Skip to main content

อายุมากขึ้น

ร่างกายเริ่มโรยรา โรคต่างๆ ก็วิ่งเข้ามาหา เวียนหัว นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ปวดตามส่วนต่างๆ เช่น ข้อมือ ข้อนิ้ว หลัง บั้นเอว ต้นแขน
ยามวัยเด็ก วัยหนุ่มสาว ทานอะไรได้หมด ไม่มีปัญหาเจ็บป่วย ทานอร่อยและทานได้มาก ลองคิดทบทวนย้อนหลัง ด้านการใช้ชีวิตและการปฏิบัติงาน ในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาวออกกำลังโดยเล่นกีฬา สู่วัยทำงาน ไม่ได้ออกกำลังกายเลย งดเว้นการวิ่งหรือเดินเสียเฉยๆ ชอบนั่งสังสรรค์ร้องเพลงคาราโอเกะ ด้านการรักษาสุขภาพ เพียงแต่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน ที่น่าอายมากคืออารมณ์ทางเพศลดลงแทบหมด เหมือนน้ำมันแห้งขอดถัง...


คิดวกไปเวียนมา...เรารึ อ่านหนังสือก็มาก โดยเฉพาะด้านสุขภาพ มีการรับรู้จากการไปรักษากับหมอบ่อยครั้ง การศึกษาอยู่ในระดับพอสมควร ถ้าปล่อยตัวฉันไม่ใช่ของฉันอย่างนี้ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าเป็นโรค จะเป็นภาระกับตัวเองและคนใกล้ชิดเท่านั้น...


ระยะเวลา
1 เดือนที่ผ่านมา

ผมปัสสาวะบ่อย บางทีปวดฉี่ก็กลั้นไม่อยู่ มันจะเล็ดออกมา ถ้าอากาศเย็นหรือนั่งในห้องแอร์จะฉี่บ่อยเพิ่มขึ้นอีก ขับรถยนต์เข้าตัวเมืองระยะ 30 กิโลเมตรเศษ ต้องจอดฉี่ตามปั้มสองสามครั้ง


ผมพาตัวเองไปพบหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เล่าอาการให้หมอฟัง หมอหนุ่มซักถามและบอกว่าอาจเป็น “ต่อมลูกหมากโต” ต่อมลูกหมากที่โตอาจกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ถ่ายปัสสาวะลำบาก กะปริดกะปรอย ถ่ายไม่สุด หมอให้ยาทาน อีก 1 เดือนให้มาหาหมอ


หลังทานยาแล้ว

อาการผมดีขึ้นเล็กน้อย พอครบหนึ่งเดือนก็ไปหาพบหมอตามนัด หมอให้ไปเจาะเลือดตรวจหาสาเหตุ ผลการตรวจเลือด หมอแจ้งว่าค่าเลือดสูงถึง 10.5 อธิบายได้ว่า มีแนวโน้มจะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากสูง ใจผมชักแกว่ง

ถ้าอยากรู้ว่าเป็นจริงไหม ต้องขูดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากไปตรวจ”

หมอนัดวันขูด และให้ผมซื้ออุปกรณ์ขูดชิ้นเนื้อที่ขายห้องใต้ดินราคา1,200 บาท เตรียมไว้

 

ผมรอวันขูดชิ้นเนื้อด้วยใจสุขๆ ทุกข์ๆ

มะเร็งร้ายใครบ้างไม่กลัว...ผมพยายามปลอบใจตัวเอง นึกถึงคำสอนของพุทธทาสภิกขุ “ตัวกูไม่ใช่ของกู” ผมคิดต่อว่า ทุกอย่างมีเกิดและดับ หากเป็นก็รักษา หมอทำหน้าที่รักษา คงต้องทำใจยอมรับความจริง อยู่หรือไปก็ต้องยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาหรือรอยยิ้ม...

 

วันขูดชิ้นเนื้อมาถึง

หมอรับอุปกรณ์ขูดชิ้นเนื้อจากผมเตรียมขูด พอนอนบนเตียง หมอบอกให้นอนตะแคง ให้ผมถอดกางเกงออกแค่เข่า ทั้งกางเกงในและขายาว นางพยาบาลอยู่ข้างเตียง อายไม่อายก็ต้องถอด

งอเข่า แอ่นก้นขึ้น”

หมอสำทับ ผมนอนเกร็ง หมอทำการขูดชิ้นเนื้อ เสียงดังคล้ายเครื่องเย็บกระดาษดังเป็นระยะๆ ผมร้องดังในลำคอเป็นจังหวะตาม นางพยาบาลบอกให้หายใจทางปาก ผมทำตาม มันคลายความอึดอัดลง เสียงดังติดต่อกันครบ 12 ครั้ง หมายถึงชิ้นเนื้อ 12 ชิ้น เจ็บพอประมาณ หมอนัดฟังผลเหมือนนัดฟังคำพิพากษาของศาลว่าเป็นหรือไม่เป็น


ทำใจให้สบาย”

ภรรยาผมปลอบเหมือนบอกคนใกล้จะตาย

ถ้าเป็นก็รักษาตามนั้น หมอเขาเก่ง...ถ้าไม่เป็นก็ดี”

ผมทำใจได้บ้างไม่ได้บ้าง

 

วันนัดฟังผลมาถึง

ผมนั่งตรงหน้าหมอรูปหนุ่มรูปหล่อ ภรรยายืนเอาใจอยู่ข้างๆ ผมตั้งใจฟังคำตัดสินจากหมอ...ด้วยใจเต้นระทึก

เสียใจด้วย...”

หมอเอ่ยคำชี้เป็นชี้ตาย ใจผมเย็นเยียบ ขณะหมอระบายยิ้ม...ค่อยๆ กล่าวคำต่อมา

...ที่ไม่เป็นมะเร็ง”

หัวใจผมพองโต...แต่ยังไม่วายนึกฉุน ฮึ...อารมณ์ขันลึกร้ายเชียวนะหมอ.

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…