Skip to main content

ภาพนี้ถ่ายด้วยความโลภ ฟ้าก็อยากได้ ก้อนเมฆก็อยากได้ ใช้เลนส์ไวด์หรือเลนส์สำหรับถ่ายภาพให้ได้มุมกว้างถ่าย เวลาขณะนั้นประมาณเที่ยง ฟ้าสีฟ้า เมฆเต็มฟ้า แดดจัดมาก ถ้าวัดแสงที่ก้อนเมฆ ข้างล่างจะมืด ถ้าวัดแสงที่ข้างล่างก้อนเมฆจะจ้ารายละเอียดหายไปเลย

 
จึงวัดแสงที่จุดกลางที่สุดให้ได้ภาพออกมากลาง ๆ ภาพนี้ตรงกลางกลุ่มเมฆรายละเอียดยังหายไปนิดหน่อย และทุ่งเขียว ๆ ก็มืดไปนิด แต่เอามาแก้ที่ raw file ได้แสงเงาในก้อนเมฆกลับมา
 
 
ภาพนี้คือไฟล์ดิบที่ถ่ายออกมาได้
 
 
สำหรับผู้ที่ไม่มี raw file มีวิธีเล่นง่าย ๆ ด้วยการทำภาพสองภาพมาซ้อนกัน ภาพแรก เปิดไปที่เมนู image : adjustment : level จากนั้นเลือกปรับโดยดึงลูกศรซ้ายมือมาทางขวา หรือเลือกดึงลูกศรกลางด้วยตามความเหมาะสมของภาพ ให้ภาพมืดลง เพื่อให้ฟ้าใสขึ้น ลดแสงของก้อนเมฆลง จากนั้น save อีกชื่อหนึ่ง
 
 
จากไฟล์ดิบไฟล์แรก ทำขึ้นตอนเหมือนภาพ 2 แต่ดึงลูกศรด้านขวามาทางซ้าย ปรับภาพให้สว่างขึ้น เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้ทุ่งเขียว ๆ
 
 
เปิดไฟล์ภาพ 2 ภาพมืดที่ save ไว้อีกชื่อหนึ่งขึ้นมา ถ้าเป็นโฟโต้ช็อป cs 4 คลิ้กที่แถบชื่อไฟล์ตรงเหนือภาพ แล้วดึงลงมานิดนึง หน้าต่างของภาพจะซ้อนกันให้เห็น ไม่งั้นจะเห็นภาพทีละไฟล์ ทำขั้นตอนต่อไปไม่ได้
 
 
จากนั้นใช้ลูกศรชี้ที่เครื่องหมาย move tool ตรงแถบซ้ายซึ่งมันจะอยู่อันแรก แล้วลากเมาส์มาที่รูปใดรูปหนึ่ง จากนั้นคลิ้กแล้วลากดึงรูปมาที่อีกรูปหนึ่งลูกศรที่เมาส์จะมีเครื่องหมายบวกเกิดขึ้น แล้วปล่อยมือที่คลิกเมาส์อยู่ รูปสองรูปจะทับกันอย่างที่เห็นในภาพ
 
 
ใช้เมาส์ชี้ที่ภาพบน แล้วเลื่อนให้ทับกันสนิท ขณะนี้ภาพมืดจะทับภาพสว่างอยู่ เราต้องการทุ่งสีเขียวจากภาพสว่าง และต้องการฟ้าใส ๆ จากภาพมืด แต่ที่เห็นตอนนี้คือฟ้าใสแต่ทุ่งเขียวมืด เราก็ลบตรงนี้ออก ด้วยการคลิ้กที่ปุ่มยางลบ ลูกศรที่เมาส์จะเปลี่ยนเป็นวงกลม เราเปลี่ยนขนาดวงกลมได้ที่ปุ่ม brush ตามภาพ แล้วลบส่วนมืดของภาพด้วยการคลิ้กเมาส์แล้วลากไปตรงส่วนที่ต้องการลบ ตามภาพ
 
 
เราลบตรงส่วนต้นไม้ที่บ้านตรงกลางภาพ บ้าน และทุ่งสีเขียว เพื่อใช้ส่วนภาพของภาพสว่าง และเหลือส่วนบนทิ้งท้องฟ้าไว้
 
 
นี่คือภาพจริงที่เราปรับ แต่ปรับจาก raw file จะเห็นว่าก้อนเมฆเนียนกว่าปรับภาพจากไฟล์ jpg เยอะเลย เทียบดูกับภาพที่หนึ่ง อุปมา raw file ก็เหมือนทำอาหารจากปลาสด ๆ jpg file ก็เหมือนปลาแช่แข็ง ความอร่อย รสชาติ ความสดต่างกันเยอะเลย
 
