Skip to main content

20080506 ภาพประกอบ

 

เมื่อคนสองคน
มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน
ด้วยสาเหตุที่ขัดผลประโยชน์และลบหลู่ศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
และต่างฝ่ายต่างไม่ยอมประนีประนอมอ่อนข้อเข้าหากัน
เผชิญหน้ากันคราวใด...
ต่างฝ่ายต่างก็กระเหี้ยนกระหือลงมือทะเลาะเบาะแว้งกัน
แบบปากต่อปากฟันต่อฟัน
เพื่อทำลายกันให้พินาศไปข้างหนึ่ง
โดยไม่ยอมฟังเสียงทัดทานและความปรารถนาดีของใครๆ
ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก...
ถ้าหากเราตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันหนึ่ง
แล้วมีคนมาบอกข่าวร้ายว่า
คนทั้งสองคนนี้...
ได้ลงมือฆ่ากันจนเลือดสาด
ตายตกตามกันไปทั้งสองคน

ใช่
ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก...
เพราะนี่คือสัจธรรมอย่างง่ายๆของชีวิต
ที่ หมู หมา กา ไก่ ก็สามารถเข้าใจได้
เมื่อมีการลงมือทำร้ายกันและกันเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือว่าสัตว์
ย่อมปรากฏเลือดและความตายเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
เป็นธรรมดา-ที่ด้องเป็นเช่นนี้


เช่นเดียวกันกับในขณะนี้
ที่สังคมสองสังคมทางการเมืองกำลังทะเลาะเบาะแว้งกัน
ด้วยสาเหตุที่ขัดผลประโยชน์และลบหลู่ศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
และต่างฝ่ายต่างไม่ยอมประนีประนอมอ่อนข้อเข้าหากัน
เผชิญหน้ากันคราวใด...
ต่างฝ่ายต่างก็กระเหี้ยนกระหือลงมือทะเลาะเบาะแว้งกัน
แบบปากต่อปากฟันต่อฟัน
เพื่อทำลายกันให้พินาศไปข้างหนึ่ง
โดยไม่ยอมฟังเสียงทัดทานและความปรารถนาดีของใครๆ
ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก...
ถ้าหากเราตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันหนึ่ง
แล้วมีคนมาบอกข่าวร้ายว่า
สังคมทั้งสองสังคมนี้
ได้ลงมือฆ่ากันจนเลือดนองแผ่นดิน

ใช่
ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก...
เพราะนี่คือสัจธรรมอย่างง่ายๆของชีวิต
ที่ หมู หมา กา ไก่ ก็สามารถเข้าใจได้
เมื่อมีการลงมือทำร้ายกันและกันเกิดขึ้น
ไม่ว่าคนหรือว่าสัตว์
ย่อมปรากฏเลือดและความตายเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
เป็นธรรมดา-ที่ต้องเป็นเช่นนี้

ใช่
มันต้องเป็นเช่นนี้
ในเมื่อคนเขาอยากจะทำลายกันให้พินาศไปข้างหนึ่ง
โดยไม่ยอมฟังเสียงทัดทานและความปรารถนาดีของใคร
คนที่ไม่อยากเห็นคนไทยด้วยกันฆ่ากันอย่างเรา
จะทำอะไรได้...
นอกจากถอยออกมายืนอยู่ห่างๆจากสถานการณ์อันเลวร้าย
และคอยฟังข่าวพวกเขาลงมือฆ่ากัน...จนเลือดนองแผ่นดิน
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ก็เท่านั้น...
ไม่เห็นมีอะไรต้องมาถกเถียงกันให้เปลืองน้ำลาย
ในเมื่อพวกเขากระเหี้ยนกระหือ...
อยากจะเห็นเลือดและความตายของกันและกัน
ก็ขอให้พวกเขาได้พบปะกับมันทั้งสองฝ่าย
เพื่อที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่า
ราคาของเลือดและความตายนั้น
ราคาแพงจนไม่มีอะไรในโลกนี้มาทดแทนได้เพียงพอ
โดยเฉพาะเลือดและความตายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
ลาก่อน...

2 พฤษภาคม 2551
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…