Skip to main content

  

สวยหรือไม่สวย

เพราะหรือไม่เพราะ

หอมหรือไม่หอม

อร่อยหรือไม่อร่อย

สบายหรือไม่สบาย

ดีหรือไม่ดี...

ข้าใช้ความรู้สึกนึกคิด

จากเลือดเนื้อชีวิต กว้างศอก ยาววา ของข้า

ตามกรอบความรู้สึกนึกคิดแบบทวิลักษณ์นี้

แยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว ความผิดความถูกต้อง

ความดีและความชั่ว ออกจากกัน

ตั้งเล็กจนโตและตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้

เพื่อเลือกรับและปฏิเสธสิ่งต่างๆในโลก

ครอบคลุมไปหมดทุกอย่างในชีวิต

ตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตาย

และทำให้ชีวิตข้าอยู่รอดปลอดภัย

ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความโหดร้ายของชีวิต


เป็นไปได้อย่างไร

ที่ปุถุชนคนธรรมดาอย่างข้า

จะปล่อยมือปล่อยใจละวาง

มิให้มือและใจไปยึดมั่นถือมั่น

ติดอยู่ในกรอบวิธีการคิดเช่นนี้

ความคิดที่ข้าต้องใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้

เพื่อการอยู่รอดของชีวิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ความคิดที่ท่านอาจารย์ทางธรรม ( ชั้นสูง ) ทั้งหลาย

พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " มันเป็นสมมุติสัจจะ " ที่เจ้าจะต้องละทิ้งปล่อยวางมันไป

เพื่อจักได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทางใจทั้งปวง

ที่มีต้นตอสาเหตุมาจากวิธีการคิดแบบแบ่งแยกเช่นนี้

และบรรลุธรรมอันสุขสงบ

อยู่เหนือโลกความคิดแบบทวิลักษณ์ ที่เป็นเหตุ ทำให้เจ้าเป็นทุกข์ทางใจซ้ำๆซากๆ

เป็นไปได้อย่างไร

ข้าเฝ้าแต่สงสัยธรรมะ

ที่มีแต่เรื่องยากแสนยากที่จะเข้าใจ

และยิ่งยากแสนยากที่จะปฏิบัติ

เพราะมีแต่เรื่องที่ต้องอดทน อดกลั้น อดอยาก

และฝืนใจตัวเอง สารพัดเรื่อง

 

ถ้าหากมิใช่

ผู้ใฝ่รู้ในธรรมะของพุทธองค์แล้วไซร้

ผู้ที่ประสบความทุกข์ทางใจอย่างหนักหนาสาหัส

จนมิอาจพึ่งพาสิ่งใดในโลกนี้ได้แล้ว เท่านั้น

ที่อยากจะก้าวเข้าไปสู่ประตูธรรม

ที่เต็มด้วยงานที่ยากแสนยากและหนักอึ้ง

และน่าเบื่อ...

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…