Skip to main content

ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้ คล้ายกับเป็นอีกดอย



ดอยหลวงที่ตูบตีนดอย


เช้าวานนี้ ลมหนาวพัดมาอย่างเริงร่า ไทรใหญ่สะบัดใบกรูเกรียวเป็นเพลงไพเราะ ใยเมฆสำลีถูกฉีกออกเป็นปุย ๆ แผ่กระจายทั่วฟ้า ฤดูกาลใหม่ก้าวย่างมาเต็มบรรยากาศ เมื่อสัญญาณกาลเวลาจางจาก แดดยามวันเปล่งแสงแรง เรากะการณ์ว่าจะถอนหญ้า ขุดดินเมื่อแดดรา พลันความมืดย่างมาอย่างรวดเร็วเมื่อแสงร้อนลับหาย ดวงตะวันที่ตกกึ่งกลางยอดเขาเหลือช่วงรอยต่อสนธยาเพียงน้อยนิด อากาศเย็นลงทันทีเมื่อปราศจากแสงตะวัน แต่ก็อีกไม่นานนัก ตะวันที่เคยหล่นลับฟากทางเหนือข้างดอยนางจะอ้อมข้าว อ้อมภูเขามาทางลาดเนินด้านทิศใต้ แสงสนธยาจะยาวนานขึ้นอีกนิดหนึ่ง


ตีนดอยหลวงกับดอยนาง ยังคงมีการดำริสร้างพระปฏิมาประทับยืนใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง
59 เมตร เทียบเท่าตึก 20 ชั้น สูงกว่าพระยืนจำหลักบนหน้าผาเมืองบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกทำลายด้วยการเมืองหรือความเบาปัญญาของรัฐบาลตาลีบัน* จะสร้างกันบนพื้นที่ประชิดหรือที่เรียก ‘ที่ป่าไม้กันเขต’ ซึ่งอยู่ติดกันกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว เป็นเชิงเขาหินปูนที่ไม่แน่ว่า แข็งแรงมั่นคงพอที่จะรองรับฐานรากหรือไม่


ฉันเชื่อทีเดียวว่า ท่านเหล่านั้นคิดสร้างด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ดุจดังเช่นการก่อสร้างศาสนวัตถุทุกทั่วหัวระแหง เราชาวพุทธล้วนเชื่อว่า การสร้างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ หรือพระพุทธรูปนั้นเป็นบุญอันยิ่ง ในชีวิตที่ยากลำบากระหกระเหินทั้งใจและกาย ควรได้สร้างบุญไว้ จะได้คลายความทุกข์ตรมทั้งชาตินี้และชาติหน้า เสียดายที่เราส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เลือกใช้วิชาดับทุกข์ ณ ปัจจุบันซึ่งพระพุทธองค์อุทิศชีวิตแสวงหา


ในสามระดับ ทาน ศีล ภาวนานั้น ทานคงกระทำได้ง่ายที่สุด เพียงแค่อยู่บ้านเฉยๆ กรอกตัวเลขเงินบริจาคโอนเข้าบัญชีไปก็ได้บุญ ได้ทำความดีแล้ว ส่วนศีล อาจยากลำบากขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เพราะต้องระมัดระวังควบคุมตัวเอง ไม่ประพฤติตนนำไปสู่ความเสี่ยง แต่ภาวนานั้นต้องทุ่มเทมากกว่า นอกจากระมัดระวัง ดูจิตดูใจแล้ว ยังต้องอาศัยสติสมาธิขบคิดใคร่ครวญธรรม จึงจะเห็นลึกเข้าไปในตน จนกระทั่งชำแหละขัดเกลากิเลสให้เบาบางลงได้ จะอย่างไร ฉันยังไม่เคยได้ยินว่า ศาสนาสอนให้ทำทานเพียงอย่างเดียว ที่เคยรู้คือ ปฏิบัติบูชาถือเป็นบุญสักการะสูงสุด เป็นไปได้ไหม แทนที่จะสร้างวัตถุแห่งศรัทธาอันยิ่งใหญ่เพื่อสะสมแรงบุญ เรามาสร้างอารามอันสับปายะท่ามกลางป่าดอย ดึงดูดน้อมใจผู้คนเข้ามาปฏิบัติธรรมคลายทุกข์ไม่ดีกว่าหรือ นั่นคือบุญอีกแบบ บุญใหญ่ที่เห็นผลทันทีขณะผู้ปฏิบัติบังเกิดความสงบรำงับ เมื่อกลับที่พำนัก จิตที่คลายพยศย่อมยังสันติแก่คนในครอบครัว แผ่กระจายสู่สังคมรอบข้าง


