Skip to main content

หัวมะพร้าวถูกมีดสับเป็นฝาเล็กๆ
เราใช้มือง้างออก เสียบหลอดดูดจากแม่ค้าลงไป กลิ่นหอมมะพร้าวเผาเข้าจมูกขณะเราก้มลงดูดน้ำมะพร้าวแสนหอมและหวาน เราแบ่งกันดูด พอน้ำหมด เราจะใช้นิ้วมือหยักเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆมาชิมก่อน จับมะพร้าวทั้งลูกทุบลงกับพื้นหินผ่าเสียงดังโป๊ะๆ จนกะลาแตก เราใช้มือทั้งสองดึงง้างให้กะลาแยกเป็นสองส่วน เนื้อมะพร้าวที่ล่อนไม่ติดกับผิวข้างใน จะปรากฏเป็นผลกลมให้เราได้ลองลิ้ม เนื้อมันมันนุ่มหอมเหมือนน้ำมะพร้าว ถ้าเป็นมะพร้าวแก่เนื้อจะหนา เนื้อจะบางถ้ามะพร้าวหนุ่ม กะลาที่กินหมดแล้วเราโยนเข้าป่าเพราะไม่มีถังขยะ ในน้ำใสยังมีกะลาถูกทิ้งลงไปหลายแห่ง รับรองได้ว่าไม่ใช่พวกเรา ใครที่มาเที่ยวห้วยแก้วต้องซื้อมะพร้าวเผากิน ไม่มีขายทั่วไป พอนานเข้า พวกพ่อค้าแม่ค้าไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ได้ใช้วิธีต้มมะพร้าวแทนการเผา พอได้ที่ดีแล้วนำมะพร้าวที่ต้มมาทำการเผาเปลือก พอให้ดำเล็กน้อยแล้วนำมาขาย ลูกค้าถามก็โกหกว่าเป็นมะพร้าวเผาไม่ใช่ต้ม ลูกค้าลองกินดูจึงรู้ว่าเป็นมะพร้าวต้ม เพราะรสชาติผิดไปจากเดิม มะพร้าวต้มขนานแท้รสชาติจะหอมและเนื้อหนุ่มกว่า เวลาต่อมา การซื้อกินมะพร้าวเผาลดความนิยมและหายไป คงเป็นเช่นเดียวกับข้าวหลามเผาแล้วบอกเป็นข้าวหลามต้มอย่างนั้น

 

 

