คุณลุงวิจิตรได้ยื่นเอกสาร
เป็นกระดาษโรเนียวยาว 2 แผ่นเย็บติดกันให้ผม ท่านบอกว่าเป็นบันทึกเรื่องราวสำคัญ ผมขอถือโอกาสถ่ายทอดข้อความทั้งหมดดังนี้ครับ
อิฐจากพระสถูปเจดีย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เมืองหาง รัฐไทยใหญ่ ซึ่งเป็นที่สวรรคตของพระองค์ท่าน คณะกู้ชาติไทยใหญ่ “หนุ่มศึกหาญ” ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้ไปกราบไหว้บูชาขอความคุ้มครองทุกครั้งก่อนที่จะออกไปปฏิบัติการโจมตีทหารพะม่า จนได้รับชัยชนะทุกครั้ง ต่อมาเมื่อกลางปี 2502 ทหารพะม่าได้จัดการระเบิดทำลายพระสถูปเจดีย์แห่งนี้จนพังไปหมด และขนเอาอิฐไปทิ้งที่แม่น้ำหาง เพื่อเป็นการข่มขวัญของพวกหนุ่มศึกหาญ
อิฐนี้ได้ถูกพวกหนุ่มศึกหาญนำจากเมืองหางมามอบให้เมื่อปลายปี 2502 นายวิจิตร ไชยวัณณ์ ได้มอบให้ พลโท อรรถ ศศิประภา แม่ทัพภาคที่ 3 นำไปประดิษฐานที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี 2506 อีกก้อนหนึ่งได้มอบให้แก่ พลโท จำเนียร พงศ์ไพโรจน์
นอกจากนี้คณะหนุ่มศึกหาญยังได้มอบให้แก่ พ.ต.อ. นิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปประดิษฐานที่อนุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรที่ตำบลเมืองงาย อ.เชียงดาว เมื่อปี 2511
วิจิตร ไชยวัณณ์
บันทึกเมื่อ 12 ก.พ. 20
สถูปสมเด็จพระนเรศวรที่ตำบลเมืองงาย อ.เชียงดาว
ผมได้พิมพ์ตามเอกสาร
ที่ได้รับจากคุณลุงวิจิตร ไชยวัณณ์ ทุกตัวอักษร แม้คำว่า “พม่า” เอกสารต้นฉบับเขียนด้วยลายมือผู้บันทึกว่า “พะม่า” ผมถามคุณลุงว่า อยากดูก้อนอิฐสำคัญนี้ จะขอดูได้ที่ไหน คุณลุงบอกว่า ให้ไปหาเจ้าอาวาสวัดป่าเป้า ซึ่งเป็นวัดไทยใหญ่ วัดนี้อยู่ถนนมณีนพรัตน์ที่เลียบคูเมือง หากขับรถจากประตูช้างเผือกมุ่งมาตามถนนทิศตะวันออก ชะลอรถช้าๆจนถึงกึ่งกลางถนนสายนี้ สังเกตดูอาคารร้านค้า จะเห็นประตูทางเข้า
ผมขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไปสัก 10 เมตรต้องจอดรถข้างรถอีกคัน ทราบภายหลังว่าหากเราเลี้ยวซ้ายอีกที จะมีถนนตรงขึ้นไป เลี้ยวขวาอีกครั้ง เป็นที่จอดรถผู้มาวัด ผมลงรถถามแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวไทยใหญ่ เธอชี้มือไปพระรูปหนึ่งในวิหาร ผมปล่อยภรรยาชิมก๋วยเตี๋ยวไทยใหญ่ใกล้ที่จอดรถ ผมเดินตรงไปหาเจ้าอาวาส ไหว้ท่านนอบน้อม บอกจุดประสงค์ที่มา บอกว่าคุณลุงวิจิตรท่านแนะนำ เจ้าอาวาสยิ้มบอกว่า อิฐสำคัญที่ว่านั้น ได้ยกให้ชายคนหนึ่งที่อยู่ประตูวัดด้านทิศตะวันออก ผมกราบลาท่าน รีบเดินไปตามถนนในวัด เจดีย์สวยงามอยู่กลางวัด เท้าพามาถึงอาคารเรียน หน้าห้องมีป้ายบอกจำนวนนักเรียนมาขาด ครูผู้หญิง 2-3 วันคนทำหน้าเคร่งเครียดชำเลืองมองผม คงนึกว่ามาตรวจโรงเรียน ผมเดินทะลุประตูพบบ้านหลังหนึ่ง มองขึ้นไปบนบ้าน ชายบนบ้านมองผ่านหน้าต่างลงมาสบตาพอดี ผมถามหาชายชื่อ “ซู่จิ้ง” ตามเจ้าอาวาสบอก เขาว่าชื่อซู่จิ้ง คำตอบสำคัญที่ผมได้รับทำให้ผมเหนื่อยใจมากขึ้น เขาว่าได้ยกอิฐสำคัญให้เจ้าอาวาสวัด “ประทานพร”ไปแล้ว.
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ระยะนี้ผมเป็นทุกข์กังวล เกี่ยวกับการเรียนต่อระดับปริญญาตรีของลูกชาย สถานที่เข้าเรียนเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ค่าเล่าเรียนภาคเรียนละสี่หมื่นบาท ผมจะหาเงินจากที่ไหน ปีหนึ่งเกือบแสนบาท จะกู้เงินเพื่อการศึกษาได้นั้น ผู้ปกครองต้องมีเงินได้ไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี รายได้ผมเกินไปเล็กน้อย กลางคืนผมนอนหลับๆ ตื่นๆ ลูกชายมีอาการหงุดหงิดกลัวไม่ได้เรียน ตัวผมผู้เป็นพ่อยิ่งกังวลใจมากกว่าลูก สุขและทุกข์ของลูก เป็นสุขทุกข์ของพ่อแม่อย่างแท้จริง...
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
อายุมากขึ้น ร่างกายเริ่มโรยรา โรคต่างๆ ก็วิ่งเข้ามาหา เวียนหัว นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ปวดตามส่วนต่างๆ เช่น ข้อมือ ข้อนิ้ว หลัง บั้นเอว ต้นแขน ยามวัยเด็ก วัยหนุ่มสาว ทานอะไรได้หมด ไม่มีปัญหาเจ็บป่วย ทานอร่อยและทานได้มาก ลองคิดทบทวนย้อนหลัง ด้านการใช้ชีวิตและการปฏิบัติงาน ในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาวออกกำลังโดยเล่นกีฬา สู่วัยทำงาน ไม่ได้ออกกำลังกายเลย งดเว้นการวิ่งหรือเดินเสียเฉยๆ ชอบนั่งสังสรรค์ร้องเพลงคาราโอเกะ ด้านการรักษาสุขภาพ เพียงแต่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน ที่น่าอายมากคืออารมณ์ทางเพศลดลงแทบหมด เหมือนน้ำมันแห้งขอดถัง...