Skip to main content

 

1.

 

\\/--break--\>

หัวใจของข้าป่วยไข้

มีอาการซึมเศร้าหม่นหมอง

มีอาการหวาดกลัว

มีอาการหวาดผวา

มีอาการหวาดระแวง

มีอาการหวั่นไหวฟุ้งซ่าน

มีอาการกระวนกระวาย

มีอาการตึงเครียดวิตกกังวล

มีอาการย้ำคิดย้ำทำซ้ำๆซากๆ

มีอาการรู้สึกว่าตัวเองผิด

มีอาการรู้สึกว่าอยากจะถูกลงโทษ

มีอาการรู้สึกว่าอยากจะได้รับการให้อภัยและปลดปล่อย

มีอาการหมดอาลัยตายอยาก

มีอาการท้อแท้เบื่อหน่ายไปหมดสิ้นทุกอย่าง

จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

รุมเร้าอยู่ในหัวใจ...

เมื่อถึงเวลานอนหลับ

ก็มีแต่ความฝันร้ายตลอดคืน

ครั้นพอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในยามเช้า

ก็แทบไม่มีกะจิตกะใจและเรี่ยวแรงใดๆ

ที่จะลุกขึ้นมามีชีวิตอยู่

แต่ข้าก็ต้องแข็งใจ...

ซังกะตายลุกขึ้นมามีชีวิตและเคลื่อนไหวไปตามอัตภาพ

เพราะว่าชีวิตยังมีชีวิตอยู่

และจำเป็นจะต้องดำเนินต่อไป...

 

2.

 

หัวใจของข้าป่วยไข้

ใช่

หัวใจของข้าป่วยไข้

ไม่มีอะไรผิดแปลก...

ในโลกและสังคมที่มากไปด้วยกฎเกณฑ์กำหนดควบคุมชีวิตของคนเรา

ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแตกต่างและโหดร้ายนี้

ใครๆก็มีสิทธิ์ที่จะล้มลงป่วยทางใจด้วยกันทั้งนั้น

เมื่อถึงคราวที่หัวใจของเขาได้รับพิษร้าย

จากโลกและสังคมที่เป็นเช่นนี้ - อย่างรุนแรง

เกินภูมิต้านทานในหัวใจของเขาจะสกัดกั้นเอาไว้ได้

บางคนเดินทางไปหาร่างทรงเทพเจ้า

บางคนเดินทางไปหาหมอผี

บางคนเดินทางไปหาหมอดู

บางคนเดินทางไปหาพระ

บางคนเดินทางไปหาจิตแพทย์

บางคนที่อาการหนักจนคลุ้มคลั่ง

ถูกมัดแข้งมัดขาหามไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลบ้า

 

3.

 

หัวใจของข้า

อา บางทีพรุ่งนี้

ถ้าหากอาการป่วยของเจ้า

ที่ข้าปล่อยให้มันรุมเร้ามาเนิ่นนาน

วันแล้ววันเล่า...

ด้วยหวังเอาไว้ว่า...วันหนึ่งมันคงจะหายไปเอง

ตามวิธีการคิดแบบคนจนอย่างข้า

ที่พร่ำบอกแก่ตัวเองอยู่เสมอว่า

คนจนอย่างเรา...ไม่ควรที่จะป่วยไข้ทั้งกายและใจ

ถึงขั้นต้องออกไปหวังพึ่งคนรักษาเยียวยา - ให้คนเขาดูหมิ่น

ว่าจนแล้วยังไม่เจียม...

ยังมีหน้ามาล้มลงป่วยเรื้อรัง - แบบสามวันดีสี่วันไข้

แทนที่จะล้มลงป่วยและรีบหาย

( หรือไม่ก็รีบตายให้มันพ้นๆไปเสีย )

ยังไม่มีอาการทุเลาลง...

บางทีพรุ่งนี้

ข้าอาจจะตัดสินนำเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในวันนี้ 500 บาท

ตัดสินใจเสี่ยงออกไปพึ่งพาใครสักคนหนึ่ง

ที่เขารับเยียวยารักษาอาการป่วยทางใจของผู้คน

ที่คิดค่าบริการถูกที่สุด - สักครั้ง

เพราะยังดีกว่าปล่อยให้ตัวเองเสี่ยงต่อการเป็นบ้า

แล้วถูกใครก็ไม่รู้ มัดแข้งมัดขา หามไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล

โดยไม่ได้ทำอะไรเลย

แต่ถ้าไม่หาย...

