Skip to main content
6_08_01


เจ้าเก็บกวาดขยะในบ้านเจ้า

ตัวข้าเล่าเก็บกวาดในบ้านข้า

เราต่างคน ต่างเก็บความ...ไม่งามตา

รอบชายคาบ้านเราทิ้ง-ทุกวี่วัน

 

ไม่เที่ยวไปล่วงล้ำคอยตำหนิ                ไปแตะติบ้านโน้นติบ้านนั้น

บ้านตัวเอง รกรุงรัง ช่างหัวมัน               (ช่างน่าขัน...ใครจะเชื่อฟังน้ำคำ)

 

สู้เก็บกวาดขยะในบ้านเรา                    ให้เกลี้ยงเกลา...รอบชายคา น่าเหยียบย่ำ

ให้คนเห็น คุณค่าล้วน ควรกระทำ           เขาไม่จำเอาอย่าง-ช่างปะไร

 

บ้านเราดีไม่มีขยะรก                           บ้านคนอื่นสกปรกเราอยู่ได้

ใครจะนำ ไฟ มาโยนไม่สนใจ               เราไม่มี เชื้อไฟ ไว้เผาบ้าน

 

เจ้าเก็บกวาดขยะในบ้านเจ้า                  ตัวข้าเล่าเก็บกวาดสะอาดสะอ้าน

ถ้าพร้อมใจกันกวาดเกลื่อนทุกเรือนชาน  เชื้อไฟรานสังคมสังคมล่ม-คงลดรา



6_08_02

 

เก็บกวาดสิ...เก็บกวาดในบ้านเรา           อย่ามัวเมาขันแข่งกันแช่งด่า

บ้านเราเรี่ยม...เอี่ยมอ่อง สะอาดตา        คนศรัทธาความดีงาม-ย่อมตามเรา

 

ส่วนคนทราม รัก ความสกปรก              ย่อมรักรกรุงรังดั่งตัวเขา

อย่าสนใจไปยุแหย่ไปแก้เกลา              คนโฉดเฉา ย่อมโฉดเฉา จนเท่าตาย

 

สร้างคนดี ทีละคน...โดยสำนึก             มาผนึกแรงรวมร่วมความหมาย

ค่อยค่อยเก็บ ค่อยค่อยกอบ-รอบรอบกาย ค่อยขยาย...คนศรัทธา-มาร่วมใจ

 

ดีกว่าเสียเวลา ด่า คนสกปรก               ชาติคน รก ย่อม รก กันไม่หวั่นไหว

สร้าง คนดี กันดีกว่า-อย่าไยไพ            สร้างกันไปกวาดกันไป-ในบ้านเรา.

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

ภาพประกอบจากภาคีคนฮักเจียงใหม่


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…