Skip to main content

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

ผมรับสาย เพียงได้ยินเสียงผู้พูด ประสาทผมตื่นตัวขึ้นทันที พูดภาษาไทยกลางปนคำเมือง เธอเป็นอดีตศึกษานิเทศก์ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เธอเออลี่รีไทร์ได้ปีเศษ เธอจะไม่โทรหาผม ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น หรือไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ ส่วนผมเกษียณได้หลายปีแล้ว น้ำเสียงและถ้อยคำที่ส่งเสียงมา มันบอกเป็นนัยๆ ทำใจไว้เถอะ  ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา

" อาจารย์รัก จำน้องนันท์ได้ไหม น้องนันทนา แก้วจันทร์.” เธอเริ่มประโยคสำคัญ สมองผมคิดทบทวน ยังนึกไม่ออก เธอเอ่ยต่อ

“ น้องนันท์ที่มาช่วยราชการในหน่วยงานของเรา เธอย้ายมาจากปักษ์ใต้.”

“ ผิวคล้ำ จมูกโด่ง ตาคม ใช่ไหม.” ผมบอกลักษณะเด่น

“ ใช่ มีลูกสาวคนหนึ่ง ผิวขาวผิดกับแม่...ชื่อ น้องนุ่น ไง.”

“ ผมนึกออกแล้ว เธอมาช่วยราชการในหน่วยงานเรา ผมยังยกโต๊ะทำงานจากห้องพัสดุมาให้เธอ เวลาโรงเรียนปิด เธอพาลูกสาวมาด้วย หน้าตาดีมาก ตอนนั้นลูกสาวเธอคงเรียนราวชั้น ป. 4 หรือ ป.5.”

“ ไก่ทราบข่าวทางโทรทัศน์ เธอถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2555.” ผู้บอกข่าวเรียกชื่อเล่นตัวเองว่า “ไก่” ผมเริ่มชาที่หน้าอก

“ น้องนันทนาเธอเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน บ้านท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เธอคงสอบผู้อำนวยการโรงเรียนได้ ดูข่าวโทรทัศน์ ไก่เห็นแค่มือเธอที่ยื่นออกมาให้เขารดน้ำศพ.”

ความคิดของผมพุ่งวาบย้อนหลังไปเมื่อคราวน้องนันทนา แก้วจันทร์ มาช่วยราชการในหน่วยงานที่ผมทำงานอยู่ ณ สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเชียงดาว เชียงใหม่ นึกถึงลูกสาวของเธอ ผิวขาวหน้าตาดี ผมดำสนิท ถ้าโตขึ้นคงสวยมาก ขณะแม่ทำงานในห้องสำนักงาน น้องนุ่นลูกสาวของเธอคงเหงา ออกมาวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าสำนักงาน ผมยืนดู น้องนุ่นสามารถเล่นตามลำพังได้ พูดกับตนเองเหมือนล่องลอยในจิตนาการโลกของเด็ก ใครๆสงสัยกันนักว่า แม่ลูกอยู่ไกลถึงปักษ์ใต้ ทำไมย้ายมาทำงานไกลถึงเชียงใหม่ ต่อมาพวกเรารู้กันด้วยใจหดหู่ว่า ชีวิตคู่เธอไม่ราบรื่นนัก

วันนี้เธอจากไป

ถูก 2 โจรยิงปลิดชีพด้วยปืน เอ็ม 16 และ 9 ม.ม. นับเป็นครูที่ถูกยิงเสียชีวิตรายที่ 154 โดยไม่ได้ทำให้ผู้ยิงเธอเจ็บช้ำน้ำใจ ไม่เคยมีเรื่องราวบาดหมางกับผู้ใด ปฏิบัติหน้าที่บริหารการศึกษาร่วมกับครูผู้สอน สอนเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ ให้เป็นคนดีมีความรู้ ฉลาดเฉลียว ดำรงชีวิตในสังคมยุคใหม่ได้ แต่มาถูกยิงอย่างเหี้ยมโหด มันไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป คนดีๆคงหมดไปจากแผ่นดินไทย...คนดีมีที่นอน นอนนิ่งไม่หายใจ ให้คนมารดน้ำศพ วันนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังจะทำอย่างไร วิธีการใด ที่มีประสิทธิภาพสูง รักษาชีวิตคนดีๆไว้ ลดคนไม่ดีให้น้อยลงอย่างได้ผล...ล่าสุดครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ ครูโรงเรียนตาโง๊ะ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ถูกคนร้ายนั่งจักรยานยนต์ประกบยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2555 เวลา 18.00น. นับเป็นครูที่เสียชีวิตรายที่ 155.

................................................................

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…