Skip to main content


ปี พ.ศ. 2500

ผมอายุได้ 11 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน
ครูหล้า  เรียกชื่อเป็นทางการว่า โรงเรียนสุวรรณศิลป์   โรงเรียนนี้ต้องเข้าซอยไปราว 30 เมตร   โรงเรียนติดกับน้ำแม่ข่า  โดยมีถนนช้างม่อยตัดใหม่ตัดผ่าน  ปากซอยอยู่ตรงข้ามกับโรงหนังศรีนครพิงค์  ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน  ถัดจากโรงหนังนี้ไปทางทิศตะวันออก จะเป็นตลาดนวรัฐ  คนทั่วไปเรียกติดปากว่า  กาดเจ๊กโอ๊ว  ต้องขออภัยเครือญาติของเถ้าแก่โอ๊ว  ที่เรียกคำนำหน้าชื่อว่า  เจ๊ก  เพราะทราบว่าคนจีนไม่ชอบให้ใครเรียกเช่นนั้น  ผมเขียนตามที่ได้ยินเขาเรียกกันทั่วไปจริงๆ  ซึ่งใครๆก็เคารพยกย่องเถ้าแก่ด้วยกันทั้งนั้น  ผู้เขียนก็เช่นกัน  

กาดนวรัฐถูกสร้างขึ้นด้วยเถ้าแก่โอ๊ย  เป็นตึกหลังใหญ่สองชั้น  ตลาดนวรัฐปลูกยาวตามแนวแสงตะวัน  หัวตึกใหญ่ด่านทิศตะวันออก  เป็นร้านทองโอ๊ยจินเฮงในปัจจุบัน  ถัดจากตึกใหญ่ยาวไปทางทิศใต้ เป็นถนนในตลาด   ถัดจากถนนนี้เป็นตึกแถวยาวเหยียด ยาวกว่าตัวตึกที่เป็นตลาดนวรัฐ  ตรงกลางตึกแถว  มีถนนทะลุผ่านไปทางทิศใต้ แล้วโผล่ไปพบถนนช้างม่อย  หากข้ามถนนช้างม่อยไปจะพบตึกแถวสองชั้น  มีทางเดินเข้าสู่กาดหลวง (ตลาดวโรรส)  ส่วนตลาดต้นลำไยนั้น  อยู่ติดน้ำแม่ปิงอยู่ใกล้ๆกาดหลวง  โดยมีถนนวิชยานนท์คั่นกลาง  จะเห็นว่า  กาดหลวง  กาดนวรัฐ  และกาดต้นลำไย อยู่ใกล้ๆกัน  ผู้ซื้อสินค้าจึงเดินไปตลาดทั้งสามแห่งได้สะดวกสบาย ตลาดนวรัฐสร้างเสร็จเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าจับจอง  ระยะแรกไม่เก็บค่าเช่าแผง  ต่อมาจะเก็บค่าเช่าแผงถูกๆ พ่อค้าแม่ค้าเข้าไปจับจองแผงขายกันมากมาย  ชั้นบนเป็นร้านอาหาร  ชั้นล่างเป็นผักเนื้อ ฯลฯ  เถ้าแก่โอ๊วมีหัวหลักแหลมพลิกแพลงด้านการค้า ใช้วิธีการดึงคนเข้าตลาด  เช่น  กลางคืนมีการแสดงงิ้ว  ได้ยินเสียงร้องว๊ากๆๆ  ตะลุงตุ๊งแช่ๆ  กลางวันมีลิเก  ได้ยินเสียงร้องเอื้อนลิเกดังเจื้อยแจ้วจากลำโพง  ประชาชนชมฟรี  มีการฉลองก่อนเปิดตลาดจริงในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2500

การฉลองมีนานนับเป็นเดือน
ทีเดียว กลางวันลิเกแสดง  กลางคืนงิ้ววาดลวดลายบ้าง  มีคนไปเที่ยวตลาดมากมาย ยังจำได้ว่า
ตรงหน้าตลาดแต่อยู่หลังโรงหนังศรีนครพิงค์  มีต้นมะขามใหญ่ต้นหนึ่ง แดดร้อนแสนร้อน  ลิเกแสดงไม่กลัวแดด  ค่าจ้างคงเป็นตัวเลขงามไม่น้อย  พระเอกนางเอกหน้าขาวปากแดง ขนตายาวผมยาวจึงยิ้มอย่างสดชื่นสู้แดดได้ตลอด   น้ำหวานน้ำเย็นขนมขบเคี้ยวขายดิบดี  ใต้ร่มมะขามถูกผู้คนจับจองเหนียวแน่น  ยังไม่พอ  เช้าวันอาทิตย์มีวงดนตรีของธนาคารออมสินภาค 5  มาแสดง   ขณะนั้นดังที่สุดในเชียงใหม่  แสดงให้ชมฟรีบนอาคารชั้นสองตลาดนวรัฐ  