บ้านเกิดฉันที่อำเภอแม่อาย วัดหลายหมู่บ้านประสบปัญหาขาดแคลนพระสงฆ์ ฆราวาสต้องขวนขวายหาพระมาจำวัด กิจกรรมส่วนใหญ่ที่ใช้ดึงคนเข้าวัดสร้างบุญกุศลคือ การสร้างโบสถ์วิหาร กำแพง หรือพระพุทธรูป แม้ว่าของเดิมอาจไม่ได้สึกหรอผุพัง น่าแปลกที่สมัยฉันยังเด็ก เราไม่ได้โหมสร้างถาวรวัตถุมากมายเพียงนี้ กระนั้น ชาวบ้าน ทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่ หนุ่มสาว ลูกเล็กเด็กแดงต่างนิยมไปวัด



ดอยหลวงมองจากถนนเลี่ยงเมือง


ที่กล่าวมานี้มิได้ขัดขวางศรัทธาหรือความเจริญแห่งพระศาสนา เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไม่มีคนหนุ่มในหมู่บ้านออกผนวช หรือวัดวาต้องหากลยุทธ์ให้คนเข้าไปฟังศีลฟังธรรมนั้นเพราะเหตุใด หากธรรมปรากฏเห็นผลในชีวิตจริงของผู้ปฏิบัติ ธรรมนั้นย่อมดึงดูดคนทุกข์คนอื่นๆ เข้าหา ธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ไม่มีวันเสื่อม เพราะธรรมนั้นคือสัจจะความจริง ไม่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา ทว่า สิ่งใดก็ตามที่ขาดการสืบต่อยังชีวิต สิ่งนั้นย่อมจะถูกทอดทิ้ง ขาดคนรู้ค่า


หนุ่มสาวในหมู่บ้านซึ่งล้วนอยู่ในเมืองจะได้เข้าวัดเฉพาะงานบุญใหญ่ หรือบุญวันสงกรานต์ พวกเขายินดีโอนเงินมาร่วมอนุโมทนาเมื่อมีการเรี่ยไรสร้างสิ่งต่างๆ เช่นเดียวกัน ฉันเชื่อว่า คงมีสาธุชนมากมายร่วมทำบุญบริจาคหากมีการสร้างองค์พระปฏิมาขึ้น แต่เราคาดหวังถึงสิ่งใดเล่า บนพื้นที่สำนักสงฆ์ชายป่าซึ่งหวังความสับปายะ หวังวิมุติหลุดพ้น หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ที่แห่งนี้จะกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมือง คนทั้งหลายจะแห่แหนกันมา ความสงบสันโดษมลาย ผลกระทบต่างๆ จะติดตามมาอีกมากมาย


ฉันมองดูภูเขา เห็นเขาสง่างามทุกวี่วัน เขาอยู่ใกล้ มองเห็นได้เต็มตา ภูเขาหยุดนิ่ง ไม่เขยื้อนขยับ อยู่ตรงนั้นเสมอจนเผลอคิดว่าเป็นของฉัน ไม่อยากนึกเลยว่า วันหนึ่งโฉมหน้าขุนเขาจะเปลี่ยนไป
เหยี่ยวผัวเมียสวยสง่าซึ่งบินมาพักอยู่บนเชิงผาตลอดหน้าหนาว เหยี่ยวทุ่งในหน้าร้อน ต้นไม้ป่าไม้ รุกขเทวดา และเลียงผาเล่า
? ถนนสายผ่านหน้าบ้านจะเต็มไปด้วยรถราขวักไขว่ รังเกียจพระพุทธรูปหรือ ไม่ใช่เลย พระปฏิมาที่ปั้นด้วยมือช่างซึ่งถือศีลภาวนาระหว่างรังสรรค์งาน จากจิตอันเป็นสมาธิ ด้วยวิชาช่างอันเลิศ เพียงได้เห็นวงพักตร์ก็น้อมดวงจิตเราถึงความสงบ โบสถ์วิหารนั้นมีโครงสร้างอันร่มเย็นอยู่แล้วเพียงย่างเข้าสู่ภายใน พระประธานสีทองลอยสูง ยกจิตยกใจ ภาพเขียนบนผนัง พุทธประวัติ หรือสวรรค์นรกแบบไทยนั้นเหนือจริง แบน เป็นสัญลักษณ์แทนความเชื่อและคุณค่าอันลึกซึ้ง ฉันพบวิหารสร้างใหม่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขียนภาพผู้คนแบบเดียวกับที่วาดบนร่มบ่อสร้าง ด้วยนวัตกรรมใหม่หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์?


