Skip to main content

 

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

แม่แก้วหญิงชราวัย 87 ปี

แกเป็นโรคอัลไซเมอร์ เดินออกประตูบ้านเลี้ยวขวา มาตามถนนลาดยางเลียบกำแพงวัดทุ่งทอง เดินมาได้ราว 20 เมตร แกเลี้ยวซ้ายสู่ถนนลาดยางสายหลักของหมู่บ้าน ถนนสายนี้จะเคียงคู่กับสายน้ำแม่ขาน และเป็นถนนสายเดียว ที่ผ่านหน้าวัดประจำหมู่บ้านทุ่งทองทั้งหมด 99 หลังคา จำนวน 300 กว่าคน ถนนนี้ทอดจากหางบ้านด้านทิศใต้ พุ่งขึ้นเหนือสู่หัวบ้าน และยังขีดกรอบบ้านทั้งหมดไว้ระหว่างถนนสายนี้กับน้ำแม่ขานขาน


แม่แก้ว

เกล้าผมมวย เสื้อแขนยาวสีตุ่น ซิ่นสีหม่น เดินฝ่าแดดยามใกล้เที่ยงอย่างไม่เร่งร้อนอะไร นิ้วเท้าคล้ำเหี่ยวคีบรองเท้าฟองน้ำก้าวไป แม่แก้วต้องเดินไปตามถนนที่ทอดสู่ทิศเหนืออีก 100 กว่าเมตร เพื่อตามหาอ้ายมาลูกชายคนที่ 4 วัยเกือบ 40 ปี ลูกชายคนนี้ได้รับมอบหมายจากพี่น้องอีก 4 คน ให้ดูแลแม่ เนื่องจากน้องสาวคนสุดท้อง มีครอบครัวอยู่ต่างประเทศ ลูกสาวคนนี้จะส่งเงินใช้จ่ายดูแลแม่มาให้อ้ายมาทุกเดือน ลูกสาวคนที่สองอยู่กรุงเทพฯจะส่งเงินมาให้อีกส่วนหนึ่ง ไม่มากเท่าน้องสาวคนเล็กสุด พี่ชายและพี่สาวอีก 2 คน มีครอบครัวแล้ว ปลูกบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน หน้าที่ดูแลแม่แก้วแบบใกล้ชิดทุกเมื่อเชื่อวันจึงตกเป็นของอ้ายมา


แดดกล้าทำงานแบบเที่ยงตรง

ใครขับรถผ่านมา ใครถือร่มเดินสวนแก จะต้องทักแกว่า ไปไหนหือแม่แก้ว แดดร้อนจะตาย แกหันหน้ามอง ตอบเสียงใสเหมือนท้องฟ้าสีน้ำเงินไร้เมฆแดดเจิดจ้ายามนี้ จะไปตามหาอ้ายมา มันหายไปไหนไม่รู้ คนอื่นเหลียวดูหน้าแกอย่างเป็นห่วงเป็นใย ส่งเสียงเร่งเร้าให้แกเดินเร็วๆ แดดมันร้อนจะเป็นลมได้ บ้างต่อว่า ออกมาทำไม เดี๋ยวอ้ายมามันก็กลับเอง มันไม่ไปไหนไกลหรอก มันห่วงแม่มันอย่างกับอะไรดี แม่แก้วมองหน้าคนพูดแล้วก็ยิ้ม หูแกไม่ค่อยดี ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง อาศัยดูปากคนพูดหากอยู่ใกล้กัน แกพึมพำอะไรเล็กน้อยแล้วเดินต่อ  แดดใกล้เที่ยงยามย่างเข้าหน้าร้อน พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย คนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ ยามเดินผ่านเลือดในกายเหมือนมันจะถูกเผาให้แห้งเหียด หรี่ตามองจากใต้ถุนบ้าน จะเห็นเปลวแดดเต้นยะยีก หงีกงอเหมือนเส้นกราฟในเครื่องวัดข้างเตียงคนไข้ในห้องพยาบาล  แม่แก้วน่าจะเป็นโรคสมองเสื่อม(Dementia) เป็นอาการเกิดจากความผิดปรกติของสมอง ทำให้เกิดการเสื่อมของระบบความจำและการใช้ความคิดด้านต่างๆ โรคอัลไซเมอร์เป็นภาวะสมองเสื่อมประเภทหนึ่งที่พบบ่อยที่สุด แม่แก้วจะขี้หลงขี้ลืม ดังลูกชายเล่าว่า “ วันหนึ่ง แม่แก้วจะหม่าข้าววันละ 3-4ครั้ง หม่าแล้วก็หม่าอีก.”... การหม่าข้าวเป็นวิธีบรรจุข้าวสารชนิดข้าวเหนียวลงในหม้อกระเบื้องเคลือบ แล้วเทน้ำลงไปให้น้ำท่วมข้าวสารในหม้อ ระดับน้ำสูงกว่าข้าวสารเล็กน้อย มักจะแช่ข้าวตอนก่อนเข้านอน ปล่อยทิ้งไว้หนึ่งคืนเพื่อให้เมล็ดข้าวนิ่ม  ตอนเช้าจะโกยเฉพาะข้าวสารออกมาแล้วนำไปนึ่งให้สุก เรียกว่าข้าวเหนียว คนเหนือส่วนใหญ่จะกินข้าวเหนียวมากกว่าข้าวสวย


