Skip to main content

 

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

 

ราวปี พ.ศ.2506
พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน ตอนเช้าและตอนเย็นจะมีคนเมืองเชียงใหม่ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ แวะไปดูน้ำแม่ปิงกำลังสูงขึ้น บ้างตกจ๋ำ(ยกยอ)ตามข้างหลักรอ 2-3 ราย เห็นรถราผู้คนกระจายตามฝั่ง นับแต่หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ ผ่านกงสุลอเมริกัน ไปจนถึงร้านวิศาลบรรณาคาร(ปัจจุบัน พ.ศ.2556 อยู่ติดกับร้านเซเวนอีละเวน) ซึ่งอยู่ใกล้ตลาดต้นลำไย

ริมฝั่งน้ำแม่ปิงนี้
ใช้ไม้ซุงเป็นต้นปักไว้ เว้นระยะห่างเล็กน้อย ตีไม้ยึดระหว่างต้นซุง เรียกไม้ซุงที่ถูกตียึดไว้ว่าหลักรอ เพื่อป้องกันดินริมฝั่งพังทลาย เมื่อฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำแม่ปิงสูงขึ้นเรื่อยๆ เห็นน้ำขุ่นเป็นสีอิฐ มีฟองฟอดเหลืองลอยบนผิวน้ำ ยังมีเศษไม้และอื่นๆลอยมา เกิดคลื่นที่ผิวน้ำเป็นน้ำวนกระจายทั่ว ตรงเจดีย์งาม(เจดีย์กิ๋วหรือเจดีย์ขาว)นั้นจะตั้งอยู่ริมน้ำแม่ปิงและอยู่ตรงทางโค้งที่กระแสน้ำไหลปะทะพอดิบพอดี กระแสน้ำแม่ปิงจึงไหลเซาะตลิ่งรุนแรง ส่งผลให้เจดีย์งามทรุดเอียง ชาวนครพิงค์โจษจันกัน ต่างใจหายใจคว่ำเกรงเจดีย์เก่าแก่คู่เมืองจะทรุดลงจมน้ำ เสียงวิจารณ์เชิงวิตกกังวลดังทั่วเมือง จะป้องกันอย่างไร ระดับน้ำแม่ปิงก็สูงขึ้นทุกวันและทำท่าจะล้นฝั่ง ทุกฝ่ายพุ่งไปที่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยคณะเทศมนตรีต้องเร่งแก้ไขเพราะรับผิดชอบโดยตรง

เหตุการณ์ค่อยคลี่คลายด้วยตัวมันเอง
น้ำแม่ปิงค่อยลดระดับลงจนผ่านพ้นฤดูฝน เจดีย์งามผ่านการพังจมลงในน้ำแม่ปิงไปได้หวุดหวิด หลายฝ่ายหายใจโล่งออก โดยเฉพาะชาวเมืองนครพิงค์ทุกบ้านทุกคน หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เช่น ชาวเหนือ คนเมือง และกระแสเสียงชาวเมืองต่างเร่งให้ทุกฝ่ายของบ้านเมือง ต้องรีบป้องกันรักษาเจดีย์งามจากน้ำท่วม โดยวิธีการถมตลิ่งริมฝั่ง ซ่อมแซมองค์เจดีย์งามให้ตั้งตรง แข็งแรงปลอดภัย แน่นอนเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพใหญ่


ราวปี พ.ศ.2507
มีการสร้างถนนคอนกรีตและถมดินริมฝั่งน้ำแม่ปิง ให้มีระดับสูงกว่าถนน ตั้งแต่หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ล่องใต้จนถึงร้านวิศาลบรรณาคาร กลายเป็นทางเท้าคอนกรีต มีราวเหล็กระดับหน้าอก ท่าน้ำปรับเป็นบันไดคอนกรีต สร้างเสร็จนึกว่าจบ มีปัญหาตามมา ดินที่ใช้ถมทางเท้าริมแม่น้ำยุบตัวลง หากเรายืนอยู่ ณ ที่นั้น ทดลองกระทืบเท้า หรือเคาะพื้นดูจะมีเสียงก้องดังโปกๆ แสดงว่าใต้เท้าเรามันกลวง ผมและใครๆบอกต่อกันและทดลองดู มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ สาเหตุคงมาจากน้ำเซาะ ดินถมไม่มากและแน่นพอ คณะเทศมนตรีนครเชียงใหม่ต้องเหงื่อตก ใช้เวลาพักหนึ่งถมดิน หิน ทราย จนอยู่ตัว จึงมั่นคงแข็งแรงดังปัจจุบัน


ถนนและทางเท้าริมตลิ่ง
ที่มีระดับสูงกว่าเดิม ได้ช่วยป้องกันน้ำแม่ปิงล้นฝั่งแล้วข้ามถนน ตั้งแต่หน้าเทศบาลยาวถึงร้านวิศาลบรรณาคาร ร้านนี้อยู่ใกล้ตลาดต้นลำไย  น้ำแม่ปิงที่ล้นฝั่งยามฤดูฝน ไม่สามารถข้ามถนนสู่ทิศตะวันตก ไหลเข้าซอกซอยทะลุถึงถนนราชวงค์ แล้วไหลไปพบกับน้ำแม่ข่าที่ขึ้นสูงรอรับ คล้ายดังสาวน้อยบอบบางผู้มั่นคงและอดทน เฝ้ารอชายคนรักร่างใหญ่จะกลับมาหาตามสัญญา...เหตุนี้จึงทำให้หมู่บ้านผมในซอยซิ้นเชียงหลีย่านถนนราชวงค์ ไม่มีน้ำท่วมใหญ่อีกต่อไป จะท่วมก็เพียงน้ำแม่ข่าที่มีปริมาณไม่มากนัก.

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…