Skip to main content

 

30 ธันวาคม 2555

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบเทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”

หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ฉบับวันที่ 1 มกราคม 2555 หัวข้อ “เสียงจากองค์กรสตรี” ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีหญิงว่า “...นายกฯมีจุดแข็งตรงที่เป็นคนยอมรับข้อติติงแล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข อดทนสูง เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่างๆ เช่น ร้องไห้ พูดไม่ชัดก็รับฟัง ไม่ตอบโต้ ซึ่งเป็นข้อดี อยากให้รักษาไว้แล้วนำมาปรับปรุง.”

หัวหน้าฝ่ายส่งเสริม
ความเสมอภาคระหว่างประเทศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า “...แม้ข้อดีของความเป็นหญิงคือความละเอียดอ่อน อ่อนน้อม แต่ความอ่อนน้อมอย่างเดียวยังไม่พอ ยังมีเรื่องข้อมูลประสบการณ์ ที่นำไปสู่การตัดสินใจ...ที่สำคัญไม่ว่าจะให้สัมภาษณ์ทำงานอะไรต้อง ทำการบ้าน ซ้อมและทบทวนบ่อยๆ.”

อีกท่านหนึ่งที่น่าสนใจ
รอง ผอ.สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล(รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล) ท่านกล่าวว่า “ ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้เป็นความผิดของรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลที่แล้ว เพราะเป็นปัญหาสะสมมาตั้งแต่มีการพัฒนาประเทศ เราไม่มีระบบผังเมืองที่เป็นไปได้ ส่วนระบบข้าราชการประจำอ่อนแอ ไม่ประสานงานกัน...ภาพรวมสังคมไทยยังยอมรับนายกฯยิ่งลักษณ์...เห็นความตั้งใจจริง ความขยันขันแข็ง สิ่งที่นายกฯต้องปรับปรุงคือ “ กุนซือ” หรือคณะที่ปรึกษานายกฯ หากไม่มีคณะทำงานรอบตัวที่รอบด้านและเข้าใจลักษณะการทำงาน นายกฯจะลำบาก...”

ลองมาพิจารณาเงื่อนไข
ที่จะทำให้นายกฯหญิงอยู่ครบเทอมบ้าง จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับ 4 มกราคม 2555 อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวไว้ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ครบเทอมได้ ถ้าไม่แตะเรื่องร้อน 3 เรื่องคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า “ สถานการณ์ขณะนี้เชื่อว่า รัฐบาลจะเดินหน้าราบรื่น ไม่มีอุบัติเหตุหรือถูกปฏิวัติ วันนี้คนคิดปฏิวัติต้องคิดหนัก เพราะรัฐบาลนี้มาตามวิถีทางประชาธิปไตย

และจากสูตรปฏิวัติมี 3 ข้อคือ ทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่จงรักภักดี สร้างความแตกแยก แต่ตนเองยังมองไม่เห็นว่า รัฐบาลจะเข้าสู่สูตรสำเร็จทั้ง 3 ข้อนั้น.”

นายกฯหญิง
ท่านน้อมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ จะเร่งปรับปรุงตนเอง ขอเวลาทำงานให้ครบ 4 ปี เพื่อทำนโยบายที่แถลงให้ครบและผลเป็นอย่างไร น่าจะให้โอกาส นายกฯหญิงที่แตะต้องวิจารณ์ได้รับฟังแล้วปรับปรุง อดทนนอบน้อม เหนื่อยสุดๆ ไม่บ่น บางครั้งถึงน้ำตาคลอแต่ไม่ท้อ ขอก้าวต่อไป.

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…