อาการสมองเสื่อม

จะไม่มีสมาธิ ให้ไล่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ย้อนหลังจะทำไม่ได้ ถามอะไรซ้ำๆ หลงทิศ หลงทาง แปลอารมณ์คนหน้าบึ้งไม่ออกว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี ซึมเศร้าง่าย หงุดหงิดง่าย เห็นภาพหลอน เห็นคนตายมาหา พับผ้าก็พับอยู่อย่างนั้น มักลืมเหตุการณ์ใหม่ แต่ไม่ลืมเรื่องราวในอดีต...ช่วงท้ายชีวิต ต้องให้แม่แก้วอยู่เฉพาะในบริเวณบ้าน ต้องใส่กุญแจประตู ป้องกันแกเดินออกนอกบ้าน เกรงแกจะเดินไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ทิศรู้ทาง แกเริ่มป่วยหนัก 7 วันแรกต้องนอนแซ่วเดินไม่ไหว อีก 7 วันต่อมาไม่กินข้าว กินได้เพียงโอวันติลที่ลูกหลานหยอดปากแก ไม่ถ่ายหนัก เพียงถ่ายเบา ไม่พูด  นอนนิ่งบนที่นอน สวมหมวกไหมพรมห่มผ้าหลายผืนทั้งที่คนทั่วไปร้อนแทบเป็นลม ใช้มุ้งครอบแบบเด็กๆ  ลูกๆหลานๆมานอนเฝ้า หมอบอกว่าเป็นโรคชรา ทำได้เพียงให้วิตามินมากิน  ลูกหลานเอาเงินใส่กระเป๋าเสื้อแกจำนวนพัน เพื่อให้แกได้ใช้ยามเดินทางสู่โลกแห่งวิญญาณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์แกก็จากทุกคนไป ผมจึงไม่ได้เห็นแกเดินลากเท้าฝ่าแดดแสนร้อน ตามหาลูกชายทั่วหมู่บ้านอย่างสลดใจอีกต่อไป.

 

