ปายกลางฝน 4 : ไปวัดจันทร์

 

ได้เวลาพารถคันน้อย ๆ ไปออกกำลังกายอีกแล้ว คราวนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้านวัดจันทร์ ฉันรู้จักในนามป่าสนวัดจันทร์ ความที่ชอบต้นสนสองใบ สามใบ และไม่เคยแยกออกสักทีว่าอย่างไหนสองใบ หรือสามใบ แต่ที่ชอบคือใบฝอย ๆ เวลามองไกล ๆ แล้วดูเป็นฟู่ ๆ สวยดี ใบสนไม่มีน้ำ ยามหน้าแล้งจึงยังเขียวอยู่เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ข้างใน

อยากมาป่าสนวัดจันทร์นานมากแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที ได้ยินพี่ที่เคยไปเมื่อครั้งที่ทางยังไม่ได้ลาดยาง ว่าทางโหดโครต ๆ ก็ได้แต่ยั้งตัวเองไว้ เพราะแคริบเบียนน้อยของฉันนั้นไม่ใจว่าฉันจะพามันไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ป่าสนวัดจันทร์ หรือบ้านวัดจันทร์อยู่ห่างจากอ.ปายประมาณ 55 ก.ม. ออกจากปายย้อนกลับขึ้นไปทางเชียงใหม่ประมาณ 14 ก.ม. จะมีทางแยกอยู่ขวามือ เข้าไปอีก 42 ก.ม. ถนนลัดเลาะอยู่ในหุบเขา และไต่ขึ้นไปบนยอดเขา ทั้งสูง ทั้งชัน และยาวไกล พันแปดร้อยโค้งมาปาย-แม่ฮ่องสอนสมัยก่อนว่าโหดแล้ว เจอ 42 ก.ม.มาวัดจันทร์ก็ทำให้หัวใจได้เต้นแรงขึ้น

ถนนบางจุดเหมือนสีขาวแต้มอยู่บนภูเขาข้างหน้าไกล ๆ ซึ่งเราต้องไต่ไปให้ถึงตรงนั้น และผ่านไปให้ได้ น้องจิ๊บของฉันต้องใช้เกียร์ขับเคลื่อนสี่ล้อ และใส่เกียร์จนถึงเกียร์หนึ่ง ค่อย ๆ เหยียบคันเร่งไต่ขึ้นไป จนเกือบสุดปลายเท้าอยู่แล้ว (รถเก๋งหรือรถที่มีพละกำลังดี ๆ น่าจะขับง่ายกว่า)

แอบคิดว่าถ้าเกียร์ก็หมด คันเร่งก็ไม่มีให้เร่งแล้ว ฉันคงติดปีก บินไปเลยดีกว่า...

การขับรถบนภูเขามีทั้งเหมือนและต่างกับการใช้ชีวิต ขับรถขาขึ้นนั้นยากและต้องระมัดระวังอย่างสูง บางครั้งอยากแวะพักแทบตายก็ไม่มีที่พัก ยิ่งระหว่างทางสูงชันอันตรายแล้วเจอพายุฝนตกลงมาอย่างหนักจนมองทางข้างหน้าไม่ได้นั้น ยิ่งต้องระมัดระวัง ของแถมที่ถนนเส้นนี้ให้มาคือความอดทน เพราะถนนเส้นนี้ไม่มีห้องน้ำเลย เจออากาศเย็น ๆ ชื้น ๆ เหงื่อไม่ออก ร่างกายก็เพียรขับน้ำออกทางปัสสาวะ ...นี่แหละการขับรถขาขึ้น ไม่เหมือนชีวิตขาขึ้นจริง ๆ

ขาลงเล่า ไม่จำเป็นอย่าได้เหยียบเบรกเป็นอันขาด หาไม่เบรกจะไหม้ ครัชจะไหม้  พ่อกรอกหูมาตั้งแต่เด็กว่า ให้เปลี่ยนเกียร์ ขึ้นเขาหรือลงเขาจงใช้เกียร์ต่ำ ลดเกียร์ไปเรื่อย ๆ ทางลงบนถนนเส้นนี้ก็ใช่ย่อย บางช่วงก็ชันพุ่งลงไปเหมือนฝันว่าตกจากที่สูง สำหรับฉันแล้วขับรถลงเขาง่ายกว่าขึ้นเขา ไม่เหมือนชีวิตขาลงจริงๆ

สองข้างทางไปวัดจันทร์ บางช่วงมีธารน้ำใสของแม่น้ำปายคลอเคลียไป บางช่วงมีหาดทรายมองเห็นน้ำใสจนอยากจอดรถลงไปลุยน้ำเล่น โดยเฉพาะช่วงบ้านเหมืองแร่ ที่เคยเป็นเหมืองแร่ฟลูออไรด์ทางแยกเข้าบ้านเมืองแปง

ประมาณหนึ่งชั่วโมง ถึงบ้านวัดจันทร์ เห็นโรงพยาบาลตั้งอยู่บนเนินเขาด้านขวามือ คงเป็นโรงพยาบาลที่สวยที่สุดในโลก

ป่าสนวัดจันทร์เป็นป่าสนที่กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงประมาณ 900-1100 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีอากาศเย็นชื้นในฤดูฝน เย็นสบายในฤดูร้อน และหนาวสุด ๆ ในฤดูหนาว ในเขตอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวปกากญอที่ตั้งอยู่มานาน มีภาษาพูด ภาษาเขียน ประเพณี และวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ : สำนักงานศึกษาและพัฒนาการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนบน 291 ถนนแก้วนวรัฐ ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50000
โทรศัพท:์ (053)249349 โทรสาร: (053)260072 (ในวันเวลาราชการ)

การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
จากปายมีรถสองแถวที่ตลาดแสงทอง ออกวันละ 1 เที่ยว เวลา 13.00
จากเชียงใหม่มีรถสองแถวประจำทาง ขึ้นรถที่สถานีขนส่งช้างเผือก รถออกเวลา 09.00 น., 11.00 น. ค่าโดยสารคนละ 110.- บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 6- 7 ชั่วโมง

****************

ลิ้งค์เพลงค่ะ ชื่อเพลง
Wild Child  ของ Enya น่าจะเข้ากับบรรยากาศป่าสนวัดจันทร์  จริง ๆ แล้วพยายามหาเพลงของชิ ถ้าได้เสียงเตหน่า คงจะดีกว่านี้ แต่หาไม่ได้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=YvdhByrevZA&feature=related

 

ความเห็น

Submitted by อูลา on

รูปสวย วิวงาม เรื่องก็ ชวนน่าอ่าน เขียนอีกนะ เส้นทางนี้ เคยไปครึ่งหนึ่ง เรียกความทรงจำเดิมๆ กลับมาเยือน เลย

Submitted by อ้ายแสงเมา (ไม่ค้าง) on

โห พูดถึง ป่าสนวัดจันทร์ ทำให้อ้ายอยากไปคารวะสัมผัสอีก จำได้ว่าที่ไปครั้งแรก หมู่เฮาไปร่วมให้กำลังใจพี่น้องวัดจันทร์ ที่กำลังต่อสู้เพื่อรักษาป่าสนเอาไว้ เป็นป่าสนธรรมชาติ แต่พวกทางการ (การของผู้ใด๋ก่บ่อฮู้เน้อ ? พวก ส. เสือใส่เกือกไปเรื่อย หนอยแน๊ะ หหหาญกล้าบังอาจจะมาทำบาป ตัดป่าสนของชาวบ้าน ของพวกเราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด(ขอโทษ ขอตะโกนร้องเพลงใส่หู พวกท่านทางการ หน่อยเถิด ... โ ล ก ร้ อ น แ ล้ ว โ ว๊ ย !)

ในที่สุดพวกทางการที่อวดรู้ ชอบทำลายป่า จะเอามาขายเป็นสินค้า ก็ต้องถอยร่นกรูดๆ ออกไป จนมีป่าสนให้ ไอ่หนูโอฯ ได้ไปเยือนมาจนบัดนี้!

ภาพงามมาก จริงๆ นี่คือฝีมืออาชีพใช่ไหม? ถ้าบ่ไจ้ คงไม่งามแบบนี้หว่ะ ha ha ฮักษาสุขภาพ เน้อ ไอ่หนูนักเดินทาง และก้อดูแลฮักษาม้าขาวที่ไอ่หนูควบไปไหนมาไหน ตวย

Submitted by โอ on

ที่ได้ไปก็โดยบังเอิญค่ะ ว่าครอบครัววงษ์สวรรค์ นำถังออกซิเจนของอา'รงค์ ไปบริจาคที่โรงพยาบาลวัดจันทร์ ซึ่งมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเยอะ เนื่องจากอากาศชื้นเย็น

โรงพยาบาลน่ารักมาก ตั้งอยู่บนเนินเขา รูปที่ 5-6 นั่นถ่ายจากโรงพยาบาลค่ะ เป็นถนนฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลค่ะ

สวยจนน่ามาป่วยที่นี่กิงๆ

Submitted by อ้ายแสงดาวฯ on

เฮ่ย ป่วยเป็นปีได้ไหม เพื่อนฝูงจะได้มีข้ออ้างไปเยือนป่าสน และไปเยือนเธอ ha ha

Submitted by phakhayor watchan on

ส่งมาโดย อ้ายแสงเมา (ไม่ค้าง) เมื่อ 24 มิ.ย. 2009 - 11:58:26 - ip: 127.0.0.1 118.172.38.132
โห พูดถึง ป่าสนวัดจันทร์ ทำให้อ้ายอยากไปคารวะสัมผัสอีก จำได้ว่าที่ไปครั้งแรก หมู่เฮาไปร่วมให้กำลังใจพี่น้องวัดจันทร์ ที่กำลังต่อสู้เพื่อรักษาป่าสนเอาไว้ เป็นป่าสนธรรมชาติ แต่พวกทางการ (การของผู้ใด๋ก่บ่อฮู้เน้อ ? พวก ส. เสือใส่เกือกไปเรื่อย หนอยแน๊ะ หหหาญกล้าบังอาจจะมาทำบาป ตัดป่าสนของชาวบ้าน ของพวกเราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด(ขอโทษ ขอตะโกนร้องเพลงใส่หู พวกท่านทางการ หน่อยเถิด ... โ ล ก ร้ อ น แ ล้ ว โ ว๊ ย !)
ในที่สุดพวกทางการที่อวดรู้ ชอบทำลายป่า จะเอามาขายเป็นสินค้า ก็ต้องถอยร่นกรูดๆ ออกไป จนมีป่าสนให้ ไอ่หนูโอฯ ได้ไปเยือนมาจนบัดนี้!
<ผมเองก็ต้องขอบคุณพี่มากๆวันนั้นถ้าพี่ไม่ไปตอนนี้หมู่บ้านผมก็คงไม่มีป่าสนแล้ว จำได้ว่าตอนนั้นผมกำลังเรียน ป2 อยู่ วันนั้นผมหนีเรียนไปร่วมกับเขาด้วย >

เดินทางหน้าร้อน : ลาว

 

แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ

น้องแก้ม เดอะ สตาร์ เธอชนะ แต่พิธีกรติดลบ

 

เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้

ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร

 

ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย

งามในความเศร้า

 

ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่างาม  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก