Skip to main content

เมื่อผมย้าย

มาอยู่ที่สามหลัง ได้รู้จักกับครอบครัวหนึ่ง บ้านใกล้กัน สามีภรรยาอยู่ในวัยทำงาน ขยันทั้งคู่ เขามีบุตรชาย

คนหนึ่งเป็นเด็กที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ ผลการเรียนเกรด 4 ทุกวิชา ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
...
อยู่ในครรภ์มารดา 7 เดือนเศษก็คลอด หลังคลอดต้องนอนห้องไอซียู อีก 1 เดือน เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ปอดไม่ปรกติ หมอต้องเจาะรักษา จากนั้นมานอนพักฟื้นที่ห้องพิเศษอีก 7 วัน จึงกลับบ้านได้
ขณะเรียนหนังสือ เวลาว่างชอบอ่านหนังสือเสมอ ปั่นจักรยานเล่นในหมู่บ้าน มือถือหนังสือ ท่อนแขนกดแฮนด์รถไว้

อ่านหนังสือไปด้วย จนคนในครอบครัวต้องว่ากล่าว เกรงจะได้รับอันตราย
ในด้านสัมมาคารวะ ระเบียบวินัย มักมีปัญหาเสมอๆ เช่น ปิดสวิตช์ไฟข้ามศีรษะผู้ใหญ่ ดึงหนังสือจากมือผู้ใหญ่โดยไม่ขออนุญาต ตักอาหารในช้อนผู้ใหญ่อย่างน่าตาเฉย จนคนในวงอาหารส่งเสียงต่อว่าและสั่งสอน เด็กคนนี้ชื่อ “กุ๊กไก่”


พ่อแม่

ต้องคอยกำกับดูแลเด็กชายกุ๊กไก่เสมอ แกมักทำอะไรแผลงๆ นอกกรอบ อาบน้ำตอนเย็นนานมาก ย่าแอบดูหลาน เห็นนอนแช่ในโอ่ง ฉีดน้ำเล่นบ้าง โทรศัพท์มือถือใครวางทิ้งไว้ แกจะแอบกดเล่นเกมอะไรแปลกๆ

ผมชอบคุยกับกุ๊กไก่เสมอ คำพูดเหมือนผู้ใหญ่ เคยพาไปกินก๋วยเตื๋ยวด้วย กุ๊กไก่กินก๋วยเตี๋ยว 2 ชาม น้ำหวาน 2 ขวด ของหวานอีก 1 ถ้วย ไม่มีอาการจุกเลย นั่งอ่านหนังสือที่เปลญวนสบายอารมณ์ เติบโตเร็วมาก

เรียนประถมศึกษาปีที่ 6 อายุราว 11-12 ปี ความสูงเกือบ 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 50 กิโลกรัม


กุ๊กไก่

ยังไม่ได้ผ่านการวัด I.Q. จากการอ่านหนังสือพบว่า เครื่องมือวัดที่เรียกว่า I.Q.TEST ยังมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ ปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถหาเครื่องมือสำเร็จรูป ที่วัดศักยภาพมนุษย์ได้ดีพอ


ผมได้อ่าน

หนังสือ “แผนที่สู่การพัฒนาอัจฉริยภาพเด็ก” ของ ผศ.อุษณีย์ โพธิสุข ท่านได้กล่าวไว้ในหน้า 26

...เด็กเก่งๆ มักจะถูกเรียกว่าอัจฉริยะ ซึ่งนักวิชาการหลายท่านมีความเห็นว่า คำว่าอัจฉริยะ เราควรจะใช้กับบุคคลที่มีชื่อเสียง และผลงานเป็นที่ยอมรับระดับสากล ซึ่งผลงานที่เป็นประโยชน์กับสังคมและมนุษย์ชาติ...” เช่น กาลิเลโอ ขงจื้อ เบโธเฟน โมซาร์ท ฯลฯ


เด็กชายกุ๊กไก่

ใช้ศัพท์สูงเกินวัย เล่นคอมพิวเตอร์นานมาก จนพ่อต้องควบคุมเวลา จดจำอะไรได้ง่ายและรวดเร็ว

อ่านฉลากยาภาษาอังกฤษได้ ตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คิดอ่านอะไรนอกกรอบ ใช้ห้องน้ำเป็นที่ทดลอง ชอบเล่นไฟ...ผมเฝ้ามองแกด้วยความสนใจ และจะขอเรียนรู้เด็กคนนี้ด้วยความเอ็นดูและเข้าใจธรรมชาติของเด็ก


แกชอบพูดลอยๆ ให้ผมได้ยินบ้าง คนอื่นได้ยินบ้าง เป็นต้นว่า

อยากรู้จังสุนัขมีขนกี่เส้น ?”

หมาเห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันนานๆ แปลว่า หมามันเหงา”


มีคนโทรศัพท์มาที่บ้านกุ๊กไก่เป็นผู้รับ ผู้โทรศัพท์ถามว่า

ที่บ้านมีคนอยู่กี่คน ?”

ไม่บอก ...” ตอบฉลาดตามแม่สั่งหรือคิดเองไม่ทราบ

กุ๊กไก่บอกแม่ว่า จะไปในตัวเมืองเชียงใหม่ตามลำพัง แม่ถามว่า

ลูกจะไปยังไง ขึ้นรถตรงไหน ลงที่ใด... ?”

กุ๊กไก่บอกไม่ได้ เพราะชีวิตประจำวันไปกลับโรงเรียนโดยรถรายเดือน ไปเที่ยวและอื่นๆ ไปกับพ่อแม่


กุ๊กไก่พูดภาษากลางเหมือนแม่ ส่วนพ่อพูดคำเมือง พ่อกับลูกจะมีเรื่องถกเถียงทะเลาะกันเรื่อย มองอีกมุมเหมือนสีสันของครอบครัว เวลากุ๊กไก่พูด ทุกคนจะตั้งใจฟัง เพราะจะมีอะไรเด็ดๆ เสมอ เป็นต้นว่า


ป้าหน้อย เป็นญาติฝ่ายพ่อของกุ๊กไก่ รักและเอ็นดูกุ๊กไก่เป็นพิเศษ มีขนมอะไรอร่อยๆ จะนำไปให้เสมอ เห็นหน้าคราใด ก็จะจับแก้มกุ๊กไก่และกัดฟันกรอดๆ อย่างมันเขี้ยวทุกครั้งไป กุ๊กไก่สงสัยมานาน ทนไม่ไหวถามว่า

ทำไม...เห็นหน้าผม ก็จับแก้มผมทุกครั้ง ?”

ก็...กุ๊กไก่ น่ารัก”

งั้น...จับไปเรื่อย ๆ”

 

...................................................




บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…