............................................................. 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2553 ผมเดินทางโดยรถยนต์พร้อมภรรยา   ไปยังศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   อำเภอสันป่าตอง   เชียงใหม่   อีกครั้งหนึ่ง   หลังจากตอนเย็นวันที่ 6 กรกฎาคม 2553   ได้พูดคุยนัดหมายกับคุณสกุล มูลคำ   เรียบร้อยแล้ว  ให้ภรรยานั่งคอยในรถยนต์  ก้าวขึ้นบันไดที่ทำงานของผู้ที่ผมไปพบ   ยกมือไหว้คุณสกุลก่อนตามธรรมเนียม   คุณสกุลดูยิ้มแย้ม   เป็นกันเอง  ไม่มากพิธี
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553   มีข่าวหนึ่งสะดุดตาและสมอง   หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่า “ ทึ่ง ‘ ข้าวไม่ต้องหุง’   ศูนย์วิจัยคิดค้นรายแรกของไทย.”   มันสะดุดตาตรงที่   ข้าวไม่ต้องหุง   ข้าวอะไรไม่ต้องหุง ?   ต้องเป็นข้าวที่มีคุณภาพพิเศษมากๆแน่นอน   สะดุดยิ่งขึ้นอีก   เมื่อบอกว่า   ศูนย์วิจัยคิดค้นรายแรกของไทย   อะไรที่มีคำว่าวิจัย   ผมสนใจเสมอ   เพราะมันหมายถึง   การค้นหาคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
6 กรกฎาคม 2010 รอบรองชนะเลิศ แข่งขัน เวลา 1.30 น.    ทีมอุรุกวัยพบฮอลแลนด์   สู้กันดุเดือด   สนุกมาก   ใครเป็นโรคหัวใจ   โรคความดันต้องหลีกเลี่ยง    ขณะดู   นิ้วมือผมกำเกร็งไปโดยไม่รู้ตัว   พอรู้สึกตัวตน   ต้องปรับอารมณ์ใหม่   เป็นทีมชาติของเราก็ไม่ใช่  ไฉนต้องปล่อยกายใจอยู่ใต้เกมการแข่งขัน   จึงได้ดูแบบไม่เครียดต่อไป   ทั้งนี้เพื่อชีวิตที่ยืนยาว   รอทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกสักครั้ง   จำได้ว่า  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ส่วนผู้เล่นฟุตบอล ได้แสดงฝีเท้าให้คนทั้งโลกได้ชมอย่างเต็มอิ่ม   เป็นประโยชน์ต่อทีมและตัวเอง   หากเล่นได้ดีเด่น   ค่าตัวจะสูงตาม   บรรดาสโมสรดังๆของโลก   อีตาลีมีสโมสร   อินเตอร์มิลาน   ยูเวนตุส   นาโปลี   ลาซิโอ ฟิออเรนติน่า   สเปนมีสโมสร เรอัล มาดริด บาร์เซโน่า   เยอรมันมีสโมสร  บาเยิร์นมิวนิก   มึนเช่นกลัดบัด   โบรุสเซีย   ฝรั่งเศสมีสโมสร   โอลิมปิก มาร์กเซย   บาเลนเซีย   ปาร์ม่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH MicrosoftInternetExplorer4 /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ใครๆ ก็ต้องมีทีมในดวงใจ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
พี่วิเศษยืนจดมวย อย่างไม่กระตือรือร้น ยืนอยู่ด้านทิศ ตะวันออก   หันหน้าเข้าหาศาล   พี่ เอกสิทธิ์ยกมือจดมวยอยู่ทางทิศตะวันตก  ทั้งคู่รูปร่างพอกัน    ทึบตันไม่ ถึงล่ำสัน   พี่เอกสิทธิ์ขาว พี่ วิเศษคล้ำ   ผมยืนอยู่ข้างหลังพี่เอกสิทธิ์   เฉียงออกไปเล็กน้อย   พี่วิเศษไม่ขยับตัวเลย   ยืนนิ่งเฉย   พี่เอกสิทธิ์ตัวแทนผม   ผู้จะแก้ แค้นแทนผม   ดีดเท้าซ้ายเข้าที่ท้องพี่วิเศษดังบึบ   ไม่น่าเชื่อ   พี่วิเศษทรุดตัวลงนั่งยองๆ  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ปี พ.