Skip to main content

ผมเดินออกจากสำนักงาน
แล้ววางมาดเดินเลี้ยวขวาไปตามถนนที่ลาดยางเรียบ ทำทีจะเดินไปอาคารบ้านพักรวมที่อยู่ด้านใน เดินได้ระยะทางเล็กน้อย เริ่มร้อนมากขึ้น ตะวันตรงหัว เดินมาได้หน่อยหนึ่งจึงหยุด ยืนพักใต้เงาไม้ เริ่มหายใจแรง ตากวาดดูต้นไม้ข้างทาง ส่วนใหญ่เป็นไม้ตึง(ไม้พลวง) ไม้เหียง นึกถึงคำพูดของเธอ เดินครู่เดียวก็ถึง มันจะกี่กิโลเมตรนี่ซิเธอเอ๋ย ถ้าเป็นกิโลแม้วผมก็หมดแรงแน่ นั่งพักครู่หนึ่ง เปรียบเทียบตัวเอง ถ้าเป็นนักมวยเราก็ประเภทมวยใช้สมอง ไม่ใช่ประเภทใช้กำลังบุกตะลุย หากไม่เจียมตัวเองเห็นที่จะหมอบเป็นแน่แท้ อย่ากระนั้นเลยเราจะต้องพักให้หายเหนื่อยก่อน ผมยกน้ำในขวดดื่ม มันอุ่นไปหน่อย ถ้าเย็นจะดีมากเลยพี่น้องทั้งหลาย เมื่อร่างกายฟื้นผมก็เดินตัวตรงย้อนกลับมาตามถนน กวาดตาสำรวจตามตัวอาคาร มันเป็นเวลาพักกลางวัน เจ้าหน้าที่ในสำนักงานคงเลิกไปกินข้าวจนหมดสิ้น ดีแล้วผมจะได้ไม่ต้องตอบคำถาม “...ไปมาหรือยัง ถึงหรือเปล่า เป็นไงบ้างค่ะ สนุกไหม ?.ผมโผเข้าหาม้านั่งข้างอาคารเหมือนคนว่ายน้ำแล้วหมดแรง เห็นเศษไม้ลอยมาก็โผเข้าหา นั่งมองแมกไม้ บ้านพักเป็นหลังๆดูสวยงาม บ้านปิดเงียบ ไม่เห็นมีใครอยู่สักหลัง หยี่ตามองแดด อากาศเริ่มร้อนขึ้นอีก สมมติว่าตนเองได้มาอยู่ จะเป็นอย่างไร จะเหงาไหม กลางคืนคงเงียบมาก เพราะอยู่ห่างถนนสายเชียงใหม่-แม่แตงราว 1 กิโลเมตรเศษ อยู่กับคนสูงวัยด้วยกัน ช่วงอายุระหว่าง 60-80 ปีเศษ มันจะเป็นอย่างไรหนา ? เช่น คุยกันรู้เรื่องเพราะวัยเดียวกัน ความต้องการคล้ายๆกัน มันน่าจะดี คนแก่พูดกับลูกหลานที่บ้าน พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดกันไม่กี่คำก็จบแบบจืดชืด

ก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย
ลูกชายขับรถมากับภรรยามารับ ผมบอกทั้งสองคนว่า วันนี้มาหาข้อมูลแค่นี้ก่อน วันหลังจะมาอีกครั้งเพราะต้องสัมภาษณ์ผู้พักอาศัยบ้านวัยทองนิเวศน์สัก 1-2 คน ต้องใช้เวลาไม่น้อย วันนี้หมดแรงแล้วพอแล้ว จนถึงวันที่ 28 เมษายน 2554 ผมให้ลูกชายขับรถมาส่งบ้านพักรวมที่อยู่ด้านในของบ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง รถจอดที่หน้าอาคารนอนรวมหลังยาวชั้นเดียว อาคารนอนรวมอยู่ด้านขวามือ ด้านซ้ายมือเป็นโรงอาหาร ผมลงรถอย่างตื่นตาตื่นใจ อยากได้รู้ได้เห็นโลกอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกใบกระจิริดอยู่ในโลกใบใหญ่มหึมา เป็นสังคมอีกแบบหนึ่ง เหมือนหยิบเสี้ยวหนึ่งของสังคมจริงมาวางบนพื้นดินที่เงียบสงบ ดุจดังพื้นที่อาศัยสมมติในจิตนาการ บรรยากาศรอบๆจะเป็นอย่างไรหนอ ? เป็นคำถามที่เต้นเร่าในสมองเสมอมา เวลาว่างคนสูงวัยเหล่านี้เขาทำอะไรกัน จะคุยกันเรื่องอะไร การเมือง การละคร หรือนั่งนอนมองฟ้ามองดิน ดูต้นไม้ ฟังเสียงลมพัดนกร้อง บ้านพักวัยทองนิเวศน์มีลักษณะเฉพาะ แตกต่างจากบ้านคนทั่วไปในสังคมใหญ่ ไม่มีลูกหลานอยู่ด้วย ไม่มีการเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหรือเลี้ยงสัตว์อื่นๆ มีเหมือนกัน สำนักงานบ้านวัยทองนิเวศน์จะพาคนสูงวัยเหล่านี้ ไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ โดยนั่งรถส่วนกลางไป.

...........................................................

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…