Skip to main content


ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

 

ความตั้งใจครั้งแรก

อยากเล่าถึงสภาพริมฝั่งน้ำแม่ปิง ถอยหลังสักหนึ่งชั่วอายุคน โดยตั้งชื่อว่า “ ริมฝั่งแม่น้ำปิง.” แต่อยากใช้ชื่อที่เป็นร่องรอยอดีตว่า “ริมฝั่งแม่ระมิงค์.” แต่ไปตรงกับชื่อนิยายดังของคุณ อ.ไชยวรศิลป์ นักเขียนสตรีชาวเหนือ(พ.ศ.2461-2533) เจ้าของรางวัลศรีบูรพา และเป็นนักเขียนเกียรติยศช่อการะเกด เพื่อความเหมาะสมและด้วยความเคารพ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ ฟากฝั่งแม่ระมิงค์.”

คนเหนือจะเรียกแม่น้ำ

โดยใช้คำว่าน้ำนำหน้า เช่น เรียกแม่น้ำปิง ว่า น้ำแม่ปิง น้ำแม่ปิงเดิมชื่อ น้ำแม่ระมิงค์ ได้ค้นหาจากหนังสือหลายเล่ม ยังไม่มีคำอธิบายว่า น้ำแม่ระมิงค์ มีที่มาอย่างไร คำว่า “ระมิงค์.” แปลว่าอะไร สืบค้นจากกูเกิลยัง

ไม่มีคำอธิบายที่มีน้ำหนักเพียงพอ ข้อมูลจากกูเกิลเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อยุติของคำตอบ...น้ำแม่ระมิงค์  เรียกอีกชื่อว่าเมืองพิงค์ แต่คนเมืองล้านนาจะออกเสียงพยัญชนะ พ เป็น ตัว ป จึงเรียกใหม่ว่า เมืองปิง ต่อมาเรียกว่า “น้ำแม่ปิง.” แพร่หลายจนปัจจุบัน

 

จุดต้นกำเนิดน้ำแม่ปิง

เป็นลำธารน้ำเล็กๆไหลออกมาจากภูเขาเรียกว่า “ขุนปิง.” อยู่บนยอดดอยถ้วย บ้านเมืองนะ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว เชียงใหม่ ผู้เขียนเคยเดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนบ้านเมืองนะ ถามผู้บริหารโรงเรียนถึงตำแหน่งดอยถ้วย ท่านบอกว่าต้องเดินทางจากโรงเรียนไปตามสันเขาอีก 10 กิโลเมตร ทางยากพอสมควร ต้องชวนชาวบ้าน 2-3 คนนำทาง นำอาหารไปด้วย หากไปจริงต้องบอกท่านล่วงหน้า จะได้ชักชวนชาวบ้านให้เตรียมตัว เมื่อเป็นอย่างนี้ การรอคอยจังหวะเหมาะๆ เพื่อเห็นขุนปิงจึงเลื่อนไปเรื่อยๆ จนวันนี้ผมไม่ได้เห็นต้นน้ำปิงกับตา น่าเสียมาก

ช่วงอายุคนนั้น

หมายถึงคนเกิดมาใช้ชีวิตช่วงเวลาหนึ่งแล้วสิ้นชีวิต หลายคนเสียชีวิตต่างกัน จึงขอกำหนดอายุเฉลี่ยเป็น 50 ปีแทน 1 ชั่วอายุคน ขอถอยหลังไป 50 ปี เริ่มย้อนหลัง พ.ศ.2556 จึงตรงกับปี พ.ศ.2506

 

พ.ศ.2506

เวลา 2 ทุ่มเศษ บนถนนวิชยานนท์ ข้างสถานกงสุลอเมริกัน นับแต่หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่เลียบฝั่งน้ำแม่ปิงไปทิศใต้ จนถึงตลาดต้นลำไย เป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่ง มีรอยเท้าคนหลายรุ่นหลายยุคประทับซ้อนกันไว้ ยาวนานเท่าตำนานน้ำแม่ปิง  เทียบเท่าเมืองนครพิงค์ที่อายุได้ 717 ปีในปี พ.ศ.2556

เวลา 2 ทุ่มเศษในปีพ.ศ.2506 นั้น

นับว่าดึกแล้ว ถนนริมฝั่งน้ำแม่ปิง ข้างสถานกลสุลอเมริกันค่อนข้างเงียบ นานๆจะมีรถผ่านไปมาสักคัน

ผมเห็นรถถีบเปิดไฟสวนกัน 2 คัน นานๆจะมีรถจักรยานยนต์ผ่านไปทางเจดีย์งาม ความเร็วแค่เกียร์สามเท่านั้น เครื่องยนต์ส่งเสียงดังพอประมาณเหมือนคนไม่ทุกข์ร้อนเรื่องใด ผมเดินเล่นกินลมบนทางเท้าคอนกรีตริมฝั่งน้ำแม่ปิง เพื่อนเดินตามมาห่างๆ ผิวน้ำแม่ปิงเป็นคลื่นเล็กน้อย สะท้อนแสงนีออนจากสะพานนครพิงค์ข้างหน้าแวมวับ สายน้ำไหลไปมิหยุดพักทักทาย เงียบสงบ เคลื่อนผ่าน ดำรงอยู่ไม่รู้วันเวลาสิ้นสุด

 

รถสามล้อถีบคันหนึ่ง

เคลื่อนมาถึงคอสะพานนครพิงค์  มองเห็นคนขับอยู่สูงกว่าระดับสายตา กำลังไต่ลงมาตามถนนข้างกงสุลอเมริกัน ชายสามล้อดีดกระดิ่งส่งเสียงดังกิ๊งก่องๆ พาสามล้อคู่ชีพเคลื่อนลงสู่ถนนที่ต่ำกว่าเดิม เสียงเพลงดังขึ้น เขาดีดกระดิ่งรับให้จังหวะ เสียงเพลงกังวานขึ้นเต็มเสียง บอกถึงความสบายอกสบายใจ เป็นบทเพลงที่ดังมากยุคนั้น ผู้ร้องคือ ทูล ทองใจ(พ.ศ.2472-2538) นักร้องลูกทุ่งแนวหวานเศร้า ไม่เล่นลูกคอ เน้นออกเสียงชัดเจน โดยเฉพาะออกเสียงตัว ร ชัดมาก.

 

                                              ...................................................................

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…