Skip to main content

21_8_01 

ใช่
ผมรักทักษิณ
เพราะผมมีเหตุผลของผมที่จะรักทักษิณ
ใช่
ดิฉันรักทักษิณ
เพราะดิฉันมีเหตุผลของดิฉันที่จะรักทักษิณ
ใช่
หนูรักทักษิณ
เพราะหนูมีเหตุผลของหนูที่จะรักทักษิณ
ใช่
พวกเรารักทักษิณเพราะพวกเราต่างมีเหตุผลที่จะรักทักษิณ
เพราะเราต่างมองเห็นคุณงามความดีของเขา
และเราจะพยายามช่วยกันปกป้องเขาจนถึงที่สุด

ใช่
ผมเกลียดทักษิณ
เพราะผมมีเหตุผลของผมที่จะเกลียดทักษิณ
ใช่
ดิฉันเกลียดทักษิณ
เพราะดิฉันมีเหตุผลของดิฉันที่จะเกลียดทักษิณ
ใช่
หนูเกลียดทักษิณ
เพราะหนูมีเหตุผลของหนูที่จะเกลียดทักษิณ
ใช่
พวกเราเกลียดทักษิณเพราะพวกเราต่างมีเหตุผลที่จะเกลียดทักษิณ
เพราะเราต่างมองเห็นความชั่วร้ายของเขา
และเราจะพยายามช่วยกันทำลายเขาจนถึงที่สุด

ดังนั้น
จึงไม่ใช่เรื่องที่แปลก
ที่เราจะแบ่งแยกกันเป็นพรรคเป็นพวก
และต่างลุกขึ้นมาทะเลาะเบาะแว้งและดุด่ากัน
เพราะเรายังอยู่ในสังคมที่ยังไม่อาจยอมรับและเคารพ
ความรู้สึกนึกคิดและความเห็นของคนอื่น
ที่แตกต่างจากตัวเองและพวกพ้อง
จริงหรือไม่จริง
ใช่หรือมิใช่

ฟังสิ...
ได้ยินไหม
คนรักทักษิณกำลังดุด่าประณามคนเกลียดทักษิณว่า
เป็นพวกเผด็จการ เป็นพวกที่เห็นแก่ตัว เป็นพวกที่ชอบดูถูกคนจน

ฟังสิ...
ได้ยินไหม
คนเกลียดทักษิณกำลังดุด่าประณามคนรักทักษิณว่า
เป็นพวกที่ไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เป็นพวกที่โง่เขลางมงาย เป็นพวกที่ด้อยการศึกษา

จริงหรือไม่จริง
ใช่หรือมิใช่
เพราะเรายังอยู่ในสังคมที่ยังไม่อาจยอมรับและเคารพ
ความรู้สึกนึกคิดและความเห็นของคนอื่น
ที่แตกต่างจากตัวเองและพวกพ้อง
เราจึงต้องลุกขึ้นมาทะเลาะเบาะแว้งและดุด่ากัน- เช่นนี้
เพื่อยืนยันความเชื่อและความเห็นของตัวเราและพวกเรา  - ว่าถูกต้องและดีกว่า

ตราบจนกระทั่งบัดนี้
เรื่องคนรักและเกลียด ทักษิณ ชินวัตร
ได้กลายเป็นหลุมดำอันมหึมาของสังคมไทย
ซึ่งถ้าหากใครเข้าไปเกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ด้วยเหตุผล ด้วยข้อเท็จจริง ด้วยอารมณ์ ด้วยความรู้สึก
ด้วยเจตนาดี ด้วยเจตนาร้าย ด้วยความจริงใจ ด้วยความโกหกหลอกลวง
ด้วยหวังผลประโยชน์จากสถานการณ์
ด้วยความปรารถนาดีหรือด้วยความปรารถนาร้าย - ต่อบ้านเมืองและผู้คน
ไม่ว่าคุณจะเลือกข้างหรือไม่เลือกข้าง
และไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน
เป็นคนสะอาดหมดจด ดีงามและสูงส่ง สักเพียงใดก็ตาม
ถ้าคุณพลัดเข้าไปในหลุมดำนี้...
คุณก็จะถูกทำลายความเป็นตัวตนของคุณ
ให้มีค่าเท่ากับศูนย์และติดลบในพริบตา...
เพราะแม้แต่ขบวนการศาลสถิตยุติธรรม
ที่เราถือกันว่าเป็นสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์
ที่เราต้องเคารพและยำเกรงเสมือนดั่งตัวแทนของพระเจ้า
และต้องเชื่อคำพิพากษาตัดสินชี้ขาด - โดยปราศจากการโต้แย้งทุกๆกรณี
ยังถูกเขย่าบัลลังก์ให้หวั่นไหวและสั่นคลอน...

จริงหรือไม่จริง
ใช่หรือมิใช่
ที่โดยแท้จริงแล้ว
ต้นตอของสาเหตุที่ทำให้พวกเราทะเลาะเบาะแว้งกัน - เรื่อง ทักษิณ ชินวัตร
มิใช่เป็นเพราะว่า - เราเลือกที่จะรักหรือว่าเกลียดทักษิณ
มิใช่เป็นว่า - ตัวของทักษิณและพฤติกรรมของทักษิณ ดีหรือว่าเลว ผิดหรือว่าถูก
ตามทัศนะความเชื่อและความคิดเห็นของแต่ละคน แต่ละพวก แต่ละฝ่าย ที่ขัดแย้งกัน
หรือเป็นเพราะว่า - การ สื่อสาร ข้อมูล ข้อเท็จจริง เหตุผล หลักฐาน เอกสาร พยานแวดล้อม
และความคิดเห็นของใครน่าเชื่อถือกว่ากัน
ทั้งหมดนี้ - หาใช่ต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เราทะเลาะกันไม่
แต่เป็นเพราะว่า...
เราต่างยังไม่รู้จัก
ยอมรับและเคารพ - สิทธิขั้นพื้นฐานความเป็นมนุษย์ของกันและกันต่างหาก
ที่ทำให้เราทะเลาะเบาะแว้งกัน
ในเรื่องความเชื่อและความคิดเห็นที่ต่างกัน
ในตัวตนและพฤติกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

จริงหรือไม่จริง
ใช่หรือมิใช่
ใครรู้คำตอบที่แน่ชัด
ช่วยตอบคำถามข้อนี้ให้สังคมด้วยเถิด.

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

**ภาพประกอบจากหนังสือ "ไม่รักไม่บอก"


 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…