พี่วิเศษยืนจดมวย อย่างไม่กระตือรือร้น
ยืนอยู่ด้านทิศ ตะวันออก หันหน้าเข้าหาศาล พี่ เอกสิทธิ์ยกมือจดมวยอยู่ทางทิศตะวันตก ทั้งคู่รูปร่างพอกัน ทึบตันไม่ ถึงล่ำสัน พี่เอกสิทธิ์ขาว พี่ วิเศษคล้ำ ผมยืนอยู่ข้างหลังพี่เอกสิทธิ์ เฉียงออกไปเล็กน้อย พี่วิเศษไม่ขยับตัวเลย ยืนนิ่งเฉย พี่เอกสิทธิ์ตัวแทนผม ผู้จะแก้ แค้นแทนผม ดีดเท้าซ้ายเข้าที่ท้องพี่วิเศษดังบึบ ไม่น่าเชื่อ พี่วิเศษทรุดตัวลงนั่งยองๆ มือกุมท้องแล้วไม่ยอมลุก นั่งนิ่งอยู่อย่าง นั้น พี่เอกสิทธิ์ผ่านการต่อสู้มาไม่น้อย คงเข้าใจความรู้สึกของคู่ต่อสู้ แก เดินเข้าไปยืนห่างสัก 1 ก้าวอย่างผู้เจนการต่อสู้ ควักยาหม่องตลับเล็กๆให้พี่วิเศษ พี่วิเศษรับไปแล้วควักทาท้อง พี่เอกสิทธิ์ ยื่นมือไปหา พี่วิเศษยื่นมือมาจับ ผู้ชนะดึงมือคู่ต่อสู้ลุกขึ้น วาจาลูก ผู้ชายหลุดจากปากนักชกตัวแทนผม
“ไม่มีอะไรกันแล้วนะ !”
หลังไปเก็บเงินกู้ รายวัน แกจะแวะจอดรถจักรยานยนต์ที่ร้านนายพูน พูดคุยทักทายกัน หากมีสามล้อ อยู่แถวนั้น พวกสามล้อจะทำหน้าที่พูดแหย่ทั้งคู่ ให้สู้กัน ส่วนใหญ่จะเชียร์นายพูน ยกยอนายพูนมากมาย แม้ยังมีงานซ่อมรถ ค้างอยู่ นายพูดก็จะพักไว้ก่อน ใช้ ผ้าเช็ดมือที่เปื้อนน้ำมันออก มานั่งโขลกหมากฮอส กับคู่ต่อสู้ขาประจำ ถ้านายพูนเดินพลาดแกจะโดนกินฟรี แกจะขอ เดินคืนตาเดิม ไม่เดินหมากตัวนั้น กระดานหนึ่งแกทำหลายครั้งแขกเงินกู้ก็ยอม ถ้า มากครั้งแขกเงินกู้ชักเดือดเหมือนกัน จะรีบกินหมาก นายพูนอย่างฉับพลัน ยืดหมากนายพูนไว้ วางข้างกระดาน แขกเงินกู้หัวเราะชอบใจ จับหมากที่กินของคู่ต่อสู้ ซึ่งวางนอกกระดานด้านข้างตน เขกกับกระดานเป็นจังหวะทั้งสองมือ พร้อมกับร้องเพลงแขกประกอบ หัวเราะกิ๊กเสียงลึกในคอ สามล้อที่นั่งดูหัวเราะชอบใจ แต่ไม่กล้า หัวเราะนาน กลัวนายพูดไม่พอใจ นายพูนจะยกนิ้วมือสากมีรอยน้ำมันกุมขมับขวา พูดบ่นงึมงำ เล่นกันสัก 2-3 กระดาน ถ้านายพูนแพ้จะพาลเลิกเล่นง่ายๆ หน้าแกจะเหงาเศร้าทีเดียว กลับไปซ่อมรถในร้านตามเดิม.