ดอกไม้ริมทาง
ใครจะนึกบ้างว่าเมืองที่ “อะไรก็ปาย” ในพ.ศ.นี้ เคยเป็นดินแดนสำหรับเนรเทศผู้กระทำความผิดมาก่อน ย้อนหลังไปไกลเจ็ดร้อยกว่าปี เมื่อเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในพ.ศ. 1839 ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองเชียงใหม่นี้ ปายก็เป็นเมืองหน้าด่านเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ ในชื่อว่า “เมืองน้อย” ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองน้อย (อยู่ระหว่างปายกับอ.เวียงแหง) เป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ อยู่ต้น ๆ ของแม่น้ำปาย
\\/--break--\>
ดอยกลางฝน
ตามเอกสารที่ปรากฏและระบุถึงการเนรเทศ คนแรกเป็นถึงกษัตริย์องค์หนึ่งของเชียงใหม่ ชื่อว่าพญายอดเชียงราย พระองค์ทำความผิดหลายกระทง
“พระองค์เกิดวันจันทร์ ถือว่าเป็นกาลกิณีแก่บ้านเมือง ไม่ประพฤติอยู่ในขนบธรรมเนียมของท้าวพญา ไม่ประพฤติอยู่ในทศพิธราชธรรม และยังมีใจฝักใฝ่ไมตรีกับฮ่อ เสนาอำมาตย์จึงได้ล้มราชบัลลังก์และได้อัญเชิญให้ไปครองเมืองน้อย ในปี พ.ศ. 2038”
บ้านบนต้นไม้ ที่ใคร ๆ นิยมไปพักกัน ถ่ายเมื่อประมาณสิบปีก่อน
ขณะที่บางครั้งเชียงใหม่ขาดแคลนกษัตริย์ก็มีการอัญเชิญเจ้าเมืองน้อยไปครองเมืองเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน (พระเมืองเกษแก้ว) ปายเป็นเมืองที่อยู่ในประวัติศาสตร์ และซ่อนตัวอยู่ในหุบเขามายาวนาน มีเรื่องราวการสู้รบระหว่างเมืองต่าง ๆ ปรากฏเป็นหลักฐานมาโดยตลอด
ย้อนกลับมาถึงการเนรเทศ 490 ปีผ่านไป เมื่อปี 2528 ตอนนั้นฉันใกล้จบมัธยมปลาย มีเพื่อนคนหนึ่งพ่อของเธอเป็นตำรวจ จะด้วยเหตุผลใดไม่กล้าถาม วันหนึ่งเพื่อนมาบอกว่าพ่อของเธอถูกย้ายไปอยู่อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งการเดินทางจากบ้านไปปายนั้นยาวไกลเกินจินตนการ ต้องขึ้นรถมาเชียงใหม่ ต่อรถมาปาย ตอนมาเรียนเชียงใหม่ฉันเคยเจอพ่อเพื่อนบนรถโดยสารด้วย ยังเคยยิ้มให้กัน
อิฉันและรถที่รักยิ่ง ระหว่างทาง รูปนี้ถ่ายโดย’ปราย พันแสง
พ่อของฉันบอกว่าพ่อเพื่อนทำผิดทางราชการเขาก็เลยลงโทษโดยการให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนห่างไกลและทุรกันดาร นั่นคือเหตุการณ์เมื่อ 24 ปีที่แล้ว รู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น วันเวลาผ่านไป เมื่อ 4-5 ปีก่อน ฉันยังได้ยินว่ามีการโยกย้ายทหารคนหนึ่งไปอยู่ที่อ.ปางมะผ้า (ห่างจากปายประมาณ 1 ชั่วโมง) ด้วยเหตุผลเดียวกัน
น่าสังเกตว่า ด้วยเหตุผลเดียวกันสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ที่นี่เป็นดินแดนทุรกันดารที่ใช้เนรเทศผู้กระทำผิด แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งยิ่งไกล ยิ่งยาก ยิ่งน่าค้นหาตามไปดูไปสัมผัส บางคนอยู่ไกลคนละขอบฟ้า ยังดั้นด้นมานัยว่าที่นี่เป็นเมกกะของผู้เดินทาง ในชีวิตต้องมาสัมผัสสักครั้ง
จุดนี้น่าจะเป็นบริเวณใกล้เคียงหรืออาจเป็นที่ coffee in love ในปัจจุบัน
ถ้าด้วยเหตุผลนี้ ฉันคิดว่านี่คือปายในฤดูฝน ปายที่มีทุ่งข้าวเขียว ฝนพรำ อากาศสดสะอาด มีคนพอประมาณ ผู้มาเยือนมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้อยู่ปาย แลกเปลี่ยน เชื่อมมิตร ไม่ใช่ปายที่ไหล่ชนไหล่ คนขายของอยากกลับบ้านก็กลับไม่ได้ เพราะปิดถนนและผู้คนแออัดจนไม่อาจออกไป
โลกหมุนเร็ว แต่บางจังหวะ ปายยังช้าอยู่