บ้านเมืองของเรา (1)

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรก

ที่พูดว่า “ การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ” ผมรับรู้ครั้งแรกด้วยความสนใจ ผมเข้าใจเพียงว่า การเมืองเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศ เป็นเรื่องเกี่ยวกับบรรดา ส.ส.ของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จับมือกันร่วมเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ นำพาประเทศไปสู่ความเจริญมั่งคั่ง ประชาชนอยู่ดีกินดี รัฐบาลนั้นเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศและองคาพยพไปสู่อนาคตที่ดี เราจึงต้องสนใจการเมือง สนใจข่าวสาร ต้องติดตามเหตุการณ์ วันนี้ท่านนายกฯไปไหน พูดอะไร คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดอะไรเกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง วางมาตรการอะไร จะมีประกาศพระราชบัญญัติอะไรไหม

ใครหลายคนคงจำได้ มีหลายครั้ง หลายเหตุการณ์ในรัฐบาลยุคต่างๆ ที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านโจมตีนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรีบางคน พูดชนิดให้พังไปข้างหนึ่ง แบบว่า ชาตินี้ไม่ต้องเผาผีกัน แต่แล้วความไม่แน่นอนทางการเมืองก็เกิดขึ้น สิ่งไม่น่าเกิดก็เกิด แต่ในทางการเมืองถือว่าเป็นเรื่องปรกติ ฝ่ายค้านกลับพลิกผันมาเป็นรัฐบาล ดึงฝ่ายรัฐบาลที่กลายมาเป็นฝ่ายค้านวันนี้ มาร่วมกันเป็นรัฐบาล ก่อนหน้าด่ากันแทบเป็นแทบตาย เพียงแบ่งผลประโยชน์ให้จำนวนรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆจนพอใจก็เพียงพอที่จะกลับมายิ้มให้กัน กินข้าวโต๊ะเดียวกัน เรื่องบาดหมางในอดีตเหมือนกดดีลิท (delete) ที่แป้นคอมฯ ทุกอย่างก็ถูกลบเลือนหายไป ลืมง่ายจริงๆ ช่างเปลี่ยนอารมณ์ได้เก่ง รวดเร็ว เหมือนนักแสดงอาชีพ ผู้กำกับสั่งแอ็คชั่น ทำหน้าเศร้า ครู่เดี่ยวน้ำตาไหลพลั่กๆ ผู้กำกับสั่งแอ็คชั่น ยิ้ม ริมปากเผยอออก ยิ้มสดใสระบายไปทั้งหน้า

ไม่แน่ใจใครเป็นคนแรก

ที่พูดว่า “ การเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร” จำได้แบบเลือนรางว่า น่าจะเป็นท่านคึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคมในอดีต ที่มีจำนวน ส.ส.ในมือเพียง 18 เสียง สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ท่านเป็นเจ้าของคอลัมน์ “ซอยสวนพลู” ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยุคนั้นนับได้ว่า ท่านเป็นเสาหลักทางการเมืองทีเดียว คำพูดที่ออกจากปากท่าน ทุกคนต้องฟัง บางครั้งพูดแบบธรรมดา ดูไม่มีอะไร แต่บางทีก็แฝงนัยอันสำคัญ บางทีก็บอกอะไรลึกซึ้ง กว้างไกล เป็นปราชญ์คนหนึ่งของเมืองไทย ในเนื้อหาจากตอนต้น การเมืองเป็นดังคำกล่าวที่ท่าน “คึกฤทธิ์ ปราโมช” ให้คำนิยามหรือคำจำกัดความ

ไว้จริงๆ

ฟังรัฐบาลพูด

ก็น่าฟังน่าเชื่อถือ แต่ยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ ฟังกลุ่มอื่นพูด ก็น่ารับฟัง เขาก็มีข้อมูลของเขา แต่อีกนั่นแหละ ยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน ผมไม่ได้เหยียบเรือสองแคมนะ แต่อยากรู้ความจริงล้วนๆ ความถูกต้อง ข้อเท็จจริงตามเนื้อผ้ามันอยู่ตรงไหน เหมือนเราฟังการโต้วาที ขอฟังการพูดเสนอข้อมูลของทั้งสองฝ่าย แต่ยังไม่ตัดสินใครแพ้ใครชนะ ใครพูดความจริงมากกว่า จะขอนำข้อมูลไปวิเคราะห์แถมสังเคราะห์ รวมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเสาะหาว่า ทองบริสุทธิ์หรือทองเปอร์เซ็นต์สูงต่างจากทองปลอมอย่างไร.