Skip to main content




ย่างเข้าเดือนมีนาคม

น้ำแม่ข่าเริ่มแห้งแล้ว สามารถกระโดดข้ามไปได้ น้ำกินน้ำใช้ที่อาศัยบ่อน้ำในหมู่บ้าน เริ่มแห้งเช่นกัน ถ้าตักน้ำบ่อใช้มากๆ มันจะแห้งเกือบขอดก้น

นี่คือสภาพเมื่อ 40 กว่าปีก่อน หมู่บ้านช้างม่อยที่อยู่คนละฝั่งน้ำแม่ข่า มีระดับผืนดินที่สูงกว่าหย่อมบ้านผม เป็นเหตุให้บ่อน้ำแห้งขอดก่อน บ้านช้างม่อยมีผู้คนมาก ตอนเย็นทุกๆวันจะเห็นผู้คนในหมู่บ้านบางส่วนข้ามน้ำแม่ข่าแล้วเดินตามรอยทางเดินเป็นแถวตอนเรียงหนึ่ง ตัดผ่านป่าละเมาะติดแม่น้ำ มีผู้ใหญ่บ้างเด็กบ้างตามกันไป ผู้หญิงมีผ้าขนหนูผาดคอ ผู้ชายคาดผ้าขาวม้า ผมอยู่ที่บ้านห่างออกไปราวหกสิบเจ็ดสิบเมตรถ้ามองไปจะเห็นทุกวัน เขาเดินไปทะลุปากซอย ข้ามถนนราชวงศ์ เข้าซอยอีกครั้ง เดินไปตามซอยหลังกงสุลอเมริกัน เลี้ยวขวาตามถนนที่ทอดไปหาเจดีย์กิ๋ว (เจดีย์ขาวข้างเทศบาลนครเชียงใหม่) มุ่งสู่ท่าน้ำแม่ปิง เขาพากันไปอาบน้ำ เด็กๆถอดเสื้อผ้าได้โดดน้ำแม่ปิงตูมตาม ทั้งว่ายทั้งดำน้ำสนุกสนานมาก ผู้ใหญ่ว่ายสักครู่ก็ฟอกสบู่ สระหัว พุ่งลงน้ำแกล้งดำนานๆ ให้เด็กมองหาระคนตกใจเล็กน้อย บางทีดำลึกๆมองไม่เห็นตัว แกล้งไปจับขาเด็กๆ เด็กตกใจระคนตื่นเต้น ร้องวิ้ดๆว่ายน้ำหนี สนุกสนานทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ผู้หญิงบางคนนุ่งผ้าซิ่นคาดอก ต้องขมวดปมหน้าอกให้แน่น ป้องกันผ้าหลุดขายหน้า พวกเธอจะใช้มือตีน้ำให้ลมเข้าไปในผ้านุ่ง ผ้านุ่งจะโป่งพองพาลอยไปตามน้ำได้ ผู้ชายบางคนใช้มือตบน้ำอย่างไรไม่รู้ น้ำจะมีเสียงดังก้องทีเดียว ด็กๆยืนในน้ำมองอย่างแปลกใจว่าทำได้อย่างไร บนฝั่งบนสะพานจะมีคนยืนดูภาพโดยรอบอย่างสบายอารมณ์ ในตอนเย็นตามถนนรถราเริ่มเบาบางลงมาก มีแต่ความสงบโล่งตายามมองโดยรอบ ริมตลิ่งตั้งแต่หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่เลียบฝั่งไปทางใต้ถึง “ ขัวแขก” หรือสะพานจันทร์สมอนุสรณ์ เป็นที่เดินเล่นยามเย็นของเด็กเล็กกับผู้ปกครอง ผู้สูงอายุบ้าง แต่มีน้อยมากไม่ถึงสิบคน


แม่ปิงในฤดูแล้ง

จะปรากฏหาดทรายบริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำยิ่งแห้ง หาดทรายยิ่งเพิ่มบริเวณกว้างยาว หาดทรายจะเกิดตั้งแต่ชิดฝั่งด้านตะวันออก แผ่รุกเข้าหาฝั่งด้านทิศตะวันตก ราว 3 ใน 4 ส่วนความกว้างของน้ำแม่ปิงมีแนวแม่น้ำโค้งไปตามฝั่ง ผ่านหน้าเทศบาล ผ่านฝั่งหน้าเจดีย์กิ๋ว (เจดีย์ขาว) โค้งไปเรื่อยจนถึงตลาดต้นลำไย และไกลออกไป หาดทรายก็กระจายไปส่วนอื่นของน้ำแม่ปิงเช่นกัน บางคนก็ชอบเดินชมหาดเล่น สามารถเดินตั้งแต่หลังตลาดต้นลำไยย้อนขึ้นเหนือจนถึงหน้าเทศบาลได้


