Skip to main content

คราวนี้ไม่ค่อยกล้าทุบกล้องเท่าไรนัก เพราะใช้ Nikon D70 ถ่ายอาหาร โดยใช้เลนส์ Macro (อ่านว่า มาโคร) คือเลนส์ที่ใช้ถ่ายวัตถุในระยะประชิดระดับ 1 เซ็นได้ พวกงาน close up ทั้งหลายมักใช้เลนส์ หรือโหมดมาโครนี้ในกล้องดิจิตอล ที่มีวิธีดูง่าย ๆ คือ ปุ่มที่เป็นเครื่องหมายรูปดอกไม้ในตัวกล้อง นั่นคือปุ่มมาโคร สำหรับถ่ายดอกไม้ใกล้ ๆ ถ่ายมด ถ่ายขี้จิ้งจก หรือถ่ายอาหารอย่างวันนี้เป็นต้น

เลนส์ที่ใช้ยี่ห้อ Tokina 100 ของญี่ปุ่น สีสันอิ่มเอม แดงเป็นแดง เขียวเป็นเขียว วันนี้ถ่ายลาบปลาคังเป็นอาหารเช้า ใช้แสงแดดยามเช้า แดดแรกของวันนี้ ปกติเขาถ่ายอาหารกันในสตูดิโอ มีแสงไฟเจิดจ้า มีสรรพสิ่งในการเนรมิตอาหารให้ดูน่ากิน สำหรับอิฉันไม่มีสตูดิโอ มีเพียงท้องฟ้า สายลม และแสงแดด

 

วันนี้จึงมีลาบปลาคังแดดเช้ามายั่วน้ำลาย

 

 

ถ่ายไปเรื่อย ๆ แล้วมีความรู้สึกว่าถ่ายอาหารต้องถ่ายแนวตั้ง จึงจะมีที่ว่างเหลือไว้ให้คนทำอาร์ตเวิร์คใช้พื้นที่ได้บ้าง เช่น โปรยคำ หรือใส่ลูกเล่นอื่น ๆ รูปนี้คิดว่าใช้ได้ดีที่สุด ได้อาหาร และผักกับลาบเกือบทุกอย่าง

 

 

รูปนี้ใกล้เข้ามาอีกนิด เห็นรายละเอียดมากขึ้นอีกหน่อย นำไปใช้งานได้เหมือนกัน

 

 

รูปนี้เห็นเนื้อปลาแบบคัก ๆ ขาวสะอาด มีพริก มีขอบใบผักไผ่กับลาบ

 

 

พยายามถ่ายรูปแนวนอน ถ่ายออกมาแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยถูกจริตเท่าไร รู้สึกว่ารายละเอียดในภาพเยอะเกินกว่าจะจัดภาพให้มีองค์ประกอบที่ดีได้

 

 

ภาพนี้ถ่ายให้เห็นรูปแบบของการถ่ายอาหารที่เห็นทั่ว ๆ ไป เวลาถ่ายอาหารกุ๊กมักทำอาหารจานบึ้ม ๆ มาให้ ซึ่งเห็นแล้วจะเป็นลม เพราะเวลาถ่ายจริง ๆ เราใช้อาหารน้อยมาก คนทำอาหารกับคนถ่ายภาพอาหารมักคิดสวนทางกัน บอกเท่าไรเขาก็ไม่ฟัง ว่าอาหารจานใหญ่ ๆ ปริมาณเยอะ ๆ นั้นถ่ายออกมามันรก เหมือนภาพนี้เห็นเนื้อปลาคังเป็นก้อนเล็ก ๆ จำนวนมาก ขณะที่รูปแรก ๆ เราแบ่งออกจากจานนี้มาใช้สักสองช้อนโต๊ะ

 

การถ่ายบางครั้งยังต้องหาอะไรมารองอาหารเพื่อให้สูงขึ้นจากจาน อะไรที่ว่านั้นบางครั้งก็คือแตงกวา หรือผักอื่น ๆ

 

เพื่อนคนหนึ่งเคยแนะนำว่า มีคนมืออาชีพเคยแนะนำเธอว่า เวลาถ่ายอาหารให้ถ่ายเฉพาะอาหารและสิ่งที่เกี่ยวกับอาหารเท่านั้น อย่าเอาอย่างอื่นมาเกี่ยวข้อง อันนี้เป็นเหมือนกฎของแมกกาซีนใหญ่ ๆ ระดับโลกที่เขาอ้างอิงกันมา อาจเป็นเพราะคราวนั้นเราถ่ายขนมปังแล้วเอาดอกไม้มาวางประกอบ ดอกไม้กับขนมปังคงไม่เกี่ยวข้องกัน เราฟังแล้วก็คิดตาม แล้วก็สรุปกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร ถ้าดอกไม้บนกองขนมปังจะทำให้เรามีความสุขในการถ่ายรูป เราดูแล้วเราสวยเอง ก็โอเคแล้ว

 

คราวนี้เราถ่ายลาบปลาคัง เราเด็ดดอกผักกวางตุ้งมาวางแหมะไว้ให้มันเหลืองเล่น ๆ ผักกวางตุ้งไม่เกี่ยวกับอาหารจานนี้เลย แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร รู้แล้วว่าไม่เกี่ยว...แต่จะใส่ ใส่แล้วรสชาติอาหารไม่เปลี่ยน ตำรวจไม่จับ ไม่เป็นไร

 

 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…