ก็คงต้องจำยอมปล่อยมันไปตามบุญตามกรรม

เพราะทั้งชีวิตเหี่ยวๆของข้าในวันนี้

มีเงินติดตัวอยู่เพียงแค่นี้เอง

แต่ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ

บางที...ถ้าถึงพรุ่งนี้ ข้าอาจจะเปลี่ยนใจ...ไม่ไปก็ได้

เพราะไหนๆก็ทนทรมานอยู่กับอาการป่วยทางใจแบบนี้

มาจนชาชินแล้ว...

ถ้าข้าจะเป็นบ้า...ข้าก็น่าจะเป็นบ้าไปนานแล้ว

 

4.

 

ใช่

บางทีพรุ่งนี้

ข้าอาจจะเปลี่ยนใจไม่ไปก็ได้

เงินตั้ง 500 บาท เอาไปเสี่ยงรักษาตัวเอง - ถ้าเกิดรักษาไม่หายก็สูญเปล่า

สู้อดทนเสี่ยงรอ...ให้มันหายไปเองอีกต่อไปสักพัก

หรือไม่ก็เป็นบ้า...ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียเลยน่าจะดีกว่า

เงิน 500 บาท คนจนอย่างข้ากินได้ตั้งหลายวันแน่ะ

ข้าเสียดาย...

 

5.

 

หัวใจของข้าป่วยไข้

ใช่

หัวใจของข้าป่วยไข้

ไม่มีอะไรผิดแปลก

ในโลกและสังคมที่มากไปด้วยกฎเกณฑ์กำหนดควบคุมชีวิตของคนเรา

ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแตกต่างและโหดร้ายนี้

ใครๆก็มีสิทธิ์ที่จะล้มลงป่วยทางใจด้วยกันทั้งนั้น

เมื่อถึงคราวที่หัวใจของเขา

ได้รับพิษร้ายจากโลกและสังคมที่เป็นเช่นนี้

เกินภูมิต้านทานของเขาจะสกัดกั้นเอาไว้ได้

เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่มีขีดจำกัด

ในการอดทนยอมรับความบีบคั้นและความเจ็บปวดของชีวิต

ที่มากเกินคนจะทนไหว...

แตกต่างกันแต่ว่า

โอกาสที่จะได้เข้าไป - รับการเยียวยารักษาอย่างถูกต้องและดีที่สุด - เท่านั้น

ที่ต่างกันในความเป็นมนุษย์ - ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับกำแพงเงิน

ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุด

ที่ทำให้คนมากมายหลายคน มิอาจเยียวยารักษาชีวิตของตัวเอง

อย่างที่เขาควรจะได้รับการเยียวยารักษา

และจำเป็นต้องปล่อยชีวิต ให้มีอันเป็นไป - ตามยถากรรม

เพราะเหลียวไปทางไหนก็พบแต่กำแพงเงิน

เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน...

ที่พวกเขาไม่สามารถฝ่าฟันมันเข้าไปได้.

 

 

