Skip to main content



มิใช่ บ่อ จากท่อธารบาดาลใส
หลั่งรินไหล มิรู้แล้ง แห้งเหือดหาย
เป็นเพียง บ่อ น้ำฟ้ามาซึมทราย
หลั่งรินสาย มาหล่อเลี้ยง - เพียงชั่วกาล

มิใช่ บ้านดวงใจ อุ่นไอรัก
แค่ เพิงพัก หลบร้อนอันกร่อนกร้าน
ริมวิถี คดเคี้ยว เปลี่ยว กันดาร
เป็นทางผ่าน เป็นที่พัก - นักเดินทาง

มิใช่ แสงดาว ชี้ชัดปลุกศรัทธา
แทนดวงตาดวงใจผู้ไร้ร้าง
เป็นเพียง แสงหิ่งห้อย - ลอยเลือนราง
อยู่ท่ามกลางคืนเดือนมืดอันยืดยาว

และมิใช่ สมณะ ผู้ละโลกย์
พ้นทุกข์โศกเวียนว่ายกายสีขาว
ยังเป็นแค่ ปุถุชน คนมากคาว
ยังมิก้าวพ้น ตัณหา ราคีใด

คือ ตัวฉัน ที่เห็นเป็นจริงอยู่
อยากให้ดูเท่าที่เห็นเป็นจริงไว้
ไม่เคยฟังอยากให้ฟังอย่างตั้งใจ
เพื่อจักได้มองเห็นตามความจริงแท้

เพื่อจักได้ คลายความเขลา เข้าใจผิด
เพื่อจักได้ รื้อ ความคิด ผิด มาแก้
แม้ความจริง ( จะ ) สารเลว เกินเหลียวแล
แต่...ไม่เคยทำร้ายเราเท่าความลวง.

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…