Skip to main content

ช่างเถิด
ถึงแม้ว่า
เขาจะดื่มตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา
ตั้งแต่เช้าจนจรดเย็น
เพื่อบำบัดความเปล่าเปลี่ยวในหัวใจของเขา
ในยามที่ชีวิตของเขาตกต่ำ

ช่างเถิด
ถึงแม้ว่า
เขาจะแต่งตัวซอมซ่อด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ
ท่ามกลางสายตาดูแคลนของผู้คน
ในสังคมที่ตัดสินกันด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว

ช่างเถิด
ถึงแม้ว่า
เขาจะไว้ผมยาวปล่อยหนวดเครารกรุงรัง
เหมือนคนบ้าที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับตัวเอง
และสิ่งแวดล้อม

ช่างเถิด
ถึงแม้ว่า
เขาจะไม่เหลือสถาบันและสถานภาพใดๆทางสังคม
มารับรอง ตีตรา คุณค่าความเป็นคนของเขา
เหมือนสมัยที่เขายังมีงานทำในตำแหน่งที่มีเกียรติ
มีเงินเดือนประจำจับจ่ายใช้สอยได้อย่างฟุ่มเฟือย

ช่างเถิด
ถึงแม้ว่า
คนที่เคยคบเขาในเวลาที่เขามีผลประโยชน์
จะพากันเลิกคบค้าสมาคมกับเขา
เพราะชีวิตที่ตกต่ำของเขา...
ไม่เหลือผลประโยชน์ใดๆให้ใครได้เก็บเกี่ยวอีก

ช่างเถิด
ถึงแม้ว่า
คนที่เคยคบเขาเพราะเขามีความรื่นรมย์ในชีวิต
จะพากันเลิกคบค้าสมาคมกับเขา
เพราะเขาไม่มีเงิน...ซื้อความรื่นรมย์ใดๆในชีวิต
เพลิดเพลินกับใครได้อีก

ช่างเถิด
คนเรารักจะคบกันด้วยเหตุใด
เมื่อเหตุแห่งรักนั้นหมดสิ้น
ความรักย่อมหมดสิ้นไปด้วยเป็นธรรมดา
แต่สำหรับฉัน...
ที่รักตัวตนความเป็นคนใจดีมีเมตตาของเขา
ไม่ว่าชีวิตของเขาจะรุ่งเรือง
มีแต่ผู้คนห้อมล้อมยกย่องสรรเสริญ
หรือตกต่ำมีแต่ผู้คนเบือนหน้าหนี
และแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเวลาพบปะเขา
ดังที่เขากำลังประสบอยู่ในทุกวันนี้
แต่ฉันก็ยังรักและเคารพเขา
เหมือนอย่างที่เคยรักและเคารพเขามาตลอดชีวิต

ใช่
เพราะฉันไม่ได้รักคุณสมบัติภายนอกของเขา
แต่ฉันรักตัวตนความเป็นมนุษย์ของเขา
ที่เป็นคนดีมีคุณธรรมโดยอุปนิสัย
ความรักและเคารพของฉันที่มีต่อเขา
จึงไม่เคยเสื่อมคลาย...
ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนไม่ค่อยดี
แต่ฉันก็เลือกที่จะรักและเคารพคนดี
คนดีที่เราได้พบปะแล้ว
ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในชีวิต.

21 พฤศจิกายน 2554 - 19 มกราคม 2555
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…