วันเสาร์อาทิตย์

บางทีก็วันอื่นๆ ผู้คนจะนำผ้าห่ม เสื้อผ้า มุ้ง ไปซักที่น้ำแม่ปิง เด็กๆไปด้วย จะเห็นคนซักผ้าเป็นภาพปรกติ ซักเสร็จก็ตากบนหาดทราย ซึ่งสะอาดปราศจากฝุ่น เป็นที่โล่งใหญ่ ผ้ารับแดดจัดเต็มที่ ผู้ใหญ่และเด็กก็ลงเล่นน้ำคลายร้อน คะเนว่าผ้าที่ซักแห้งแล้ว ก็ช่วยกันเก็บใส่กะละมังกลับบ้าน ในตอนเช้าถึงเย็น ยังมีคนมาตกปลา เขาจะยืนนิ่งๆในน้ำ มือถือคันเบ็ด สวมหมวก ยืนทนทานและนานๆกลางแดดกลางน้ำ หัวคงร้อนแต่เท้าเย็น เหมือนนกยางยืนแช่เท้าในน้ำรอจิกกินปลา มีเหมือนกันเท้าเย็นจนเป็นตะคริว บางทีก็เป็นลม อันตรายเหมือนกัน หากมองลงไปจะเห็น 2-3 คน ยืนนิ่งเป็นองค์ประกอบของน้ำแม่ปิง


ฤดูน้ำนองหรือน้ำหลาก

น้ำแม่ปิงขุ่นเปี่ยมฝั่งที่เป็นหลักรอ (เสาที่ปักเป็นแนวตลิ่ง) ฟองฟอดเหลืองลอยกระจายบนผิวน้ำเป็นแห่งๆ เห็นเศษไม้ลอยมา ผิวน้ำไหลแรงเป็นเกลียวคลื่นเล็กๆ ตอนเย็นผู้คนไปดูน้ำแม่ปิงกันมากมาย บางคนมา

