Skip to main content
เมื่อถึงช่วงสงกรานต์

หน่วยงานที่รับผิดชอบจะปล่อยน้ำ ทำให้ระดับน้ำแม่ปิงสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้คนตักน้ำแม่ปิงไปรดน้ำได้สะดวก จุดศูนย์กลางเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ที่ขัวเหล็ก (สะพานนวรัฐ) คนจะยืนข้างสะพานทั้งสองข้างเต็มไปหมด กลางขัวเหล็กนั้น คนเดินสวนกันไปมาหนาแน่น ใส่เสื้อม่อฮ่อมเป็นส่วนใหญ่ มือถือขัน กระป๋องน้ำ ปืนฉีดน้ำ บางคนใช้เชือกผูกกระป๋อง หย่อนจากสะพานลงตักน้ำแม่ปิงด้านล่างมารดกัน ด้านล่างของขัวเหล็ก จะเห็นคนนั่งแช่น้ำแม่ปิง สาดน้ำกัน ชายหนุ่มหญิงสาวยืนคุยกันด้วยท่าทีเปี่ยมไมตรีจิต ถ้อยคำพิเศษที่รับรู้เพียงสองคน บางแห่งก็ชกต่อยกันประปราย ที่เล่นน้ำขยายมาถึงถนนหน้าพุทธสถาน ตลอดถนนท่าแพ ถึงปลายทางที่ประตูท่าแพ แต่ปัจจุบันผู้คนเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น ที่เล่นน้ำค่อยๆ ขยายมารอบคูเมืองเชียงใหม่ มีตำรวจหลายคนยืนอยู่ตามสี่แยก บ้างก็เดินตรวจกัน 2-3 คน ใครถือคนโท ไม้ อื่นๆ ที่น่าจะเป็นอันตราย ตำรวจยึดหมด ป้องกันเหตุร้ายไว้ก่อน


 

เมื่อฤดูแล้งผ่านไป

ปริมาณน้ำปิงเพิ่มขึ้นและมีกระแสแรง จนขัวแตะถูกกระแสน้ำพัดพาไปจนหมด การข้ามฟากจากฝั่งวัดเกตุการาม ไปยังอีกฝั่งที่อยู่ใกล้ตลาดต้นลำไย ต้องใช้เรือ ซึ่งสามารถบรรทุกได้หลายคน เจ้าของเรือนั่งอยู่ที่ยกพื้นริมท่าเรือ ด้านฝั่งวัดเกตุฯ คอยเก็บเงินค่าโดยสารก่อนขึ้นเรือ คนละ 50 สตางค์ พอคนใกล้เต็มเรือ หรือได้เวลาพอสมควร คนถ่อเรือที่เป็นลูกจ้างก็ออกเรือ ใช้ไม้ถ่อที่ทำจากไม้ไผ่รวก ปักลงในน้ำตรงคอเรือ คนถ่อเรือยืนบนหัวเรือที่เชิดขึ้น หันหน้าไปท้ายเรือ จับปลายถ่อดันลงไปกับพื้นทราย ก้าวเท้าไปทางท้ายเรือจนเกือบสุดพื้นกระดานที่ปูเรียบ เรือก็พุ่งออกไป โดยต้องบังคับเรือพุ่งทวนกระแสน้ำขึ้นไปทางทิศเหนือ ให้หัวเรือเฉียงเข้าหาท่าเรืออีกฝั่งหนึ่ง เมื่อใกล้ถึงฝั่งก็ผ่อนแรงถ่อเรือ กระแสน้ำจะพัดเรือมาอยู่ตำแหน่งหันข้างเข้าหาท่าเรือ คนถ่อเรือใช้ปลายถ่อกดพื้นทรายไว้ โดยลำไม้ถ่ออยู่ตรงคอเรือพอดี ซึ่งต้องใช้ความชำนาญมาก ผู้โดยสารฝั่งตลาดต้นลำไยก็ทยอยขึ้นเรือ เรือก็ถ่อกลับมาฝั่งต้นทาง จ่ายเงินค่าโดยสารตรงนี้ ถ้าฤดูน้ำนองหรือน้ำหลากคงต้องงดบริการ

  

 

ย่างเข้าฤดูน้ำนอง

หรือน้ำหลาก น้ำแม่ปิงเปี่ยมฝั่ง ผิวน้ำมองดูไหลแรงกว่าปรกติ ถนนวิชยานนท์ยังราดยาง ตลิ่งน้ำแม่ปิงยังเป็นไม้ซุงปักเรียงกัน ระดับพื้นดินต่ำกว่าปัจจุบันมาก เมื่อน้ำปิงล้นฝั่ง ก็ไหลข้ามถนนวิชยานนท์ มุ่งสู่หมู่บ้านข้างฝั่ง ไหลเข้าซอย เข้าบ้านคน ข้ามถนนราชวงค์ ลงสู่บ้านเรือนผู้คนอย่างรวดเร็ว น้ำขุ่นเหลืองไหลลงปากซอย 3 ถนนราชวงค์ มันไหลมากระทบหลังเท้าผม ที่กำลังเดินไปซื้อน้ำมันหมูที่ร้านปากซอยให้แม่ ผิวถนนราชวงค์ทั้งสายเหมือนเคลือบด้วยน้ำเชื่อม น้ำไหลแรงขึ้นอีก ระดับน้ำสูงกว่าเดิม ได้ยินเสียงซ่าของมันยามไหลปะทะสิ่งที่ขวางหน้า ซื้อของได้ผมรีบเดินกลับบ้าน ตื่นเต้นปนดีใจตามประสาเด็ก จะได้ว่ายน้ำเล่น ได้เล่นเรือ น้ำแม่ข่าก็ล้นฝั่งรออยู่แล้ว แล้วแม่น้ำสองสายก็ได้พบกัน หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ราวสองชั่วโมงเศษ น้ำก็เข้าครอบครองพื้นที่จนหมด ไม่น่าเชื่อ ก่อนนี้บ้านยังอยู่บนดิน บัดนี้ ทุกหลังอยู่บนน้ำ ปลากด ปลาตระกูลปลาตะเพียนจากแม่น้ำปิงก็ถูกถ่ายเทลงสู่น้ำแม่ข่า น้ำจะท่วมนานราว 2-3 วันเท่านั้น ถ้าไม่มีไต้ฝุ่นเสริมเข้ามา น้ำก็จะลดลง น้ำท่วมจะช่วยชำระล้างน้ำแม่ข่า ให้สะอาดขึ้นทุกๆ ปี นับเป็นวิธีของธรรมชาติที่ช่วยให้สมดุลอย่างวิเศษ ดูจะตรงกับคำกล่าวที่ว่า "น้ำดีไล่น้ำเสีย" กระมัง.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…