Skip to main content



ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ตัวข้าได้รู้จักการเป็นคนมีสติ

ซึ่งเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดของมนุษย์

ในการต่อสู้ - เพื่อการอยู่รอดของชีวิต

ทั้งในทางโลกย์และทางธรรม

 

ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ตัวข้ารู้จักการเฝ้ามอง อารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิด ภายในของตัวข้า

ทำให้ข้าได้รู้จักตัวเอง

ได้รู้จักธรรมชาติของความเป็นมนุษย์

และรู้จักกิเลสตัณหา

ซึ่งเป็นต้นตอสาเหตุของความทุกข์ทางใจทั้งมวลของมนุษย์

ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ตัวข้าก้มหน้ามองดูข้อบกพร่อง ความไม่ดี ความผิด ความน่าเกลียด และความชั่วร้ายของตัวเอง

ก่อนที่จะเงยหน้ามองดูข้อบกพร่อง ความไม่ดี ความผิด ความน่าเกลียด และความชั่วร้ายของคนอื่น

 

ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ตัวข้ารู้จักการยอมรับ

และการทำความเข้าใจผู้อื่น

ที่มีความคิดผิดแผกแตกต่างจากตัวข้า

แทนการคอยไปจับผิดและตัดสินคนอื่นเขา

ราวกับว่าตัวเองเป็นพระเจ้า

 

ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ข้ารู้จักสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต 3 ประการ

ที่คนเราพึงระลึกเอาไว้อยู่เสมอในการมีชีวิตอยู่

นั่นคือ

1. เวลาปัจจุบันขณะคือเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา

เพราะอดีตที่ล่วงเลยไปแล้ว

ย่อมเป็นเพียงแค่กองเถ้าถ่านที่ไม่อาจลุกขึ้นเป็นไฟได้

และอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

ก็เป็นเพียงแค่ความฝันและความคาดหมายลมๆแล้งๆที่จับต้องไม่ได้

ดังนั้น เวลาปัจจุบันขณะคือเวลาที่สำคัญที่สุด

ที่เราจะต้องพยายามมีชีวิตอยู่ให้ดีที่สุดให้จงได้

2. และคนที่เรากำลังติดต่อมีความสัมพันธ์ด้วยในปัจจุบันขณะ

คือบุคคลที่สำคัญที่สุด

เพราะเขาคือบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ

ที่เรากำลังสัมผัสชีวิตจิตใจและพฤติกรรมของเขา

3. และการทำให้คนที่เรากำลังติดต่อมีความสัมพันธ์ด้วยในปัจจุบันขณะ - มีความสุข

คือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราพึงปฏิบัติ

เพราะหลังจากที่เราได้พบปะกัน

หรือมีชีวิตอยู่ร่วมกันในปัจจุบันวันนี้แล้ว

วันต่อไป...

เราอาจจะไม่ได้พบกันอีกจนชั่วชีวิต

 

ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ตัวข้าได้เรียนรู้ว่า

ความสุขสงบของตัวข้าและเพื่อนบ้าน

ควรจะเป็นทั้งวิธีการและเป้าหมายสูงสุดของมนุษย์ทุกคน

 

ขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่สอนให้ตัวข้าได้เรียนรู้ว่า

แท้จริงแล้วมนุษย์ทุกคนในโลกนี้

ควรจะเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของกันและกัน

 

ขอบคุณและขอบคุณ

คำสอนจากธรรมะทั้งหมดนี้ของพระพุทธองค์

ที่ให้ความหมายที่ดีงามแก่ชีวิตตัวข้า

ที่เกิดมามีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์

ซึ่งเป็นโลกที่ยากแสนยาก - ที่จะมีชีวิตอยู่

ในฐานะมนุษย์ที่ดี และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

 

เพราะโลกมนุษย์ที่เป็นอยู่

ตั้งแต่อดีตอันไกลโพ้นจนถึงปัจจุบัน

คือโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย

และความอยุติธรรมสารพัดรูปแบบในสังคมมนุษย์

ที่คนอ่อนแอและคนที่โง่เขลา

ยากแสนยาก - ที่จะมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย

โดยไม่ถูกหลอกลวง

โดยไม่ถูกกดขี่

โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ

โดยไม่ถูกคดโกง

โดยไม่ถูกทุบตีเข่นฆ่า

โดยไม่ถูกกระทำย่ำยีสิทธิมนุษยชน

จากความโหดร้ายและความอยุติธรรม

ซึ่งเป็นความจริงของโลกและชีวิตที่น่าขยะแขยง

และน่าสะพรึงกลัวที่สุด - ที่ปรากฎอยู่รอบๆตัวเรา

มากกว่าสิ่งใดๆ

 

ขอบคุณและขอบคุณ

ธรรมะของพระพุทธองค์

ที่ให้ความหมายที่ดีงามแก่ชีวิตข้า

ท่ามกลางความโหดร้ายและความอยุติธรรมทั้งปวง

ในโลกที่ไม่น่าอยู่ใบนี้.