ตกจ๋ำ (ยกยอ) ตามข้างตลิ่ง จะมีซุงต้นใหญ่จำนวนมากลอยมาตามน้ำเป็นระยะๆ ผู้ใหญ่บางคนบอกว่า บริษัททำไม้ของฝรั่งขนส่งซุงไม้สักทางน้ำ แล้วไปผูกเป็นแพที่จังหวัดตาก หรือนครสวรรค์ล่องไปยังกรุงเทพฯ หรือส่งขายต่างประเทศต่อไป เด็กวัยรุ่นที่แก่นกล้ากระโดดจากสะพานนครพิงค์ ไม่น่าเชื่อตัวดำคล้ำผอม แขนเล็กเรียว แต่จ้วงน้ำไม่กี่ทีทวนกระแสน้ำเชี่ยวได้ ไม่พอว่ายไปปีนป่ายนั่งซุงเล่น 2-3 คน เรือเล็กลำหนึ่ง เพรียวหัวท้าย นั่งได้คนเดียว กำลังแล่นทวนกระแสน้ำด้วยแรงพายของชายชราคนหนึ่ง มันพุ่งพรวดๆอย่างประเปรียว ความเร็วเหนือกว่ากระแสน้ำ พอผ่านสะพานนครพิงค์สัก 10-20 เมตร เขาหย่อนกระป๋องลงน้ำ เห็นกระป๋องสะท้อนแสงขาววิบวับลอยเหนือน้ำ โดยเขาจะกระจายหย่อนลงทั้งซ้ายขวา เป็นกระป๋องที่มีขอเบ็ดเกี่ยวเหยื่อเพื่อล่อปลาเต๊าะ (ปลาเทโพ) ให้มากินเหยื่อ.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เป็นเวลายามเย็นแล้ว ผมยืนบนฝั่งริมตลิ่งแม่น้ำปิง ปัจจุบันเป็นทางเท้า มือจับราวเหล็กที่กั้นไว้ ทอดสายตาดูลำน้ำแม่ปิง เข้าสู่กลางเดือนมีนาคม ระดับน้ำลดลง ไหลราบเรียบ สายน้ำนี้มีตำนาน มีเรื่องราวเล่าขานมากมาย ผมเหลียวดูทางซ้าย เจดีย์ขาวอยู่ห่างไปราว 10 เมตร ยังทาองค์เป็นสีขาว รถราวิ่งวนรอบ องค์เจดีย์ขาวนี้ ถ้ามองจากระเบียงชมวิว ด้านตะวันออกของวัดพระธาตุดอยสุเทพ มองไกลออกไปไกลทางทิศตะวันออก ถ้าไม่มีหมอกควัน ไม่มีเมฆบัง จะเห็นเจดีย์ขาวชัดเจนทีเดียว ถัดไปอีกเล็กน้อย จะเป็นหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ ข้างตลิ่งมีทางขึ้นลง พลันภาพในวัยเด็กอายุราว 10-…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เช้าตื่นขึ้นมา ราว 5 นาฬิกาเศษ เดินบริหารร่างกายลงบันได 10 ครั้ง ขึ้นบันไดโดยหลับตาอีก 10 ครั้ง ร่างกายรายงานว่า แสบจมูก แสบตา มองไปที่โค้งฟ้าทิศตะวันออก เป็นทุ่งนา สูงขึ้นไปอีกนิดเป็นถนนโค้งสายเชียงใหม่-สันป่าตอง ท้องฟ้าขมุกขมัว (ฟ้าหลัว)ไปทั่ว มันเป็นหมอกควันผสมฝุ่น สาเหตุมาจาก การเผาป่าเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเกษตรในฤดูฝน เผาเศษใบไม้กิ่งไม้ เผาขยะมูลฝอย ส่วนการเผาป่านั้น ต้องมีคนเผา คงไม่เกิดไฟลุกเองได้ อีกสาเหตุหนึ่ง คนเผาป่าเพราะเข้าใจว่า ถ้าไม่เผาผักหวานก็จะไม่แตกยอด เห็ดถอบ (เห็ดเผาะ) ก็จะไม่ได้กิน การเผาทุกชนิด ทำให้เกิดอากาศเสีย เรียกให้เป็นทางการว่า " มลพิษทางอากาศ "…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ปีแรกที่เป็นข้าราชการครู ผ่านมาได้ 30 ปีเศษ ได้ซื้อจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าขนาด 90 ซี.ซี.คันหนึ่ง สีแดงสดใหม่เอี่ยม นำออกจากร้านวันอังคาร โหราศาสตร์ถือว่าวันแรงไม่ดี ผมไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไร ขับไปให้พระผูกสายสิญจน์ที่วัดดับภัยกับน้อง ผูกเสร็จลองขับดู รถแฉลบกองทรายวัดเล็กน้อย น้องพูดว่า ไม่เป็นไรขับขี่ปลอดภัย พระก็สวดแล้ว สบายใจได้ ผมไม่ได้ซื้อเงินสด ต้องผ่อนรายเดือน ขับขี่โฉบเฉี่ยวได้ 22 วัน จำได้แม่นยำ เพราะรถถูกจี้บนดอยบ้านปง อำเภอแม่แตง จากปากทางเขื่อนแม่งัดเข้าไปราว 