หลายสิ่งหลายอย่าง เราคงต้องโยนิโสมนสิการ ในโลกที่ซับซ้อนทางความคิด ปรากฏการณ์วิกฤตศรัทธา เสื่อมคุณค่าศิลปะ ศีลธรรม รวมทั้งธรรมชาติแวดล้อมที่ถูกทำลายอย่างหนัก จนกระทั่งดินฟ้าอากาศแปรปรวนส่งผลกระทบกับเราระลอกแล้วระลอกเล่ายามนี้


แม่น้ำ ขุนเขา ป่าไม้ ที่ราบแห่งเชียงดาวคือฐานทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ เป็นแหล่งอาหาร ผู้ให้ชีวิต และแหล่งพักพิงทางจิตวิญญาณ เราจะรักและดูแลผืนโลกน้อยๆ มารดาผู้ ‘ให้’ และถนอมเลี้ยงเราอย่างไรดี
....


----------------------------------------------------------------------------


*
พระพุทธรูปที่บามิยันนั้นสกัดขึ้นบนหน้าผาในลักษณะประทับยืน องค์หนึ่งสูง 53 เมตร อีกองค์สูง 38 เมตร ถูกทหารของรัฐบาลตาลีบันระเบิดทำลาย ในปี พ.2539 โดยเชื่อว่ามีสาเหตุทางการเมือง จากการที่อัฟกานิสถานถูกนานาประเทศคว่ำบาตรเนื่องจากให้ที่พักแก่อุสมา บิน ลาเดน ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางแผนวางระเบิดสถานทูตสหรัฐอเมริกาในแทนซาเนีย ไม่กี่เดือนหลังจากการทำลายรูปเคารพต่างศาสนาในประเทศ อเมริกาก็เคลื่อนกำลังบุกอัฟกานิสถาน (...แว่วมาว่า ล่าสุด องค์การยูเนสโกกำลังบูรณะใหม่ เท็จจริงอย่างไร เชิญทุกท่านสืบค้นดู)


บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
เชื่อในพระองค์จึงมุ่งหวังถึงสิ่งดีพร้อม เชื่อในตัวตนบริสุทธิ์ หัวใจสะอาดสมบูรณ์ ...ทุกอย่างที่ฉันทำ ฉันตั้งใจอย่างดีที่สุด ทุกสิ่งที่ฉันทำ ฉันทำด้วยหัวใจ ถึงอย่างนั้น ภายหลัง มักรู้สึกเสมอว่า ยังมีดีที่สุดมากกว่านั้นรอคอยอยู่ เมื่อได้เห็นข้อจำกัดที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตัวเอง ขี้เกียจ ขาดวินัย หรือว่าเวลาไม่พอ เพราะมัวแต่ไปทำอย่างอื่น น้องชาย ตัวสูงใหญ่ บางถ้อยเผลอไผล วาดหวังเหรียญเงินและเหรียญทองแดง รางวัลชมเชยนั้นไว้คิดถึงมันยามต้องทำใจปล่อยวางไม่ดีกว่าหรือ เมื่อลงแรงลงใจทำสิ่งใด น่าจะใช้หนทางธรรม อยู่กับปัจจุบันขณะ อยู่กับสิ่งตรงหน้าอย่างเต็มเปี่ยม…
รวิวาร
ถ้อยคำทำให้ฉันเต็มอิ่มสดชื่น ถ้อยคำเหมือนฝนโปรยปราย ฉันเขียนถ้อยคำ ทำให้เกิดฝน เขียนตัวเองออกยืนอ้าแขน รับละอองฝนโปรย ฉันอ้าปากเหมือนเด็กน้อย ฝนหยดจิ๋วแตะลงบนลิ้น ความกระหายมากมายไม่อาจดับสิ้น พายุทำให้กระปรี้กระเปร่ามีพลัง พายุสร้างถ้อยคำในตัวฉัน เมื่อพายุพัด สายลมในกายหมุนวน มันได้ยินเสียงกู่ร้อง มันอยากออกไปหาพวกพ้องของมัน มันขับฉัน ผลักไสเท้าทั้งสองให้ออกไปโลดแล่นในทุ่งกว้าง ให้สายลมกรูเกรียวผ่านร่าง บังคับให้ฉันหมุนตัว เต้นระบำกับเกลียวพายุ หัวใจส่งเสียงคำรามเมื่อสายลมกู่ก้องออกจากป่า ลมร้องเริงร่าที่กิ่งไม้ รัวใบไม้แทนระนาดเงินใบเล็ก ๆ พายุโจมตีหลังคา…
รวิวาร
  ฉันรู้ว่า เธอต้องการใครสักคนที่เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่นและมั่นคง ผู้หญิงคนนั้น สตรีร่างยักษ์ซึ่งเคยก้มลงมายังเธอ ยิ้มอย่างใจดี แววเอ็นดูท้นอยู่ในดวงตา แล้วต่อมา ร่างของเธอกลับยืดสูง ขยายขึ้น เธอตัวสูงกว่าหญิงคนนั้น การรับรู้ของหล่อนเปลี่ยนไป เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่หล่อนต้องคอยกางปีกปกป้อง ทว่า ข้างในเธอกลับยังโหยหาวงแขนนั้น เธออยู่ระหว่างการต้องการการอารักขา และการยืนหยัดด้วยตัวเอง เหมือนรอยต่อระหว่างรัตติกาลและสนธยา มืดมิด มองไม่เห็นสิ่งใด หล่อนและคนตัวโตอื่น ๆ ไม่รู้แน่ชัดว่าจะปฏิบัติกับเธออย่างไร บางครั้งเข้มงวดเหมือนเด็กเล็ก ๆ บางคราวปล่อยปละละเลยเหมือนเป็นผู้ใหญ่…
รวิวาร
ทุกเช้า ฉันตื่นขึ้นมาดูโลกสวยงาม ถอดกลอนประตูบ้าน ก้าวออกมานอกชาน ต้นไม้ภูเขาเขียวแจ่ม น้ำเงินเย็นตา แซมด้วยเหลืองสว่างตามพุ่มไม้ใบหญ้า บานบุรีสีชมพูม่วงผลิบานไม่หยุดจนกิ่งผอมค้อมคล้อย ส่วนลำไยของเจ้านกน้อยทยอยกันสุก ฉันเป็นคนสวน ทำงานอยู่ในสวนอักษร เช้านี้กลับฝันหวานถึงสวนบนดินที่ยังไม่ได้ลงแรง เราจะปลูกดอกไม้ได้ทันหน้าฝนไหมนะ ใจมันเตลิดเพริดไปแล้ว คิดถึงราชาวดี ซอมพอสีส้ม เหลือง ชมพู ไอรีสสีเหลืองที่ต้องไปขอกล้า รวมทั้งว่านสี่ทิศสีขาว กุหลาบสีชมพูอมขาวซึ่งไม่ใช่แบบพิมพ์นิยมรีสอร์ต เครือออน ไฟเดือนห้ากับดอกอะไรจำชื่อไม่ได้ แต่จำรูปร่างหน้าตา ลักษณะ ที่อยู่อาศัยได้ติดใจ…