จำภาพการแสดงได้ติดตาเพราะผมไปชมเสมอๆ  ดาราตลกประจำวงรูปร่างผอมสูง  สวมแว่นตาดำ   คางยาวแหลม  หัวเถิงพองาม  มีมุกตลกมากมาย  ท่านชื่อคุณชุบ  ธรรพนันท์  นักร้องหญิงตาสวยไว้ผมปีกนก  เป็นทรงที่นิยมของผู้หญิงสมัยนั้น  คือหวีผมด้านหน้าผากไปหลัง  หวีแสกด้านหนึ่ง  ด้านข้างทั้งสองข้างดัดเป็นลอนระต้นคอ  นักร้องท่านนี้เป็นขวัญใจของผู้ชมทั้งหญิงชาย ชื่อคุณศรีพรรณ อุปพันธ์  ท่าทางท่านนิ่งๆเรียบร้อย  ยิ้มเล็กน้อย  นักร้องชายมาดนิ่มชื่อคุณเมตตา  วงศ์ธานี  ท่านนี้ผมเคยเห็นหน้าท่านบ่อยๆ  เป็นวัยเดียวกับลูกป้าผม  ซึ่งต่อมาทำงานที่ธนาคารออมสิน  อีกท่านหนึ่งเป็นนักแต่งเพลงประจำวง ใครที่อายุ 40 ปีขึ้นไปคงรู้จัก  ท่านชื่อ  สนิท .ศ ครับ

การฉลองตลาดนวรัฐ

ยืดยาวเป็นเดือนๆ  พอครบเดือนก็ขยายเวลาอีก เหตุการณ์ดำเนินไปราบรื่นปรกติ  จนกระทั่งคืนวันที่  12  สิงหาคม  2500  เถ้าแก่โอ๊วได้ขึ้นไปชมการแสดงงิ้วที่ชั้นบนของตลาด  บุตรภรรยาขึ้นไปด้วย  ชมสักครู่หนึ่งจึงได้กลับลงมา  เมื่อมาถึงร้านคนรู้จักกัน  เจ้าของร้านได้เชิญเถ้าแก่โอ๊วเข้ามานั่งคุยกัน โดยทั้งสองนั่งเก้าอี้ริมทางเท้า  ส่วนอีกสองคนนั่งด้านใน  ร้านนี้เป็นห้องหนึ่งของตึกแถว  เป็นคูหาที่หก  ตึกแถวนี้อยู่ข้างตลาดนวรัฐด้านทิศใต้ โดยมีถนนในตลาดคั่นกลาง  คนร้ายที่อยู่ชั้นสองของตลาดได้โยนระเบิดลงมา  ครู่เดียวเท่านั้นมันก็ระเบิดขึ้น เสียงระเบิดดังกึกก้องไปหมด  มีคนบาดเจ็บสี่คน  เถ้าแก่โอ๊วหนักกว่าคนอื่น เสียชีวิตคาที่  ส่วนคนอื่นบาดเจ็บสาหัส  ทางการได้ส่งตำรวจมาสืบสวนคดี  แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่า ใครคือผู้ร้ายตัวจริง ใครคือผู้จ้างวาน   และยังมีกระแสข่าวหนึ่งระบุว่า  คนร้ายตัวจริงถูกฆ่าปิดปาก  มีการฆ่าตัดตอนไม่น้อยกว่า 4 คน  นับเป็นคดีสะเทือนขวัญ  เป็นคดีที่ดำมืด  ยังมีคำถามที่ต้องการคำตอบหลายประการ...หลังเกิดเหตุผ่านไป  ผมได้ขึ้นไปชั้นสองของตลาดนวรัฐ  ไปยืนตำแหน่งที่คาดว่าคนร้ายโยนระเบิดลงไป  ที่คูหาข้างล่างของตึกแถวอีกฟากถนน  ประตูห้องเป็นประตูเหล็กเลื่อนไปมาซ้ายขวา  ตำแหน่งที่ยืนดูเป็นตำแหน่งที่ใกล้มาก  สามารถโยนระเบิดลงไปอย่างแม่นยำ  ไม่มีใครสนใจใคร  คนทั่วไปต่างมัวดูงิ้วด้านในอาคาร  เมื่อเรื่องค่อยเงียบลง  ผมเคยเดินไปดูคูหาตึกแถวที่ถูกระเบิด  มองลอดช่องว่างประตูเหล็กเข้าไป  เห็นพื้นซีเมนต์เป็นหลุม  บางแห่งพื้นแตกสะเก็ด  ผนังห้องมีรอยถูกระเบิด.