พอทราบข่าว
ผลการประกวดภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2553 ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บิช เมื่อค่ำวันที่ 6 มีนาคม 2554 ว่า ผู้ได้รับรางวัล ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เป็นสาวน้อยวัย 18 ปี หน้าตาใสๆ น่ารัก ชื่อ “หนูนา” หนึ่งธิดา โสภณ(160 ซ.ม./44 กก.) จากหนังเรื่อง “กวน มึน โฮ” เธอสามารถทำคะแนนนำสาวพลอย เฌอมาลย์ สาวสวยเข้มฝีมือจัดจ้าน ที่แสดงเรื่อง “ ชั่วฟ้าดินสลาย” จากบทประพันธ์ของ “เรียมเอง” หรือ มาลัย ชูพินิจ(ผู้เขียน
นิยายผจญภัยลี้ลับในป่า “ล่องไพร”) เป็นนิยายที่ถูกสร้างเป็นหนัง/ละครหลายครั้ง ผู้เขียนเคยดูหนังเก่า ยุคคุณชนะ ศรีอุบล แสดงเป็นพระเอก เรื่องราวบีบอารมณ์เหลือเกิน สร้างใหม่กำกับการแสดงโดย ม.ล.พันธุ์นพ เทวกุล(หม่อมน้อย) ผู้กำกับชั้นครู หนูนาขึ้นเวทีรับรางวัล ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประจำปี 2553 ไปครอบครอง แสดงว่าเธอต้องมีดีมากพอทีเดียว เพราะเพิ่งผ่านการแสดงมาไม่เท่าไร วัยรุ่นน้อยคนนักจะทำได้
เด็กวัยรุ่นยุคนี้
เก่งรอบตัว ร้องเพลงได้ ร้องเพราะเสียด้วย แสดงละคร/หนังได้ จะรำจะเต้นทำได้หมด ประเภทสวย หล่อ เก่ง แต่การแข่งขันก็สูง มีเวทีประกวดมากมาย เหล่าผู้ชนะ เดินไปอัดไปเบียดกันเข้าประตูสู่ความเป็นดารา นักแสดงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มมากทุกวัน พระเอกนางเอกรุ่นที่เข้ามาก่อน ถ้าไม่เฉียบขาด ไม่มีผู้สนับสนุนจริงๆจังๆ ต้องลดตัวไปเป็นพระรองนางรองนางร้าย กระทั่งบทพ่อแม่ แม้ยังไม่แก่เท่าใด มีบ้างที่เป็นประเภท พระเอกนางเอกแม่เหล็ก ที่ติดลมบนแล้ว สามารถยืนหยัดยึดบทเด่นๆ ยาวนานจนปัจจุบัน เช่น คุณเคน ธีรเดช , คุณป๋อ ณัฐวุฒิ, คุณศรราม, คุณ
วรนุช , คุณจีรนันท์ , คุณแอน ทองประสม , คุณฉัตรชัย , คุณสินจัย ฯลฯ
CD หนัง “ กวน มึน โฮ ”
วางโชว์ข้างผนังร้านให้เช่า ผมมองผ่านๆด้วยหางตา คงเป็นหนังวัยรุ่น ประเภทเฮฮา สนุกสนาน ตามประสาวัยรุ่น อันเป็นวัยแสวงหาค้นหา พอทราบว่าหนังเรื่องนี้ ได้รับรางวัล ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สุพรรณหงส์ อันเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติ ทำให้อยากรู้จักนางเอกมากขึ้น ถามลูกสาวเจ้าของร้านว่า ชื่ออะไร ?
“ หนูนา.”
ผมได้ยินคำตอบแล้วชัก “ กวน มึน หัว” เหมือนชื่อหนัง ไม่รู้หน้าตา บทบาทจะเป็นอย่างไร ? เคยได้ยินชื่อ เคยอ่านพบตามหน้าบันเทิงในหนังสือพิมพ์ เพียงแค่นั้น
“ งั้น ! ลุงเช่า CD. หนัง “กวน มึน โฮ.” ก็แล้วกัน”
เด็กรุ่นหลานหยิบให้ ผมกลับมาเปิดดูที่บ้าน อยากรู้เธอมีฝีมือเหมาะสมกับรางวัลสุพรรณหงส์อันทรงเกียรติเพียงไร ? ลองอ่านบทสนทนาของวัยรุ่นยุคนี้นั่งคุยกันในหนัง
“คุณนี่ !...สนิทกับคนง่ายนะ ?” พระเอก
“คุณไม่เคยเหรอ ? บางคนนะน้า เจอกันแค่แป๊บเดียว แต่รู้สึกเหมือน...โคตรสนิทเลย เล่าให้ฟังได้ทุกเรื่อง.” นางเอก
สำหรับนางเอก
“พูดจาท่าทางเป็นธรรมชาติ เหมือนคนในชีวิตจริงพูดกัน ร้องไห้หัวเราะเหมือนรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แววตาสีหน้าสื่ออารมณ์ได้ดี ถ้าได้บทดีๆคงดังอีกนาน หน้าใสตาสวย ดูน่ารัก ชวนให้มองนานๆ...เออ ! แม้จะไม่ขาวเท่าไร แล้วก็ !...ร้องเพลงเพราะด้วยนะ เคยฟังในโทรทัศน์ครั้งหนึ่ง...เส้นทางที่ก้าวเดินและหน้าตา คล้ายคุณพั้นซ์ วรกาญจน์ (158ซ.ม./44กก.) จังเลย และเหมาะสมแล้วกับรางวัลผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สุพรรณหงส์ ปี 2553.”
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
หากไม่ย้ายเมืองหลวง
คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป มาในแนวสู้ไม่ถอย ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท แรงงานว่างงาน 7-9.2 แสนคน และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม ในวงเงินประมาณ 7.56 แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ประเทศแรก
ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในอดีต
มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค ลองไล่ตามลำดับ
เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486 บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อมาในในสมัยรัฐบาล พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา พอมาถึงยุคท่านสมัคร สุนทรเวช เจ้าของวลีเด็ดๆ เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ อะไรกันนักหนา ฯลฯ” ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
การย้ายเมือง
มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ ดังเช่น เมืองลำพูนในอดีต ในปี พ.ศ. 1490 เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก ผู้คนล้มตายมากมาย ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี” คือเมืองสะเทิม ประเทศรามัญหรือมอญ และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม
เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง
ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้
1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่
2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่
3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…