Skip to main content


ไปปายมา เหมือนพูดคำฮิตยังไงไม่รู้ ฉันไปปายมาจริงๆ ถามว่าไปบ่อยไหม แปดปีมานี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่ไป แต่ละครั้งเว้นวรรคสี่ปี เพราะฉะนั้นฉันจึงเป็นความเปลี่ยนแปลงของปายค่อนข้างเยอะ

แปดปีที่แล้ว เป็นช่วงที่เพื่อน ๆ ฮิตไปปาย แต่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก ปายเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวฝรั่งที่เขานิยมมาเช่าบ้านอยู่เป็นเดือน ไม่ทำอะไร วัน ๆ ขี่จักรยาน กิน ๆ นอน อ่านหนังสือ ฉันไม่รู้สึกอะไรกับปายในช่วงเวลานั้น เพราะก็เหมือนบ้านนอกที่ฉันจากมา ไม่มีสิ่งสะดวกสบาย (อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัว ชอบสบายค่ะ) อากาศร้อน นอนมุ้ง แมลงเยอะ

 

สี่ปีต่อมา ปายเริ่มเป็นที่รู้จัก เมืองเริ่มเจริญขึ้นผิดหูผิดตา ฉันมาจากแม่ฮ่องสอนกับเพื่อน ๆ ขับรถผ่านเข้าเมืองปาย เมืองเล็ก ๆ ในภาพความทรงจำของฉัน ที่มีถนนหลักเพียงเส้นเดียว มายังไงก็ไม่หลง

 

แต่ฉันหลง!!! ถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่องเกิดขึ้น มีสนามบินด้วย ดีจัง

 

ฉันว่าถนนไปแม่ฮ่องสอนเป็นถนนที่เร้าใจสายหนึ่ง ทั้งสูงทั้งชัน เหมาะสำหรับพาโฟว์วิลล์น้อย ๆ ของฉันไปออกกำลังกายให้ได้ใช้เกียร์สำหรับขึ้นเขาบ้าง

 

ปีนี้ฉันได้ขับรถเองอีกครั้ง หลังจากเช็ครถก่อนไป เลือดลมเริ่มสูบฉีดเพราะไม่ได้อยู่ในอารมณ์เดินทางแบบนี้มานานนัก รถยังอยู่ในสภาพดีมาก ๆ ขึ้นเขาสูง ๆ ชัน ๆ หักศอกแล้วศอกเล่าได้อย่างสบาย แต่สิ่งที่รู้สึกอย่างหนึ่งคือรู้สึกว่าขับรถง่ายขึ้น ฉันพูดกับเพื่อนร่วมทาง เธอบอกว่าอาจเป็นเพราะว่าเราแก่ ฉันว่าไม่น่าจะใช่ หรือว่ามีสิ่งก่อสร้างข้างทางเยอะทำให้เราเพลินตา ก็ไม่น่าจะใช่อีกนั่นแหละ จำได้ว่าแปดปีที่แล้วหิวน้ำก็ไม่มีไหล่ทางให้จอดกินน้ำ เด็กน้อยลูกสาวเพื่อนอ้วกพุ่งใส่ฉันจนเต็มหน้าตักขณะขับรถ ก็ยังไม่มีที่จอดรถให้ล้างตัว ต้องขับรถดมอ้วกเด็กไปอีกไกล โชคดีที่เธอกินโยเกิร์ตรสสตรอเบอรี่ กลิ่นก็เลยเหมือนนมสตรอเบอรี่ พอทน...

 

ปีนี้ขับรถง่ายจริง ๆ เพื่อนที่ปายเฉลยว่าเขาขยายถนน ทำให้ความโค้งเว้า จังหวะเลี้ยวเป็นไปได้ดีกว่าเมื่อก่อน สภาพถนนก็ดีขึ้น

 

ที่สำคัญปายในวันต้นฝนแบบนี้ นักท่องเที่ยวมีน้อย กลางคืนนั่งกินเบียร์ที่ร้าน Buffalo Exchange ฝนปรอย มีฝรั่งเดินเล่นบนถนนเหงา ๆ มีหิ่งห้อยบินไปมา เม้าท์แตกเม้าท์แตน แล้วพบว่า ฉันชอบปายแบบนี้แฮะ!

 

 













บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…