รวิวาร
ลมหนาวยังไม่มาเยือน แต่อาคันตุกะมากหน้าแวะเวียนผ่านมาหลายคราแล้ว ชานหน้าบ้านกลายเป็นที่ชุมนุมคารวะดื่มด่ำภูเขา หมาแมววิ่งพล่านด้วยความตื่นเต้น เห่าเสียงเครื่องยนต์ไม่คุ้นหู ยื่นหน้ามาสูดกลิ่นยั่วน้ำลายในโตก ความรื่นเริงของหมู่มิตรอึกทึกแข่งเสียงนกในทุ่งสงัด แนวเทือกเขาซ้อนเหลื่อมชายแดนค่อย ๆ เผยเรื่องเล่าผ่านริมฝีปากพี่ชาย* ย้อนไปตั้งแต่ครั้งที่เรายังเด็ก ยามโถงรับแขกของทุกบ้านมีดอกฝิ่นแห้งประดับแจกัน การแตกแยกอันนำไปสู่สงครามระหว่างชนเผ่าในประเทศเพื่อนบ้าน การติดตามไล่ล่าข้ามดอย รบพุ่ง ทิ้งซากร่างและเม็ดกระสุนในเขตเชียงดาว ผืนโลกอัดแน่นด้วยเรื่องราว ตามเส้นทางลัดเลาะบนโขดเขาสีน้ำเงิน…
รวิวาร
ฝนมาเพียงไม่กี่ฝนเท่านั้น กิ่งสักโล้นโกร๋นก็ผลิใบกว้าง สีเขียวถูกเทระบายลงแทนสีแดง วันเว้นวันฟ้าหม่นมัว สีเทาดำปื้นเหมือนหมึกฉาบลงบนเมฆในท้องฟ้าก่อนซัดซ่าลงมาเป็นสายน้ำสีขาว เราจ้างคนมาขุดบ่อลึกลงไปอีกเมื่อปลายเมษาฯ ค่าแรงสำหรับตาน้ำใหม่คิดตามอัตราชนชั้นกลางในหมู่บ้าน (แพงกว่าปกติ) เพียงสัปดาห์ผ่าน ฝนกลับกระหน่ำลงมา บ่อเล็ก ๆ ของเราไม่เคยแห้งอีกเลย จากนั้น ลืมๆ เลือนๆ ไปบ้าง แล้วสวนกว้างก็เขียวขจีด้วยพงหญ้า เหมือนที่ภูเขา เรือกสวน ไร่นาและท้องทุ่ง ในตลาดและเพิงหญ้ารายทาง หน่อไม้แรกของปีขาวผ่อง เห็ดเผาะอ่อนๆ เยี่ยมหน้ามาในกรวยใบตองตึง ตามอย…
รวิวาร
  แซงแซวหางบ่วง คืออาคันตุกะตัวใหม่แห่งท้องทุ่งและคาคบ ตัวยาวเรียวสีออกดำ คาบหญ้าแห้ง บินผ่านต้นมะขามที่เพิ่งแตกใบอ่อน ผ่านกอกล้วยกอไผ่ โฉบสูงขึ้นไปบนคบไม้ ทิ้งรอยเรียวหางแฉกยาวไว้เป็นทางไม้ใหญ่หน้าบ้านเป็นอาณาจักรของหมู่นก ฤดูฝน ฤดูแห่งความสมบูรณ์ของพื้นพิภพ นกมากมายบินมาอาศัย เรารู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง แต่ไม่อยากเปิดหนังสือ ท่องชื่อนกหรือดวงดาว ฉันอยากรู้จักพวกเขาเป็นส่วนตัว จากพฤติกรรมที่เขาสัมพันธ์กับเรา จะได้จดจำกันด้วยหัวใจ ด้วยความรู้สึก ‘เธอ’ ไม่ใช่นกเอี้ยงสาลิกา ซึ่งเลิกมาทะเลาะกันบนหลังคาบ้านฉันสักระยะหนึ่งแล้ว แต่เป็นนกขนาดย่อม…
รวิวาร
เมื่อคืนฉันฝันถึงเธอ ฉันมักจะฝันถึงเธอเสมอเวลาที่เราอยู่ไกลห่าง เธอยังเหมือนเดิม ส่งเสียงแจ้ว ๆ ไถ่ถามสิ่งต่าง ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น เธอคือเด็กน้อยน่ารักที่สุด ความรู้สึกของเธอ หัวใจของเธอ ฉันรู้จักดีที่สุด แม่ของเธอคิดถึงเธออยู่นะสาวน้อย พ่อทางใจน้ำตาคลอขณะพับเสื้อกระโปรงตัวจิ๋วของนกน้อยต้อยตีวิด ส่วนพี่สาวที่ชอบข่มขู่ดุว่า แต่ก็ถลาไปปกป้องน้องยามมีภัยบ่นอยู่นั่นแล้วว่า คิดถึงเธอเหลือเกิน ใครจะรู้สึกถึงดินฟ้าได้เท่าเจ้านกน้อย สำหรับเธอแล้ว ก้อนกรวดที่พบตามพื้นดินหรือในลำธารสวยเสียจนต้องเก็บมาพินิจ เช่นเดียวกับลูกปัด ลูกแก้ว พลาสติกหรือพลอยเทียมราคาถูก ต้นไม้ดอกไม้ แมลงตัวเล็ก…