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางลงมาจากยอดเขาสูงลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่างเป็นเวลานานนับปีแล้วหลังจากต่อสู้ปีนป่าย...ขึ้นไปอยู่บนยอดสุดเป็นเวลานานหลายปีแต่ทันทีที่เขาก้าวย่างลงมาเหยียบฝ่าเท้าลงไปแตะผืนแผ่นดินเบื้องล่างเขาก็พลันพบว่า...พื้นดินบนผืนแผ่นดินไทยมิใช่พื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเขาเสียแล้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 เมื่อวานนี้ ข้าจำใจต้องตัดสินใจซื้อบัตรตีตั๋ว - ขึ้นชิงช้าสวรรค์กับเด็กๆในงานสวนสนุกข้างบ้านเพราะทนคำรบเร้าของเด็กๆที่ต้องการให้ข้าขึ้นไปนั่งเป็นเพื่อนไม่ไหว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  จริงหรือที่มีท่านผู้รู้กล่าวกันว่าต้นตอสาเหตุ - ของความขัดแย้งแตกแยกกันอย่างรุนแรงในสังคมไทย ที่กำลังลุกลามกันใหญ่...และยากจะหาข้อยุติในขณะนี้หาใช่เรื่องที่เกิดขึ้น...จากคนเพียงสอง - สามคน ขัดแย้งกันแล้วชักชวนคนอื่นๆมาเป็นพรรคพวกร่วมทะเลาะกันไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 มีคนเคยบอกฉันว่า "การเดินทาง คือกำไรของชีวิต" อาจเป็นเพราะความฝันกระมัง ที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเดินทางอย่างมากมาย สมัยฉันเป็นเด็กเล็ก ฉันเคยฝันกับตัวเองเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง...ฉันจะเป็นดั่งซานตาคลอส นักบุญใจดี ที่ชอบแบกถุงผ้าใบใหญ่พาดไหล่ เดินทางเอาขนมไปแจกเด็กๆที่หิวโหยในวันคริสต์มาส...ฉันเชื่อว่าความฝันช่วยทำให้ชีวิตคนเราในแต่ละวัน - มีความหมาย และเฝ้าบอกแก่ตนเองเสมอว่า ความฝันต้องควบคู่กับการเล่าเรียนศึกษา เพื่อเป็นบันได...ทอดขึ้นไปสู่อนาคตอันสดใส สำหรับก้าวขึ้นไป - ไขว่คว้าความฝันให้เป็นจริง...จนกระทั่งฉันโตเป็นหนุ่มฉันจึงเริ่มฝัน เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมา ฉันฝันว่า วันหนึ่ง…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ภายในกำแพงที่คุมขังแห่งนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม ป้องกันไม่ให้ผม ต้องถูกบังคับสับถูกโขกให้ออกไปตระเวนร้องเพลงตามข้างถนน ซึ่งไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกอย่างไร จะต้องทำเงินให้ได้ ตามยอดเงินที่นายพ่อตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด จะกินอิ่มหรือไม่ นายพ่อไม่เคยถาม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อเดินทางจากลำปางมาอยู่กับท่านเศรษฐีใจบุญที่กรุงเทพ ท่านให้ผมเรียกท่านว่า "นายพ่อ" ท่านได้สอนให้ผมร้องเพลงเล่นกับวงดนตรีคนพิการของท่าน รวมทั้งสอนให้ขายล็อตเตอรี่ด้วย เพื่อให้ออกไปหาเงิน ผมก็ไป ไม่เคยอิดออดอะไร เพื่อหวังจะได้เรียนหนังสือและมีชีวิตที่ดีขึ้น...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
วันที่ฉันได้รับจดหมายจากแดน 3 ฉันกำลังมีความสุขกับงานขึ้นบ้านใหม่ บ้านที่ฉันกู้เงินสหกรณ์ตำรวจ และขายวัวทั้งฝูงที่เลี้ยงเอาไว้ นำเงินมาสร้างให้แม่แก้ว แม่ผู้ให้กำเนิดชีวิตฉัน โดยยอมทิ้งความอยากได้รถยนต์เก๋ง วีออสสีดำ ป้ายแดง ที่ฝันจะขับตะรอนทัวร์ ออกไปช่วยเหลือผู้คนตามต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกล แต่เอาเข้าจริงๆความฝันกับความเป็นจริง มักเดินสวนทางกันเสมอ...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เธอสวยถึงแม้เธอจะแต่งตัวขะมุกขะมอมด้วยเสื้อผ้าราคาถูกและเก่าคร่ำคร่าแต่เปลือกกายภายนอกอันหม่นหมองของความยากไร้หาได้บดบังความงามของเธอไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1. ยามเช้าเปิดหน้าต่างตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างและข่าวคราวจากโลกภายนอก
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  สวยหรือไม่สวยเพราะหรือไม่เพราะหอมหรือไม่หอมอร่อยหรือไม่อร่อยสบายหรือไม่สบายดีหรือไม่ดี...ข้าใช้ความรู้สึกนึกคิดจากเลือดเนื้อชีวิต กว้างศอก ยาววา ของข้าตามกรอบความรู้สึกนึกคิดแบบทวิลักษณ์นี้แยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว ความผิดความถูกต้อง ความดีและความชั่ว ออกจากกันตั้งเล็กจนโตและตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้เพื่อเลือกรับและปฏิเสธสิ่งต่างๆในโลกครอบคลุมไปหมดทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตายและทำให้ชีวิตข้าอยู่รอดปลอดภัยในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความโหดร้ายของชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเกลียดและฉันรักเธอมาทักถามทำไมในเหตุผลเหตุใดรัก เหตุใดเกลียด เกิดในตนสิ่งใดดลดาลใจให้เกิดมา
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
รื่นเริงเถิดจงรื่นเริงเถิดชีวิตนี้เกิดมาสั้นนักหนารื่นเริงเถิดมิตรอย่ามัวรอช้าก่อนเวลารื่นเริงจะหมดสิ้นไป