Skip to main content

เด็กชายสันทัด

นั่งยองๆ บนกำแพงวัด ตาจ้องเขม็งที่ร่างชายคนหนึ่ง ซึ่งนอนคว่ำ ไม่สวมเสื้อบนพื้นศาลาวัด บนเสื่อผืนหนึ่ง คางวางบนหมอนเก่าคร่ำมือประสานรองรับคาง วันนี้เป็นวันที่ 15 เมษายน เป็นวันพญาวันคนทางเหนือนิยมสักยันต์กันในวันนี้ เพราะเชื่อกันว่า ทำพิธีทางไสยศาสตร์ในวันนี้จะเข้มขลังนัก ภิกษุรูปหนึ่ง นั่งคุกเข่าข้างชายผู้นั้น ยกเหล็กแหลมเล็งไปยังกลางหลัง แล้วก็แทงจึกลงไป เหล็กกระทบเนื้อไปเรื่อยๆ ปากท่านก็ขมุบขมิบว่าคาถาประกอบ ชายที่นอนคว่ำ หน้าตาปรกติ ไม่แสดงอาการเจ็บปวด ชายฉกรรจ์อีก 4-5 คน ถอดเสื้อรอคิวสัก


เขาจ้องดูชายคนแรกอย่างสนใจ ทุกคนกระตือรือร้นอยากสัก ไม่มีใครแสดงอาการหวาดหวั่น พอเสร็จชายคนแรกลุกขึ้น ใบหน้ามีรอยยิ้ม คนที่สองสักต่อ
คนแรกบอกว่า

ไม่เจ็บอะไรมาก มดกัดยังเจ็บกว่า”

เด็กชายสันทัดมองดูด้วยความตื่นเต้น บอกกับตนเองว่า

เขาใจถึงจริงจริ๊ง ไม่มีใครแหยงเลย”


สื่อยุคเมื่อ 30 กว่าปีก่อน

มีเพียงวิทยุ วิทยุจะมีเฉพาะบ้านบางหลังเท่านั้น หนังสือพิมพ์มีขายแต่ไม่มีใครซื้ออ่านกันมากมาย การรับข่าวสารมีจำกัด สื่อที่ดีคือการบอกเล่า จากปากสู่ปาก เด็กชายสันทัด ได้ยินผู้ใหญ่เล่าว่า


พี่ตี๋สักหนุมานคลุกฝุ่น แกเป็นหลานของย่าผงบ้านของเด็กชายสันทัดอยู่ฝั่งซ้ายของน้ำแม่ข่า ส่วนบ้าน พี่ตี๋อยู่ฝั่งขวา อยู่ตรงข้ามหัวสะพานไม้ข้ามน้ำแม่ข่า ปัจจุบันคือสะพานคอนกรีตใกล้กับโรงแรมปริ้นส์ ยุคนั้น ชายฉกรรจ์มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ถือว่าเป็นเรื่องปรกติของลูกผู้ชายอกสามศอก...พี่ตี๋ถูกทำร้ายจนแน่นิ่งไป คู่ต่อสู้นึกว่าตายจึงผละไป พี่ตี๋นอนซมเพียง2-3 วัน ก็เดินไปมาได้ตามปรกติ ฝ่ายตรงข้ามทราบข่าวก็คลางแคลงใจ ยกพวกทำร้ายพี่ตี๋อีก พี่ตี๋นอนซมแล้วก็ฟื้นอีก ฝ่ายคู่อริมึนงง ส่งสายสืบมาหาสาเหตุว่า พี่ตี๋มีของดีอะไร ก็ทราบว่า พี่ตี๋สักหนุมานคลุกฝุ่น หากใช้ไม้ตีหลายที พี่ตี๋ฟุบไปจะฟื้นลุกขึ้นมาได้หากตีทีเดียวจนแน่นิ่งไป แล้วทิ้งไว้ พี่ตี๋ม้วยมรณังแน่...ครั้งที่สามมาถึง พี่ตี๋ถูกตีที่เดียวอย่างจังไม่ฟื้นอีกเลย”


เหตุผลในการสักมี 2 ประการ

1. เพื่อให้เกิดเมตตามหานิยม มักสักเป็นรูปจิ้งจก นกสาลิกา

2. เพื่อให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี มักสักเป็นรูป ลายเสือเผ่น หนุมานคลุกฝุ่น หงส์ ลายสิงห์


การสักประเภทนี้ หลังการสักมักมีการทดลอง ใช้มีดฟัน บางรายฟันไม่เข้า บางรายสักแล้วให้ภรรยาใช้มีดปังตอฟัน ภรรยาไม่กล้าฟัน อ้อนวอนบ้าง ขู่บ้างให้ภรรยาฟันให้ได้ ภรรยาเลยสนอง ฟันฉับลงไปเลือดสาด ต้องพาส่งโรงพยาบาล


ผู้หญิงผิวขาวๆ

สวยๆ สักรูปหัวใจที่ไหล่ บ้างสักที่ข้อเท้า บ้างสักด้านหลังต่ำกว่าไหล่หน่อย หรือที่เอว ก็สวยเซ็กซี่ดีเหมือนกัน ผู้ชายร่างบึก มีกล้ามอก หัวไหล่ใหญ่ๆ ผิวขาวๆ สักมังกรกลางหลังบ้าง หรือเสือเผ่นที่หน้าอก รูปแปลกที่หัวไหล่ ใส่เสื้อกล้ามโชว์ เท่สวยทีเดียว เป็นศิลปะบนเรือนร่าง หรือศิลปะบนเนื้อหนัง ผู้ที่มีผิวขาวเวลาสักลายสักจะดูเด่นกว่าคนผิวคล้ำ มันก็เหมือนกับเราระบายสีสันบนกระดาษขาวอย่างนั้น


ผมเคยเห็น

พี่คนหนึ่งสักรูปผู้หญิงเปลือยบนกล้ามแขน มีลวดลายสีสัน ถ้าเล่นฟิตเนสระยะฟิตสุด ร่างกายสมบูรณ์ เวลาเบ่งกล้ามแขน ผู้หญิงเปลือยจะรูปร่างอวบ ขาว สะสวยทีเดียว คราใดเจ้าของร่างกายทรุดโทรม ไม่สบาย หรือร่ำสุรามากไปหน่อยเวลาเบ่งกล้ามแขน หญิงเปลือยจะผอมเล็ก เหี่ยวไปเลย ดังนั้น เวลาใครขอร้องแกให้เบ่งกล้ามให้ดูถ้าแกไม่พร้อมแกจะอิดออดบ่ายเบี่ยงเสมอ


 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…