3 กิโลเมตร คนจี้ผิวขาว ตัดผมสั้นเกรียน ผ้าขาวม้าลายคลุมไหล่ รถผมกำลังลงดอย ต้องเบรกรถเล็กน้อย โดยวิ่งชิดทางด้ายซ้าย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นึกถึงอำเภอ ที่เคยทำงาน มีเหตุใดให้ระทึก น่าจดจำ มองไปที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ก่อนแห่งอื่น ดินแดนแห่งสวนส้มสายน้ำผึ้ง ที่ลือชื่อระดับประเทศ เข้าตัวอำเภอมองไปทางทิศตะวันตก จะเห็นสวนส้มปลูกเป็นแถวเขียวไปทั้งดอย สวนส้มที่มีมากบอกถึงปริมาณยาที่ต้องใช้ฉีด พื้นที่อยู่ใกล้เคียงสวนส้ม เช่น โรงเรียน บ้านที่อยู่อาศัย คงต้องระมัดระวัง อำเภอฝางมีร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย พื้นที่กว้างขวาง ประชากรมาก แต่ยังคงเป็นอำเภอ ไม่ได้เป็นจังหวัดจนบัดนี้ มีแม่น้ำฝางไหลขึ้นทิศเหนือ ผิดแผกแม่น้ำทั่วไปที่ไหลล่องใต้ แม่น้ำฝางไหลไปพบกับแม่น้ำกก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
จากนั้นเขาจะกลับลำเรือ กลางน้ำที่เชี่ยวจัด ช่วงนี้สำคัญ ต้องอาศัยความชำนาญ ให้กระแสน้ำปะทะข้างกราบเรือ โดยให้สัมพันธ์กับมุมเรือเลี้ยวกลับ รวมทั้งความเร็วการใช้พายบังคับเรือให้กลับตัว ไม่อย่างนั้นแล้วเรือจะพลิกคว่ำได้ จากนั้นล่องเรือตามกระป๋องล่าปลาที่ตัวโตและราคาดีที่สุดของแม่น้ำนี้ กระป๋องใดจมๆโผล่ๆ นั่นปลากินเบ็ดแล้ว รีบพายเรือไปคว้าขึ้นมา ปลาเต๊าะตัวโตเนื้อหนุ่มจะติดขึ้นมา ปลานี้แกงส้มผักบุ้งอร่อยมาก ได้มาก็นำมากินมาขาย ให้พ่อค้าแม่ค้าตลาดต้นลำไยข้างลำน้ำแม่ปิงนั่นเอง บางทีเขาก็มาซื้อที่บ้านพรานนักล่าปลา บางคนก็ทอดแหยามน้ำแห้ง บางคนใช้เศษไม้กิ่งไม้ มากองรวมกันในน้ำริมตลิ่ง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ย่างเข้าเดือนมีนาคม น้ำแม่ข่าเริ่มแห้งแล้ว สามารถกระโดดข้ามไปได้ น้ำกินน้ำใช้ที่อาศัยบ่อน้ำในหมู่บ้าน เริ่มแห้งเช่นกัน ถ้าตักน้ำบ่อใช้มากๆ มันจะแห้งเกือบขอดก้น
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมย้าย จากโรงเรียนในป่าในดอย มาอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ประจำอำเภอ จากโรงเรียนขนาดเล็ก 1 ชั้นมี 1 ห้อง มาเป็น 1 ชั้นมี 5 ห้อง นักเรียนโรงเรียนใหม่มีจำนวน 1,500 คน เกือบเต็มสนามฟุตบอลทีเดียว ครูมีถึง 30 กว่าคน มากคนก็มากเรื่อง เพียงเข้าประชุมโรงเรียนครั้งแรก ได้พบการประคารมระหว่างครูด้วยกัน 2 กลุ่ม และครูกับผู้บริหาร มันช่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เหมือนขบพริกขี้หนูแตกถูกลิ้นสัก 4-5 เม็ด มีรสชาติจริงๆ ผมเป็นผู้มาใหม่ จึงได้เพียงฟัง เก็บข้อมูล ครูแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายอาจารย์ใหญ่ อีกกลุ่มค้านอาจารย์ใหญ่ ในเวลาต่อมา มีตัวแทนสองกลุ่มมาพูดคุยกับผม ด้วยอัธยาศัยที่ดี ชักชวนเข้ากลุ่ม…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในปี 2546ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหน่วยงานที่ผมทำงานครั้งสำคัญ ซึ่งตรงกับรัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ (พ.