Skip to main content

30_7_01

ในสังคมการแก่งแย่งกันแข่งขัน

เราเป็นมิตรสหายกันนั้นจริงหรือ

ในสังคมการขันแข่งเพื่อแย่งยื้อ

(เราจับมือกัน แค่มือ หรือมิใช่)


เช่นเดียวกันกับคำพร่ำบอกรัก

สงสัยนักรักนี้เป็นไฉน...

(มีหรือรัก...หล่นจากปากออกจากใจ)

ในสังคมการเฉือน เชือด อย่างเลือดเย็น


ในระบบแบบผลไม้เน่า

ณ ที่เราเป็นส่วนหนึ่งซึ่งเน่าเหม็น

มิอาจหนี มิอาจปลีก หลีก ละเว้น

เราเพียง เล่น ละครกันเพื่อตบตา


เพื่อช่วงชิงความเป็น หนึ่ง ให้ถึงที่

เพื่อจักมีเพียง ตัวกู คู่ดินฟ้า

เหนือมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา

เป็นเทวาอยู่บนยอดพีรามิด


ฤามิใช่ธาตุแท้ของสังคม

ที่ สั่งสม วิญญาณดำ-อำมหิต

ตกผลึก...ความรู้สึกความนึกคิด

เป็นชีวิตไร้คุณค่าน่าชิงชัง


เป็นชีวิตที่ละม้ายคล้ายคลึงสัตว์

ที่ขบกัด เข่นฆ่า กันบ้าคลั่ง

ยามแย่งกัน ชิง ก้อนเนื้อเพื่อชีพยัง

เพียงลำพังตัวหนึ่งซึ่งชนะ


คือระบบสังคมเน่าที่เราอยู่

หล่อหลอมผู้-คนทุเรศ เหมือนเศษขยะ

ล่มสลายคุณค่าและสาระ

แม้ศาสนะก็วิปริตถูกบิดเบือน


ไม่เป็นไร หนี อย่างไรก็ไม่พ้น

ต้องอดทนทุกวงแวดความแปดเปื้อน

วันผลไม้-เน่าเป็นพิษ ปลิด ลงเกลื่อน

วัน ปี เดือน ผลิตผลดี-จักมีมา.


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…