ผมฟังคุณศิริพรกล่าวเนื่องในวันเกิด
ของผู้ชราหลายคนในวันนี้ ฟังแล้วจับใจไม่น้อย
“ ...ถึงแม้บ้านวัยทองนิเวศน์ จะมีอาหารการกิน มีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย แต่ที่ขาดเป็นด้านจิตใจ แม้จะไม่สามารถทดแทนครอบครัวเดิมของท่านได้ก็ตาม จะพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาด ตามที่สามารถทำได้...”
เมื่อพิธีกรงานวันเกิดกล่าวต่อจนจบแล้ว
ผมเดินเตร่ดูตามอาคารต่างๆ ขออนุญาตคุยผู้สูงอายุบางคน ดูห้องสำหรับดูโทรทัศน์ ที่อ่านหนังสือ คนชราบางคนจับคู่คุยกันอย่างสนุกสานที่ม้านั่งยาว มีคนชรานั่งฟังกันหลายคน บ้างนั่งห่างกัน ต่างนั่งปล่อยอารมณ์ ไม่สนใจกันคงเคยชิน บางคนชราภาพมาก นั่งหงุบหลังงอบนระเบียงอาคารห้องนอนรวม มีหญิงชราคนหนึ่งนั่งนิ่งหลังงอที่เดิมนานมาก ไม่ลุกไปไหนเลย เหมือนเรือที่วิ่งในทะเลเป็นเวลาเนิ่นนาน ถูกเจ้าของปลดประจำการ ยกมาวางทิ้งไว้บนหาดเป็นของเก่านอกพิพิธภัณฑ์ บางคนไม่พูดไม่คุย ผมขออนุญาตเข้าไปในห้องนอนรวม ในห้องนอนรวมแบ่งเป็นสองด้าน ด้านหนึ่งผู้หญิง อีกด้านผู้ชาย เตียงเดี่ยวเป็นเตียงเหล็กวางเรียงเป็นแถว เว้นระยะระหว่างเตียงเล็กน้อย ขณะที่ผมเดินเข้าไป ด้านขวามือมีหญิงชรานอนพักผ่อน 2-3 คน อีกด้านมีชายชรานอน 1 คน ในห้องเงียบไม่ได้ยินเสียงพูดคุย เงียบจนผมรู้สึกถึงความแปลกแยก โดดเดี่ยว อ้างว้าง ฯลฯ
บ้านนี้เป็นบ้านใบไม้สีน้ำตาล
รอกาลร่วงหล่น เป็นต้นลำดวนที่มีเพียงอดีต และปัจจุบันวันนี้ อนาคตพรุ่งนี้ยังไม่อาจรู้ได้ ดังคำพูดหญิงชราคนหนึ่งพูดกับผมว่า
“...พรุ่งนี้อาจจะตาย...อ้าว ! ตอนเช้าตื่นขึ้นมา ยังหายใจอยู่ ก็ทำอะไรไป.”
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
พื้นที่ป่าเมืองไทยล่าสุดเหลือเท่าไร ระหว่างปี พ.ศ. 2504-2552 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่ามากกว่า 72 ล้านไร่ เฉลี่ยป่าถูกทำลายปีละ 1.6 ล้านไร่ และในปี พ.ศ. 2504 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าร้อยละ 53.3 หรือประมาณ 171 ล้านไร่ พอมาถึงปี พ.ศ.