9 พฤศจิกายน 2552

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางลงมาจากยอดเขาสูงลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่างเป็นเวลานานนับปีแล้วหลังจากต่อสู้ปีนป่าย...ขึ้นไปอยู่บนยอดสุดเป็นเวลานานหลายปีแต่ทันทีที่เขาก้าวย่างลงมาเหยียบฝ่าเท้าลงไปแตะผืนแผ่นดินเบื้องล่างเขาก็พลันพบว่า...พื้นดินบนผืนแผ่นดินไทยมิใช่พื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเขาเสียแล้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 เมื่อวานนี้ ข้าจำใจต้องตัดสินใจซื้อบัตรตีตั๋ว - ขึ้นชิงช้าสวรรค์กับเด็กๆในงานสวนสนุกข้างบ้านเพราะทนคำรบเร้าของเด็กๆที่ต้องการให้ข้าขึ้นไปนั่งเป็นเพื่อนไม่ไหว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  จริงหรือที่มีท่านผู้รู้กล่าวกันว่าต้นตอสาเหตุ - ของความขัดแย้งแตกแยกกันอย่างรุนแรงในสังคมไทย ที่กำลังลุกลามกันใหญ่...และยากจะหาข้อยุติในขณะนี้หาใช่เรื่องที่เกิดขึ้น...จากคนเพียงสอง - สามคน ขัดแย้งกันแล้วชักชวนคนอื่นๆมาเป็นพรรคพวกร่วมทะเลาะกันไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 มีคนเคยบอกฉันว่า "การเดินทาง คือกำไรของชีวิต" อาจเป็นเพราะความฝันกระมัง ที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเดินทางอย่างมากมาย สมัยฉันเป็นเด็กเล็ก ฉันเคยฝันกับตัวเองเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง...ฉันจะเป็นดั่งซานตาคลอส นักบุญใจดี ที่ชอบแบกถุงผ้าใบใหญ่พาดไหล่ เดินทางเอาขนมไปแจกเด็กๆที่หิวโหยในวันคริสต์มาส...ฉันเชื่อว่าความฝันช่วยทำให้ชีวิตคนเราในแต่ละวัน - มีความหมาย และเฝ้าบอกแก่ตนเองเสมอว่า ความฝันต้องควบคู่กับการเล่าเรียนศึกษา เพื่อเป็นบันได...ทอดขึ้นไปสู่อนาคตอันสดใส สำหรับก้าวขึ้นไป - ไขว่คว้าความฝันให้เป็นจริง...จนกระทั่งฉันโตเป็นหนุ่มฉันจึงเริ่มฝัน เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมา ฉันฝันว่า วันหนึ่ง…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ภายในกำแพงที่คุมขังแห่งนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม ป้องกันไม่ให้ผม ต้องถูกบังคับสับถูกโขกให้ออกไปตระเวนร้องเพลงตามข้างถนน ซึ่งไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกอย่างไร จะต้องทำเงินให้ได้ ตามยอดเงินที่นายพ่อตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด จะกินอิ่มหรือไม่ นายพ่อไม่เคยถาม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อเดินทางจากลำปางมาอยู่กับท่านเศรษฐีใจบุญที่กรุงเทพ ท่านให้ผมเรียกท่านว่า "นายพ่อ" ท่านได้สอนให้ผมร้องเพลงเล่นกับวงดนตรีคนพิการของท่าน รวมทั้งสอนให้ขายล็อตเตอรี่ด้วย เพื่อให้ออกไปหาเงิน ผมก็ไป ไม่เคยอิดออดอะไร เพื่อหวังจะได้เรียนหนังสือและมีชีวิตที่ดีขึ้น...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
วันที่ฉันได้รับจดหมายจากแดน 3 ฉันกำลังมีความสุขกับงานขึ้นบ้านใหม่ บ้านที่ฉันกู้เงินสหกรณ์ตำรวจ และขายวัวทั้งฝูงที่เลี้ยงเอาไว้ นำเงินมาสร้างให้แม่แก้ว แม่ผู้ให้กำเนิดชีวิตฉัน โดยยอมทิ้งความอยากได้รถยนต์เก๋ง วีออสสีดำ ป้ายแดง ที่ฝันจะขับตะรอนทัวร์ ออกไปช่วยเหลือผู้คนตามต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกล แต่เอาเข้าจริงๆความฝันกับความเป็นจริง มักเดินสวนทางกันเสมอ...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เธอสวยถึงแม้เธอจะแต่งตัวขะมุกขะมอมด้วยเสื้อผ้าราคาถูกและเก่าคร่ำคร่าแต่เปลือกกายภายนอกอันหม่นหมองของความยากไร้หาได้บดบังความงามของเธอไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1. ยามเช้าเปิดหน้าต่างตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างและข่าวคราวจากโลกภายนอก
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  สวยหรือไม่สวยเพราะหรือไม่เพราะหอมหรือไม่หอมอร่อยหรือไม่อร่อยสบายหรือไม่สบายดีหรือไม่ดี...ข้าใช้ความรู้สึกนึกคิดจากเลือดเนื้อชีวิต กว้างศอก ยาววา ของข้าตามกรอบความรู้สึกนึกคิดแบบทวิลักษณ์นี้แยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว ความผิดความถูกต้อง ความดีและความชั่ว ออกจากกันตั้งเล็กจนโตและตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้เพื่อเลือกรับและปฏิเสธสิ่งต่างๆในโลกครอบคลุมไปหมดทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตายและทำให้ชีวิตข้าอยู่รอดปลอดภัยในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความโหดร้ายของชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเกลียดและฉันรักเธอมาทักถามทำไมในเหตุผลเหตุใดรัก เหตุใดเกลียด เกิดในตนสิ่งใดดลดาลใจให้เกิดมา
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
รื่นเริงเถิดจงรื่นเริงเถิดชีวิตนี้เกิดมาสั้นนักหนารื่นเริงเถิดมิตรอย่ามัวรอช้าก่อนเวลารื่นเริงจะหมดสิ้นไป