ศ. 2500 ผมอายุได้ 11 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน “ครูหล้า”  เรียกชื่อเป็นทางการว่า โรงเรียนสุวรรณศิลป์   โรงเรียนนี้ต้องเข้าซอยไปราว 30 เมตร   โรงเรียนติดกับน้ำแม่ข่า  โดยมีถนนช้างม่อยตัดใหม่ตัดผ่าน  ปากซอยอยู่ตรงข้ามกับโรงหนังศรีนครพิงค์  ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน  ถัดจากโรงหนังนี้ไปทางทิศตะวันออก จะเป็นตลาดนวรัฐ  คนทั่วไปเรียกติดปากว่า  “กาดเจ๊กโอ๊ว”  ต้องขออภัยเครือญาติของเถ้าแก่โอ๊ว  ที่เรียกคำนำหน้าชื่อว่า  “เจ๊ก”  เพราะทราบว่าคนจีนไม่ชอบให้ใครเรียกเช่นนั้น …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ฉันอดนึกถึง ครูสอนประวัติศาสตร์ชาติไทยในชั้นไม่ได้  ท่านสอนสาเหตุที่ตั้งกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง  บอกจุดดีจุดแข็ง   พอมาถึงยุครัตนโกสินทร์ ครูสอนก็บอกถึงสาเหตุที่ย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี  มาเป็นกรุงเทพมหานคร บอกจุดอ่อนของกรุงธนบุรี  บอกจุดแข็งจุดดีของกรุงเทพมหานคร ฉันนึกสงสัยในใจ ทำไมตอนแรกครูบอกว่า บริเวณที่ตั้งกรุงธนบุรีดีอย่างนั้นอย่างนี้  พอเวลาผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง กรุงธนบุรีกลับมีจุดอ่อน  กรุงเทพฯเหมาะสมกว่า  หรือว่า...เมืองๆ หนึ่งย่อมเหมาะสมดีกับยุคสมัยหนึ่ง พออีกยุคอะไรๆ เปลี่ยนแปลงไป เมืองเดิมนั้นก็เริ่มไม่เหมาะสม  มีปัญหา เออนะ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เมื่อเลื่อนชั้นไปเรียน ม.6 ฉันได้รับคัดเลือกเป็นนักฟุตบอลรุ่นใหญ่ของโรงเรียน รูปร่างผอมสูง น้ำหนักแค่ 48 กิโลกรัม เล่นไม่เก่งเท่าใด  มาหัดเล่นฟุตบอลช้าไป เพื่อนได้เสื้อสามารถกันหลายคน เขาก็สอนการเล่นฟุตบอลให้  เช่น ฝึกเตะลูกฟุตบอลให้กระทบใต้คาน  ลูกจะกระทบพื้นเข้าประตู เพื่อนว่าประตูเทวดาก็รับไม่ได้ ฉันฝึกแล้วมันยากเหลือเกิน อีกลูกเป็นลูกวอลเล่ย์ เพื่อนเสื้อสามารถบอกอีกว่า ต้องเหวี่ยงเท้าขนานพื้นดิน ใช้หลังเท้าเตะตรงกลางลูก ถ้าเตะใต้ลูกลูกจะลอยสูงพ้นตาข่าย  ถ้าเตะลูกคอร์นเน่อร์ต้องเตะให้ลูกโด่งมาตกตรงจุดยิงลูกโทษ ฉันฝึกดูลูกนี้เตะได้ไม่ยาก ผู้สอนและคนอื่นชมว่า…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มือซ้ายกอดเธอ ไว้กับอกตรงหัวใจอย่างทนุถนอมและแสนรัก ไปกับฉันเถอะ เราไปสนุกด้วยกัน ฉันและเพื่อนมีความสุขมากที่ได้เตะเธอ  ฉันอายุ  17  ปีแล้วนะ กำลังเรียนชั้น ม.5 อดทนสักนิดได้ไหม อย่าโกรธฉันเลย  ฉันอาจดิบ เถื่อน แต่ไม่ถ่อย เงยหน้าขึ้นซิ ตอบฉันได้ไหมว่า ไม่โกรธ  เธอไม่ตอบได้แต่นิ่งสงบ ซบกับอกหนุ่มบริสุทธิ์ใสอย่างฉัน...ใช่ !  เธอเป็นเพียงฟุตบอลลูกเก่าๆ รุ่นเก่า แบบมียางใน  เวลาเล่นต้องสูบลมให้เต็มก่อน แล้วใช้หนังยางรัดตรงหัวจุก หัวจุกนี้เป็นท่อยางเล็กๆ สำหรับสูบลมเข้าไป แล้วมัดให้แน่น พรรคพวกช่วยกันจับมันยัดเข้าตรงปากช่องยางนอก…