Skip to main content

 


"บันไดท่าน้ำ ฟาร์ม 63 อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ภาพโดย
Citizen Journalist 10 มกราคม 2554"

พระเจ้า
มีจริงหรือไม่
ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด
ดังนั้น โลกนี้ จึงมีทั้งคนเชื่อพระเจ้า
และคนไม่เชื่อพระเจ้า
 
พระเจ้า
ใครคนหนึ่งบอกฉันว่า
คนเราจะรู้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่อย่างแน่ชัด
ก็ต่อเมื่อชีวิตของเขาสิ้นหวัง
และหมดศรัทธาในมนุษย์และสังคม
อย่างสิ้นเชิงเท่านั้น
 
ฉันเอง
เป็นคนเล็กๆกระจ้อยร่อยหนึ่ง
ที่ไม่รู้ว่า พระเจ้ามีจริงหรือไม่
เพราะไม่เคยมีความคิดจะไปพิสูจน์
หรือต่อต้านความเชื่อที่ใหญ่โตนี้เหมือน นิทเช่
และชีวิตก็ยังไม่เคยสิ้นหวังและหมดศรัทธา
ในมนุษย์และสังคมอย่างสิ้นเชิง
ฉันสำนึกรู้ง่ายๆแต่เพียงว่า
ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อใดๆในโลกนี้จะเป็นจริงหรือไม่
หรือจะโง่เขลางมงายน่าหัวเราะเยาะเย้ย
ในทัศนะของเราสักเพียงใดก็ตาม
แต่ถ้าหากความเชื่อนั้น
เป็นความเชื่อที่ทำให้คนเรามีความหวัง
และมิได้ไปเบียดเบียนให้คนอื่นเขาเดือดร้อน
เราต้องยอมรับนับถือความเชื่อนั้นด้วยความเคารพ
เพราะสิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์
ที่เกิดมาอยู่ในโลก...ที่อยู่ได้ยากแสนยากนี้
คือการขาดความเชื่อ
และสิ้นไร้ความหวัง นั่นเอง...
                                 
20 พฤศจิกายน 2554
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
 
 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…