่
         
ไม่มีสี

ต้นพะยอมไร้สี

บ่ายวันหนึ่งฉันพบถนนสายเล็ก ๆ ที่มีดอกพะยอมบานสะพรั่งตลอดถนนนี้โดยบังเอิญ เป็นถนนเส้นหลังปั๊มน้ำมันในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ฉันชอบถนนเส้นนี้ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ เป็นมุมที่มองเห็นดอยสุเทพ และพระอาทิตย์ตกดินงามที่สุด เพราะไม่มีสายไฟฟ้าบดบัง และอยู่ในระยะใกล้ดอยมาก ๆ  ถัดจากถนนเป็นทุ่งนาของคณะเกษตรศาสตร์  และแนวต้นไม้ มีฉากหลังเป็นภูเขา  วันนี้ดอกพะยอมบานขาวสะพรั่งกลีบดอกร่วงตลอดแนวถนน อีกด้านหนึ่งริมคันนาเป็นแนวต้นศรีตรัง กำลังบานเช่นกัน ด้านหนึ่งสีม่วงกระจ่างตา ด้านหนึ่งขาวนวล
         
แต่วันนี้ดอกไม้ไร้สี

ดอกเมียว เมียว ไร้สี

ปีที่ผ่านมาฉันสร้างบ้าน  ได้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่าการสร้างบ้านไม่ใช่การเดินออกไปปากซอยเพื่อหาซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ไม่อร่อยแล้วไม่กินก็ได้ แต่การสร้างบ้านเป็นการคิด ทำ  ใส่ใจ ตั้งแต่การหาดอกไม้ ใบไม้ และสิ่งอันเป็นมงคลทั้งหลายมาใส่ไว้ในเสาเอกของบ้าน บ้านฉันเท่าที่จำได้ฉันใส่เซรามิคที่ปั้นและเผาโดยเพื่อนสนิท เป็นรูปหัวใจ มีความหมายถึงมิตรที่ใส่ใจกันแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ฉันใส่ใบไม้มงคลจากบ้านพี่ที่รักใคร่กัน  ฉันใส่ดอกปีบ ดอกไม้เพื่อนสนิทของฉันลงไป  ที่สำคัญฉันใส่ใจ  มาถึงวันนี้บ้านเสร็จแล้ว ฉันนอนหลับกินอิ่ม  ปลูกต้นไม้งอกงามแม้กระทั่งดอกเมียว เมียว ที่ว่ากันว่าขึ้นเฉพาะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉันลองเพาะที่บ้านเมื่อหนาวที่ผ่านมา ก็พบว่าเมียว เมียว เติบโตได้ที่สันคะยอม ....ขณะที่บางสิ่งบางอย่างหายไป
         
บางสิ่งที่งดงาม
         
เหมือนดอกเมียว เมียว สีชมพู
         
วันนี้เมียว เมียว ไร้สี

จักรยานไร้สี

สองล้อคันนี้พาฉันออกไปสู่โลกยามเช้าที่สดใส งดงาม พาฉันออกไปสัมผัสกับขุนเขา ดอกไม้ป่า  ก้อนหิน ดิน ทราย  เหงื่อ และรอยยิ้ม  บางวันขอบน้ำเบื้องหน้าสัมผัสกับขุนเขา มีสายลมแผ่วเบาช่วยซับเหงื่อจากการปีนป่ายตะกายหนทางที่สูงชัน  นกสีขาวสองตัวบินไปด้วยกัน ตัดผ่านเวิ้งน้ำหายไปที่ชายป่า ...วูบหนึ่งฉันใจหาย  นกบินจากไป มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน แม้แต่มิตรภาพที่คิดว่างดงาม
         
ในวันที่จักรยานไร้สี
         
สี
         
ไร้คุณค่าไร้ความหมาย

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…