โรงเรียนปิดเทอมใหญ่มาถึง
เป็นปลายเดือนมีนาคม กลุ่มพวกเรานัดกันไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนรุกขชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่อยู่ตีนดอยสุเทพ บริเวณสวนสัตว์จึงมีต้นไม้ร่มรื่น กรงสัตว์แทรกตัวตามร่มไม้ กระจายเป็นรูปวงกลม มีถนนทอดตัววนเวียนไปหากรงสัตว์ทุกชนิด บางตอนมีทางลัดข้างทาง พวกเราต่างเคยมาเที่ยวกันคนละหลายครั้ง มากับผู้ปกครองบ้าง ในวาระต่างๆกัน วันนี้เราพากันมาเที่ยวตามประสาเด็กวันรุ่น พอเดินเข้าประตูสวนสัตว์ ย่างเท้าเข้าเขตกรงสัตว์ เสียงชะนีร้องระงมต้อนรับเรา สอดสลับเสียงนกมากมายหลายชนิด ผมไม่เคยได้ยินเสียงสิงโตร้อง มีครั้งหนึ่งได้ยินมันร้อง เสียงมันดังมากและมีอำนาจ ถ้าได้ยินในป่าจริงๆ ขนเราคงลุกเกลียวด้วยความกลัวสุดขีด ยุคนั้นสัตว์ที่เป็นดาราไม่พ้น สิงโต เสือ งู จระเข้ ลิง ช้าง นกนานาชนิด ยังไม่มียีราฟ ฮิปโปโปเตมัส ไม่มีหมีแพนด้า
(พ่อช่วงช่วง แม่หลินฮุย ลูกหลินปิง)จากเมืองจีน ไม่มีอควาเลี่ยม เดินมาถึงกรงงู มันดูน่ากลัวขยะแขยง ใจผมนั้นกลัวงูที่สุด เห็นในหนังเรื่อง “ทาร์ซาร์”(Tarzan) ที่แสดงนำโดย จอนนี่ ไวสมูลเลอร์ อดีตแชมป์ว่ายน้ำฟรีไสต์ 100 เมตรของโอลิมปิกถึง 2 สมัยซ้อน ( เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องที่เขียนขึ้นโดย Edgar Burroughs พิมพ์ครั้งแรก ค..1914) ถูกงูเหลือมทิ้งตัวจากกิ่งไม้ ลงมาทับตัวแล้วรัดคอกับลำตัว กว่าพระเอกจะฆ่ามันได้ ทำเอาผู้ชมหายใจอึดอัดทั้งโรงหนัง ส่วนฮิบโปโปเตมัส ช้าง เพิ่งนำเข้าภายหลัง พวกเราเที่ยวกันทั่วแล้วพากันมาเดินชมสวนรุกขชาติ มันร่มรื่นด้วยต้นไม้ หญ้าถูกตัดเตียนเรียบเขียวชวนนั่ง เห็นหนุ่มสาวนั่งคุยกันตามม้าหินอ่อน ตามโคนต้นไม้ พวกเรานอนเล่นตามสนามหญ้าเขียวใต้ต้นไม้ เพื่อนบางคนแกล้งหลับ สวนนี้เคยมีวงดนตรี เดอะ อิมโพสซิเบิ้ล(Tmpossible) แชมป์วงสตริง 3 ปีซ้อนมาแสดง ยังจำท่าทางเป่าทรัมเป็ตของคุณเต๋อ(เรวัติ พุทธินันท์)ได้ เป็นนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด...จนเย็นเราจึงพากันกลับ โดยรถเมล์สีเหลืองสาย 3 พาหนะประจำของพวกเรา

 

ที่ดอยสะเก็ด
มีที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่าหนองบัว มีนกกินปลาเดินไปมา น้ำแห้งลงทุกปี สถานที่ทรุดโทรมขาดการดูแล ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยว ดูบรรยากาศเงียบเหงา นานวันไปจึงหายไปจากการกล่าวถึง ปัจจุบันไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ที่เที่ยวของพวกเราก็มีงานวัด งานปอยหลวง ต้องเป็นวัดใกล้บ้าน และเป็นช่วงปิดเทอม พวกเราจึงไปเที่ยวกันได้ บางงานเราไปเที่ยวกันครบทีม บางงานไปเพียง
2 คน ที่เที่ยวอีกแห่งเป็นจุดที่รถขายยาฉายหนัง โดยตอนเย็นรถขายยา จะตระเวนเชิญชวนคนไปหนัง รถจะวิ่งช้าๆไปตามถนนสายต่างๆในตัวเมือง เด็กๆวิ่งตามรถ ส่งเสียงยินดีปรีดา รถขายยาจะไปกางจอหนังตามจุดที่มีผู้คนอยู่กันหนาแน่น เช่นที่ว่างๆแถวประตูช้างเผือก โรงเรียนวัดเชียงยืน วัดต่างๆ เวลาหนึ่งทุ่มเศษฉายหนังทันที สลับการขายยาดมยาหม่อง ยาแก้ปวด ยาเสริมพลังเพศชาย ฯลฯ จำได้ว่า ผมเดินจากบ้านซอย 3 ถนนราชวงค์ ไปกับเพื่อนสองคน เดินเลียบคูเมืองไปเรื่อยแบบสบายอารมณ์ หนังฉายเรื่อง “ไอ้แก่น” นำแสดงโดยพระเอกลักยิ้ม คุณลือชัย นฤนาท (ได้ตุ๊กตาทองแสดงนำชายจากเรื่อง ‘เล็บครุฑ’) คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง เป็นนางเอก

 

ผมไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว
ครั้งสุดท้าย พ
.. 2511 และว่างเว้นไม่ได้กลับไปเที่ยวอีกเลย นับเวลาได้ 41 ปี จนกระทั่งเมื่อวันพุธที่ 11 .. 2552 ผมชวนลูกชายคนเล็ก พาพ่อปีนป่ายไปดูน้ำตกห้วยแก้วอีกสักครา ให้ลูกเดินเคียงอยู่ใกล้ หากเราลื่นหกล้มจะได้ช่วยเหลือทัน ที่กลับไปดูน้ำตกห้วยแก้วเพราะ ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวน่าตกใจว่า น้ำตกห้วยแก้วเริ่มแห้ง ไม่มีน้ำไหลใสเย็น น้ำแห้งแล้งนั้นสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ น้ำในห้วยแก้วถูกดูดไปใช้ในสวนสัตว์ และสถานที่สำคัญๆรอบห้วยแก้ว ผมจึงเดินทางไปพิสูจน์ดูกับลูกชาย ขับรถยนต์ไปจอดลานใกล้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เดินไปตามถนนที่ชันเล็กน้อย ไปทางทิศตะวันตก ผ่านร้านอาหารนานาชนิดทางซ้ายมือ ร้านเหล่านี้ปลูกริมขอบของสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกห้วยแก้ว ทางเดินเป็นถนนคอนกรีต เดินมาจนถึงตู้ยาม ยิ้มให้ยามชายหญิงคู่หนึ่ง ทางเดินราบเรียบไปตามขอบสายน้ำคดเคี้ยว ถนนปูด้วยหินผาที่เชื่อมกันด้วยซีเมนต์ ถนนทอดตัวเข้าไปหาแอ่งน้ำ โดยไม่ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติ แต่เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติกับฝีมือเสริมสร้างของมนุษย์ มีป้ายบอกทางไปผาเงิบ ผมกับลูกเดินข้ามสะพานไป มีป้ายชี้ไปยังตำแหน่งน้ำตกห้วยแก้ว สังเกตดูน้ำยังไหลเล็กน้อยตามปรกติ แหงนมองสูงไปตามหน้าผาและแมกไม้ น้ำตกห้วยแก้วที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไหลลงสู่หินผาข้างล่าง มี 3 ชั้น มองดูเหมือนผ้าบางสีขาวสะอาดตา หูได้ยินน้ำตกไหลดังซู่ซ่า อดไม่ได้ให้ลูกชายไต่ขึ้นไปดู พยายามให้อยู่ใกล้น้ำตกมากที่สุด แต่ไม่วายห่วงลูกชายกลัวลื่นหกล้ม ลูกได้ถ่ายไว้หลายภาพ พอลงมาผมก็ถ่ายสายน้ำโขดหินอีกหลายภาพ กลับลงมา ถามยามที่นั่งในตู้ยาม เขาบอกว่า ฤดูแล้งยังมีน้ำไหล แต่อาจน้อยกว่าฤดูฝน ขณะนี้กำลังปรับปรุงน้ำตกห้วยแก้วให้สมบูรณ์ดังเดิม

 

นอกจากนั้นเป็นงานใหญ่ประจำปี
เช่น งานสงกรานต์ในเดือนเมษายน มีผู้คนมาเล่นน้ำที่ “สะพานนวรัฐ” กันมากมาย และยาวตลอดถนนท่าแพ ไม่มีเล่นน้ำรอบคูเมืองที่หนาแน่นดังปัจจุบัน วนมาอีกรอบ เป็นงานเดินขึ้นดอยสุเทพในวันวิสาขบูชา งานลอยกระทงในแม่น้ำปิง งานฤดูหนาวเชียงใหม่ งานวันเด็ก งานเหล่านี้เป็นงานที่ผมได้เที่ยวในวัยเด็ก ไม่มีห้างสรรพสินค้า
(แมคโคร โลตัส คาร์ฟูร์ เทสโก้ กาดสวนแก้ว) ไม่มีร้านเกม ไม่มีร้านอินเตอร์เน็ต ดังปัจจุบัน.

 


 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…