ศ.2544-2548) มีการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน ในระดับสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ เปลี่ยนจากการใช้เครื่องพิมพ์ดีด มาใช้คอมพิวเตอร์แทน บุคลากรในฝ่ายงานต่างๆ เช่น การเงิน หน่วยศึกษานิเทศก์ ต่างก็ยกเครื่องพิมพ์ดีดไปไว้ในห้องพัสดุบ้าง วางไว้บนตู้บ้าง ใครมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ก็ใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์หนังสือ เก็บข้อมูล ใช้ข้อมูล ใครใช้ไม่เป็นก็ต้องไปเรียน หรือเข้าอบรมตามโปรแกรมที่ต้องใช้ในการทำงาน เรียนจากเอกชนบ้าง เข้าอบรมตามโครงการของหน่วยราชการบ้าง มีเพียง 2-3 คนยังใช้เครื่องพิมพ์ดีด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก รอทักทายอยู่ข้างหน้า กลิ่นหอมของดอกกุหลาบสีสวยสด รวยรินชวนให้สัมผัส โลกคงอบอวลด้วยกลิ่นจรุงใจของเจ้า ใยหอมชื่นเพียงไม่กี่วันคืนเล่า นี่คือวันแห่งความรัก อยากรู้นัก รักคืออะไร
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ก่อนนอน ย่าผมจะเล่านิทานให้ฟังแทบทุกคืน บางครั้งท่านก็คงจะเบื่อที่เล่าเรื่อง “เสือเย็น” ซ้ำๆ กัน แต่ทนเสียงรบเร้าของผมไม่ไหว ก็เรื่องมันสนุกตื่นเต้นนี่ครับ เรื่อง “เสือเย็น” เกิดขึ้นที่วัดหมื่นสาร ในวัยเด็ก ผมอยากทราบเหมือนกันว่า วัดนี้อยู่ที่ใด มีวัดนี้จริงไหม แต่ไม่สามารถจะค้นหาได้ ด้วยมีข้อจำกัดหลายประการ เมื่อย่าเสีย เรื่อง “เสือเย็น” เริ่มจางไปจากความทรงจำ วัยมากขึ้นก็คิดถึงเรื่องอื่นสารพัด จนกระทั่งผมเกษียณ วันหนึ่งตรงกับวันที่ 3 มกราคม 2552 ผมขับรถผ่านวัดหมื่นสาร ย่านประตูหายยา จังหวัดเชียงใหม่ เห็นมีป้ายชื่อวัด ใต้ป้ายมีรูปปั้นวัวสีขาวตั้งอยู่ ขับรถเข้าไปในวัด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ย่านั่งบนพื้นบ้าน ซึ่งเป็นไม้ ใกล้กับหลายชายวัย 10 ขวบ เปลวไฟสีส้มจากโคมตีนสูง ส่องแสงให้เห็นลังสบู่ซันไลท์เปล่าวางอยู่ข้างหน้า “ย่าหาลังเปล่ามาให้แล้ว เห็นบ่นอยากได้นัก” “ย่าไปเอาที่ไหนมาล่ะ” ผมถาม ตามองดูลังไม้ที่ทำจากต้นจามจุรีวางตะแคง หันหน้าเข้าหาอย่างพอใจเต็มที่ ข้างในมันถูกแบ่งเป็นสองชั้น “ก็ไปขอร้านขายของปากซอยมา” ผมเปิดกระเป๋าหนังสือ หยิบหนังสือเรียนมาวางแถวล่าง สมุดแถวบน นี่ละตู้หนังสือชั้นดีของผม “รักจะเอาไว้หนังสือเรียน จะจัดหนังสือ สมุดตามตารางสอน ใส่กระเป๋าเป็นวันๆ สะพายมันจะได้เบาๆ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยเด็ก ผมปล้ำเล่นกับน้อง น้องชายอายุ 4 ขวบ ผมอายุ 7 ขวบ ผมปล้ำสู้ไม่ได้ น้องแข็งแรงมาก ผมอดขำหัวเราะไม่ได้ ผมปล้ำเจียนอยู่เจียนแพ้ จึงเปลี่ยนยุทธวีธี ใช้ลำตัวกดทับขาน้องให้แนบพื้นกระดานบ้าน ป้องกันการถีบสกัด ใช้มือทั้งสองจับข้อมือน้องชายกดไว้ น้องสะบัดหน้าไปมา แรงแกสม่ำเสมอ ผมอดหัวเราะไม่ได้ จนเผยอปากอวดฟันหลอ อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงไปใช้จมูกหอมแก้มซ้าย 1 ฟอด น้องส่ายหน้าไปมาคงเขิน ผมหัวเราะชอบใจพูดว่า เก่งนักหรือ หอมแก้มขวาอีกฟอดแล้วปล่อย น้องลุกขึ้นยืนถ่างขา มือน้อยๆ กำเป็นรูปกำปั้นเตรียมสู้ต่อ แม่ทำอาหารหันมาเอ็ดว่า ทำอะไรกันเสียงดังลั่น ผมออกปากยอมแพ้แกจึงหยุด…