รวิวาร
ฤดูกาลแห่งดอกผล .............ก่อนหน้านี้ความไม่รู้พาเราไปอยู่ไหน  ที่เราเห็นคือกิ่งแห้ง ๆ ใบจุด ๆ สีดำ  ทว่า เวลานี้ หลังจากที่ฤดูฝนพ้นผ่าน หนาวจากจาง  ใบใหม่สีเขียวอ่อนงอกแซมตามกิ่งเก่า  สัปดาห์ เดือนผ่าน กระทั่งเข้ม เขียวขลับ  พร้อมกันกับช่อดอกเล็ก ๆ สีเหลืองอ่อน หอมละมุนขจรขจาย  และกำลังจะกลายเป็นผล ...ต้นลำไยที่เคยทอดอาลัย   โมกสองต้นหน้าระเบียงผลิใบใหม่เขียวขจี รายเรียงตามกิ่งก้านคล้ำเข้ม...พี่ชาย ‘ชนกลุ่มน้อย’ มาถึงบ้านพร้อมด้วยเมล็ดกาแฟคั่วบด และค่าเรื่อง  รอยยิ้มอบอุ่นบอกกล่าวถ้อยคำมากมาย  .............
รวิวาร
เหมือนความต้องการไม่รู้จบ ... ยามเช้า จะดีเสียกว่า หากปราศจากเสียงจากหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน  ฉันต้องการเพียงสรรพสำเนียงยามเช้า  ที่ผู้เป็นเอกคือเหล่านกน้อย  โดยเฉพาะนักร้องนำดุเหว่าแห่งวงมโหรีไม้ใหญ่   เจ้านกส่งเสียงเซ็งแซ่ เริงร่า มีชีวิตชีวาทุก ๆ เช้า  เริ่มรุ่งอรุณอันสดใหม่  แล้วที่เหลือจากนั้น  ขอเพียงเสียงแผ่ว ๆเคล้าระคนจากชีวิตน้อยใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ตามคบไม้ พงหญ้า   ท้องฟ้าจะได้ค่อย ๆ ซ่านแสงสี  ดวงตะวันจะได้เผยโฉมออกมาโดยปราศจากคนรบกวนเมื่อแรกเห็น  เราดีใจว่าที่นี่ไม่เปลี่ยวร้างเกินไป  ถนนเงียบสงบลาดผ่าน …
รวิวาร
สีแดงมาจากไหน  ล่องหนอยู่ในน่านฟ้าหรือ?...  เริ่มละเลงลงบนใบหูกวาง ชมพูแซมแทรกด้วยแดง  ระบายจุดสีคล้ำตามใบ ก่อนเคลือบด้วยน้ำตาล  ฤดูกาลคืบคลานมาช้า ๆ  อากาศอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ  จนกระทั่งถึงขีดสุดกลางเดือนเมษาฯเหยี่ยวดำคู่ผัวเมียแห่งเชิงผาหายไปไม่รู้เนื้อรู้ตัว  ดุเหว่าร่อนร้องทั้งยามเช้าและเวลาเย็น ...กาเว๊า ๆ   เหยี่ยวทุ่งสีขาวเทาเยี่ยมหน้า  โฉบร่อนตามแนวถนน  บนกิ่งไม้และเหนือทุ่ง   ผืนดินเริ่มแห้ง  ต้นหญ้าสลดเฉาดุจเดียวกับพืชผล  มะเขือเทศข้างร่องน้ำผลิลูกเล็ก ๆ สีอ่อน ไม่ทันไรก็สุกแดง แห้งเหี่ยวหมดทั้งต้น  …
รวิวาร
นับแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่เรารู้จัก  ฉันรู้สึกเหมือนปาฏิหาริย์  คนบางคนเหมือนสิ่งไม่คาดฝัน  อยู่ตรงหน้า พบเห็นเจนตา  ทว่า เมื่อคลี่เผยตัวตนออกมากลับงดงามยิ่ง................................................................พี่ดีใจที่ได้รู้จักและสนิทสนมกับน้อง  แม้ว่าสายตาหลายคู่ที่มองผ่านอาจเห็นเพียงหญิงสาวกะโปโลเริงร่า   ทว่า พี่ได้พบหลายสิ่งหลายอย่างไม่ธรรมดาในตัวน้อง