Skip to main content

 

เจ้านายเก่าคนหนึ่งเคยพูดถึงทางออกในชีวิตเมื่อครั้งที่เขาประสบปัญหา ที่ทุกคนคิดว่า “ทางตัน” เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ขังเขาไว้ในห้อง แล้วล็อคกุญแจ อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางออก เพราะถ้าประตูปิดเขาก็จะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป ฟังดูดีหากห้องนั้นมีหน้าต่าง
 \\/--break--\>
 
สำหรับบางคนแล้วห้องบางห้องที่กักขังเขาอยู่อาจไม่มีหน้าต่าง สถานการณ์อาจโหดร้ายถึงขนาดกักขังเขาไว้ในห้องแล้วโยนกุญแจทิ้ง ห้องที่มืดมิด ไร้แสงสว่าง หน้าต่างก็ไม่มีให้กระโจนออกไป มีเพียงหัวใจเท่านั้นที่อิสระที่สุด และหัวใจที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะทะลายกำแพงออกไปสู่แสงสว่างได้
 
วันนี้งานสอนฉันว่า degree of  freedom ต้องลบหนึ่งอยู่เสมอ ฉันถามเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ว่าคืออะไร เขาบอกฉันว่าเสรีภาพไม่มีจริง เหมือนเวลาเราไปซื้อรองเท้าเราไม่อาจลองรองเท้าข้างเดียวได้ เราต้องลองสองข้าง เสรีภาพต้องลบหนึ่ง ทุกอย่างต้องลบหนึ่งอยู่เสมอ
 
เสียงนกร้องริมหน้าต่าง...
 
โลกวิวัฒนาการมากี่ล้านปี กว่าจะมีมนุษย์ ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปกี่แสนปี กว่าโลกจะกำเนิดมนุษย์ จากนิวเคลียส จากอะตอม เป็นสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เป็นแบคทีเรีย อะมีบา เป็นลิง เป็นลิงอุรังอุตัง เป็นชิมแปนซี เป็นคน แค่จากชิมแปนซีเป็นคนนั้นใช้เวลาสี่ล้านปี ในเวลาสี่ล้านปีนั้น มีความเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอเพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็น ลิงชิมแปนซี กับมนุษย์ ดูรูปลักษณ์ ดูธรรมชาติของสัตว์สองตัวนี้แล้ว แตกต่างกันยิ่งนัก แต่เป็นความแตกต่างทางพันธุกรรมเพียงหนึ่งเปอร์เซ็น 
 
เลขหนึ่ง และเลขยี่สิบล้าน ในวันนี้มีความหมายกับฉันยิ่งนัก ในหนึ่งเปอร์เซ็นนั้นบรรจุความแตกต่างไว้มากมายจนเกินกว่าจินตนาการจะไปถึง อย่างหนึ่งนั้นคือ ลิงดำรงเผ่าพันธุ์ของตนโดยสัญชาตญาณ สืบพันธุ์กันก็ดูแค่ตัวผู้กับตัวเมีย แต่มนุษย์มีการเลือกที่จะดำรงเผ่าพันธุ์ของตนให้คงไว้ในโลกนี้ด้วยวิธีที่แตกต่าง และซับซ้อน มีรูปธรรมและนามธรรมผสมปนเป
 
ในความซับซ้อนนั้นมนุษย์จึงมีความรัก ความเกลียด  มีการคิด คำนวณความแตกต่าง เพศผู้เลือกเพศเมียที่มีความสวยงาม เพราะบ่งบอกถึงความแข็งแรง และสมบูรณ์ทางกายภาพ สามารถเป็นแม่พันธุ์ให้ตนได้ เพศเมียเลือกเพศผู้ที่แข็งแรง เพื่อปกป้องคุ้มครอง และหาอาหารมาเลี้ยงครอบครัว ดังเช่นนกกาหาเลี้ยงลูกของมัน ความรักเป็นแค่กลไกการเลือกเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติเท่านั้นหรือ แล้วเสียงนกร้องที่สงบอารมณ์ยามเช้านี้เล่า
 
ครุ่นคำนึงสองนาที เสียงนกร้องบอกฉันว่า  โลกหมุนวนเปลี่ยนแปลงทุกวัน ไม่เคยหยุดหมุนอยู่บนแกนโลกอันเอียงกระเท่เร่นี้ แล้วเจ้าจะคาดหวังให้สรรพสิ่งมาหมุนวนในวังวนของเจ้าได้อย่างไร  เสียงนกทำให้ใจสงบ และลึกลงไปคือเสียงดนตรีที่โลกให้มาแต้มสีสันยามเช้าของเจ้า ให้เจ้าได้หยุดคิดว่าอย่าหวังให้โลกหยุดหมุน
 
ก็บอกแล้วไง เสรีภาพต้องลบหนึ่ง นั่นแหละคือทางออก
 
 
 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…