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เป็นเวลายามเย็นแล้ว ผมยืนบนฝั่งริมตลิ่งแม่น้ำปิง ปัจจุบันเป็นทางเท้า มือจับราวเหล็กที่กั้นไว้ ทอดสายตาดูลำน้ำแม่ปิง เข้าสู่กลางเดือนมีนาคม ระดับน้ำลดลง ไหลราบเรียบ สายน้ำนี้มีตำนาน มีเรื่องราวเล่าขานมากมาย ผมเหลียวดูทางซ้าย เจดีย์ขาวอยู่ห่างไปราว 10 เมตร ยังทาองค์เป็นสีขาว รถราวิ่งวนรอบ องค์เจดีย์ขาวนี้ ถ้ามองจากระเบียงชมวิว ด้านตะวันออกของวัดพระธาตุดอยสุเทพ มองไกลออกไปไกลทางทิศตะวันออก ถ้าไม่มีหมอกควัน ไม่มีเมฆบัง จะเห็นเจดีย์ขาวชัดเจนทีเดียว ถัดไปอีกเล็กน้อย จะเป็นหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ ข้างตลิ่งมีทางขึ้นลง พลันภาพในวัยเด็กอายุราว 10-…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เช้าตื่นขึ้นมา ราว 5 นาฬิกาเศษ เดินบริหารร่างกายลงบันได 10 ครั้ง ขึ้นบันไดโดยหลับตาอีก 10 ครั้ง ร่างกายรายงานว่า แสบจมูก แสบตา มองไปที่โค้งฟ้าทิศตะวันออก เป็นทุ่งนา สูงขึ้นไปอีกนิดเป็นถนนโค้งสายเชียงใหม่-สันป่าตอง ท้องฟ้าขมุกขมัว (ฟ้าหลัว)ไปทั่ว มันเป็นหมอกควันผสมฝุ่น สาเหตุมาจาก การเผาป่าเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเกษตรในฤดูฝน เผาเศษใบไม้กิ่งไม้ เผาขยะมูลฝอย ส่วนการเผาป่านั้น ต้องมีคนเผา คงไม่เกิดไฟลุกเองได้ อีกสาเหตุหนึ่ง คนเผาป่าเพราะเข้าใจว่า ถ้าไม่เผาผักหวานก็จะไม่แตกยอด เห็ดถอบ (เห็ดเผาะ) ก็จะไม่ได้กิน การเผาทุกชนิด ทำให้เกิดอากาศเสีย เรียกให้เป็นทางการว่า " มลพิษทางอากาศ "…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ปีแรกที่เป็นข้าราชการครู ผ่านมาได้ 30 ปีเศษ ได้ซื้อจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าขนาด 90 ซี.ซี.คันหนึ่ง สีแดงสดใหม่เอี่ยม นำออกจากร้านวันอังคาร โหราศาสตร์ถือว่าวันแรงไม่ดี ผมไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไร ขับไปให้พระผูกสายสิญจน์ที่วัดดับภัยกับน้อง ผูกเสร็จลองขับดู รถแฉลบกองทรายวัดเล็กน้อย น้องพูดว่า ไม่เป็นไรขับขี่ปลอดภัย พระก็สวดแล้ว สบายใจได้ ผมไม่ได้ซื้อเงินสด ต้องผ่อนรายเดือน ขับขี่โฉบเฉี่ยวได้ 22 วัน จำได้แม่นยำ เพราะรถถูกจี้บนดอยบ้านปง อำเภอแม่แตง จากปากทางเขื่อนแม่งัดเข้าไปราว 3 กิโลเมตร คนจี้ผิวขาว ตัดผมสั้นเกรียน ผ้าขาวม้าลายคลุมไหล่ รถผมกำลังลงดอย ต้องเบรกรถเล็กน้อย โดยวิ่งชิดทางด้ายซ้าย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นึกถึงอำเภอ ที่เคยทำงาน มีเหตุใดให้ระทึก น่าจดจำ มองไปที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ก่อนแห่งอื่น ดินแดนแห่งสวนส้มสายน้ำผึ้ง ที่ลือชื่อระดับประเทศ เข้าตัวอำเภอมองไปทางทิศตะวันตก จะเห็นสวนส้มปลูกเป็นแถวเขียวไปทั้งดอย สวนส้มที่มีมากบอกถึงปริมาณยาที่ต้องใช้ฉีด พื้นที่อยู่ใกล้เคียงสวนส้ม เช่น โรงเรียน บ้านที่อยู่อาศัย คงต้องระมัดระวัง อำเภอฝางมีร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย พื้นที่กว้างขวาง ประชากรมาก แต่ยังคงเป็นอำเภอ ไม่ได้เป็นจังหวัดจนบัดนี้ มีแม่น้ำฝางไหลขึ้นทิศเหนือ ผิดแผกแม่น้ำทั่วไปที่ไหลล่องใต้ แม่น้ำฝางไหลไปพบกับแม่น้ำกก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