ทำภาพเสร็จอย่าลืม save ภาพล่ะ
 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ
โอ ไม้จัตวา
 
โอ ไม้จัตวา
  เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
โอ ไม้จัตวา
  ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย
โอ ไม้จัตวา
  ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่า”งาม”  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก
โอ ไม้จัตวา
    ชอบคำนี้ “คนขายโชค” เป็นภาษาลาวใช้เรียกคนขายลอตเตอรี สังเกตว่าคนขายโชคในเมืองไทยมักถามคนซื้อมา เอาโชคไหม เอารางวัลสักใบไหม แต่ฉันไม่ซื้อสักทีเพราะไม่เคยมีโชค ไม่ว่าจะทางซื้อหรือทางขาย ป้าที่เห็นในรูปนี้ขายโชคอยู่ที่หน้าศาลเจ้าหลังตลาดวโรรส ดูรอยยิ้มของเธอแล้วรู้สึกว่าเธอเป็นคนมีโชค
โอ ไม้จัตวา
      ช่วงนี้จำศีลหลบลมร้อนที่บ้านด้วยการช็อปหนังราคาถูกจากฝั่งพม่าท่าขี้เหล็กมาดู เริ่มจากซีรี่หนังเรื่องเฟรนด์ ที่ดูเป็นครั้งที่ 2  
โอ ไม้จัตวา
  เจ้านายเก่าคนหนึ่งเคยพูดถึงทางออกในชีวิตเมื่อครั้งที่เขาประสบปัญหา ที่ทุกคนคิดว่า “ทางตัน” เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ขังเขาไว้ในห้อง แล้วล็อคกุญแจ อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางออก เพราะถ้าประตูปิดเขาก็จะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป ฟังดูดีหากห้องนั้นมีหน้าต่าง  
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาพร้อมกับสัญญาณบอกว่าดอกไม้หลากสีได้เวลาเบ่งบานอีกแล้ว เดือนพฤศจิกายนคือฤดูกาลดอกบัวตองสีเหลือง หากมีเวลาฉันก็ไม่รอช้าที่จะไปเยี่ยมเยียนภูเขาสีเหลืองสุดลูกหูลูกตาที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากดอกไม้ยามเช้าแล้วสิ่งที่น่าสัมผัสมากที่สุดสำหรับการเยือนที่นี่คือการดูดาวยามค่ำคืน กลางขุนเขาที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับการดูดาว แผนที่ดูดาวช่วยให้การดูดาวสนุกมากขึ้น
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาแล้ว ปีนี้อากาศผันผวนจนหลายคนป่วยไข้ แมวในบ้านนอนกกกันรับความอบอุ่น บ่ายวันนี้ฉันขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ชุมชนเล็ก ๆ ในหุบเขาสูงชันที่อำเภอสันกำแพง ชื่อว่าบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการโดยชุมชนอย่างดี ฉันไม่เคยมาที่นี่ จึงชวนเพื่อนที่เคยมาบ่อย ๆ มาด้วย เธอบอกว่าครั้งแรกเธอขับรถเล่นกับสุนัขตัวโปรดของเธอ ขับรถเล่นถึงแม่กำปองเนี่ยนะ!
โอ ไม้จัตวา
  เช้าวันหนึ่ง...อากาศสดใส เพื่อนชวนไปหาหลินปิง รับปากโดยเร็ว หลังจากที่แอบดูสองแม่ลูกทางอินเตอร์เน็ตอยู่นาน หลินปิงโตขึ้นเยอะ ดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ หลินฮุ่ยยังหวงห่วงลูกดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันนี้ ผู้มาเยือนเป็นเด็กเล็ก ๆ จำนวนสองร้อยคน ทำให้ผู้คนแออัด เมื่อถึงเวลาออกมาเดินเล่น เด็ก ๆ กรี๊ดกร๊าดมีเสียงพอสมควร ทำให้หลินฮุ่ยไม่ยอมออกมาตรงบริเวณกลางสวน หลินปิงก็พาลไม่ยอมออกมาด้วย  
โอ ไม้จัตวา
  ไปขุนช่างเคี่ยนคราวนี้ผิดหวังกับสภาพอากาศที่ทำให้ดอกไม้บานน้อยไปนิด ได้ภาพนี้มาแทนใจได้หน่อยนึง ไปถึงยามเช้า นักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์นอนที่นั่นกำลังก่อกองไฟ จุดที่เรายืน ควันไฟ แสงอาทิตย์ มาบรรจบกันพอดี มุมนี้ถ่ายมาหลายรูป แต่ได้เพียงรูปเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการถ่ายภาพ บางครั้งกดชัตเตอร์ฟุ่มเฟือยมาก แต่ได้ภาพเพียงภาพเดียว