จากนั้นเขาจะกลับลำเรือ กลางน้ำที่เชี่ยวจัด ช่วงนี้สำคัญ ต้องอาศัยความชำนาญ ให้กระแสน้ำปะทะข้างกราบเรือ โดยให้สัมพันธ์กับมุมเรือเลี้ยวกลับ รวมทั้งความเร็วการใช้พายบังคับเรือให้กลับตัว ไม่อย่างนั้นแล้วเรือจะพลิกคว่ำได้ จากนั้นล่องเรือตามกระป๋องล่าปลาที่ตัวโตและราคาดีที่สุดของแม่น้ำนี้ กระป๋องใดจมๆโผล่ๆ นั่นปลากินเบ็ดแล้ว รีบพายเรือไปคว้าขึ้นมา ปลาเต๊าะตัวโตเนื้อหนุ่มจะติดขึ้นมา ปลานี้แกงส้มผักบุ้งอร่อยมาก ได้มาก็นำมากินมาขาย ให้พ่อค้าแม่ค้าตลาดต้นลำไยข้างลำน้ำแม่ปิงนั่นเอง บางทีเขาก็มาซื้อที่บ้านพรานนักล่าปลา บางคนก็ทอดแหยามน้ำแห้ง บางคนใช้เศษไม้กิ่งไม้ มากองรวมกันในน้ำริมตลิ่ง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ย่างเข้าเดือนมีนาคม น้ำแม่ข่าเริ่มแห้งแล้ว สามารถกระโดดข้ามไปได้ น้ำกินน้ำใช้ที่อาศัยบ่อน้ำในหมู่บ้าน เริ่มแห้งเช่นกัน ถ้าตักน้ำบ่อใช้มากๆ มันจะแห้งเกือบขอดก้น
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมย้าย จากโรงเรียนในป่าในดอย มาอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ประจำอำเภอ จากโรงเรียนขนาดเล็ก 1 ชั้นมี 1 ห้อง มาเป็น 1 ชั้นมี 5 ห้อง นักเรียนโรงเรียนใหม่มีจำนวน 1,500 คน เกือบเต็มสนามฟุตบอลทีเดียว ครูมีถึง 30 กว่าคน มากคนก็มากเรื่อง เพียงเข้าประชุมโรงเรียนครั้งแรก ได้พบการประคารมระหว่างครูด้วยกัน 2 กลุ่ม และครูกับผู้บริหาร มันช่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เหมือนขบพริกขี้หนูแตกถูกลิ้นสัก 4-5 เม็ด มีรสชาติจริงๆ ผมเป็นผู้มาใหม่ จึงได้เพียงฟัง เก็บข้อมูล ครูแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายอาจารย์ใหญ่ อีกกลุ่มค้านอาจารย์ใหญ่ ในเวลาต่อมา มีตัวแทนสองกลุ่มมาพูดคุยกับผม ด้วยอัธยาศัยที่ดี ชักชวนเข้ากลุ่ม…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในปี 2546ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหน่วยงานที่ผมทำงานครั้งสำคัญ ซึ่งตรงกับรัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ (พ.ศ.2544-2548) มีการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน ในระดับสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ เปลี่ยนจากการใช้เครื่องพิมพ์ดีด มาใช้คอมพิวเตอร์แทน บุคลากรในฝ่ายงานต่างๆ เช่น การเงิน หน่วยศึกษานิเทศก์ ต่างก็ยกเครื่องพิมพ์ดีดไปไว้ในห้องพัสดุบ้าง วางไว้บนตู้บ้าง ใครมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ก็ใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์หนังสือ เก็บข้อมูล ใช้ข้อมูล ใครใช้ไม่เป็นก็ต้องไปเรียน หรือเข้าอบรมตามโปรแกรมที่ต้องใช้ในการทำงาน เรียนจากเอกชนบ้าง เข้าอบรมตามโครงการของหน่วยราชการบ้าง มีเพียง 2-3 คนยังใช้เครื่องพิมพ์ดีด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก รอทักทายอยู่ข้างหน้า กลิ่นหอมของดอกกุหลาบสีสวยสด รวยรินชวนให้สัมผัส โลกคงอบอวลด้วยกลิ่นจรุงใจของเจ้า ใยหอมชื่นเพียงไม่กี่วันคืนเล่า นี่คือวันแห่งความรัก อยากรู้นัก รักคืออะไร
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ก่อนนอน ย่าผมจะเล่านิทานให้ฟังแทบทุกคืน บางครั้งท่านก็คงจะเบื่อที่เล่าเรื่อง “เสือเย็น” ซ้ำๆ กัน แต่ทนเสียงรบเร้าของผมไม่ไหว ก็เรื่องมันสนุกตื่นเต้นนี่ครับ เรื่อง “เสือเย็น” เกิดขึ้นที่วัดหมื่นสาร ในวัยเด็ก ผมอยากทราบเหมือนกันว่า วัดนี้อยู่ที่ใด มีวัดนี้จริงไหม แต่ไม่สามารถจะค้นหาได้ ด้วยมีข้อจำกัดหลายประการ เมื่อย่าเสีย เรื่อง “เสือเย็น” เริ่มจางไปจากความทรงจำ วัยมากขึ้นก็คิดถึงเรื่องอื่นสารพัด จนกระทั่งผมเกษียณ วันหนึ่งตรงกับวันที่ 3 มกราคม 2552 ผมขับรถผ่านวัดหมื่นสาร ย่านประตูหายยา จังหวัดเชียงใหม่ เห็นมีป้ายชื่อวัด ใต้ป้ายมีรูปปั้นวัวสีขาวตั้งอยู่ ขับรถเข้าไปในวัด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ย่านั่งบนพื้นบ้าน ซึ่งเป็นไม้ ใกล้กับหลายชายวัย 10 ขวบ เปลวไฟสีส้มจากโคมตีนสูง ส่องแสงให้เห็นลังสบู่ซันไลท์เปล่าวางอยู่ข้างหน้า “ย่าหาลังเปล่ามาให้แล้ว เห็นบ่นอยากได้นัก” “ย่าไปเอาที่ไหนมาล่ะ” ผมถาม ตามองดูลังไม้ที่ทำจากต้นจามจุรีวางตะแคง หันหน้าเข้าหาอย่างพอใจเต็มที่ ข้างในมันถูกแบ่งเป็นสองชั้น “ก็ไปขอร้านขายของปากซอยมา” ผมเปิดกระเป๋าหนังสือ หยิบหนังสือเรียนมาวางแถวล่าง สมุดแถวบน นี่ละตู้หนังสือชั้นดีของผม “รักจะเอาไว้หนังสือเรียน จะจัดหนังสือ สมุดตามตารางสอน ใส่กระเป๋าเป็นวันๆ สะพายมันจะได้เบาๆ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยเด็ก ผมปล้ำเล่นกับน้อง น้องชายอายุ 4 ขวบ ผมอายุ 7 ขวบ ผมปล้ำสู้ไม่ได้ น้องแข็งแรงมาก ผมอดขำหัวเราะไม่ได้ ผมปล้ำเจียนอยู่เจียนแพ้ จึงเปลี่ยนยุทธวีธี ใช้ลำตัวกดทับขาน้องให้แนบพื้นกระดานบ้าน ป้องกันการถีบสกัด ใช้มือทั้งสองจับข้อมือน้องชายกดไว้ น้องสะบัดหน้าไปมา แรงแกสม่ำเสมอ ผมอดหัวเราะไม่ได้ จนเผยอปากอวดฟันหลอ อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงไปใช้จมูกหอมแก้มซ้าย 1 ฟอด น้องส่ายหน้าไปมาคงเขิน ผมหัวเราะชอบใจพูดว่า เก่งนักหรือ หอมแก้มขวาอีกฟอดแล้วปล่อย น้องลุกขึ้นยืนถ่างขา มือน้อยๆ กำเป็นรูปกำปั้นเตรียมสู้ต่อ แม่ทำอาหารหันมาเอ็ดว่า ทำอะไรกันเสียงดังลั่น ผมออกปากยอมแพ้แกจึงหยุด…