Skip to main content


                                                                                                                ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

 

  4.
เช้าวันหนึ่ง  หลังจากพระจำนวน 5 รูปวัดพระบาทอุดม  กลับจากรับบิณฑบาต  ฉันอาหารเสร็จแล้ว  พระต่างแยกย้ายกลับกุฏิของตน  พระดอนกำลังนั่งพักผ่อน  ใจล่องลอยคิดถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา  เรื่องราวพม่ายกทัพมารุกรานเมืองฝาง ตั้งแต่สมัยปู่ยาตาทวด  พระเจ้าอุดมสิน และพระนางสามผิว  ต้องจำพระหทัยกระโดดบ่อน้ำซาววา  เพื่อป้องกันบ้านเมือง  พอทำใจให้สงบบ้างได้แล้ว  นึกถึงงานต้องทำในวันนี้  การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง  เช่น  ผ้ายันต์  ตะกรุด  ฯลฯ เพื่อมอบให้แก่ศรัทธาญาติโยมซึ่งมาทำบุญที่วัด  พลันความคิดต้องสะดุดลง  เมื่อได้ยินเสียงพระรูปหนึ่ง  ตะโกนเรียกเสียงดังร้อนรนที่หน้ากุฏิ

“ ครูบาๆ    มีคนบาดเจ็บหนัก  โดนฟันเลือดอาบ  หายใจแขม็บๆ  ไปช่วยกำเต๊อะ.”

“ คนเจ็บอยู่ไหน .”  พระดอนรีบลุกขึ้น  จัดสบงจีวรให้เรียบร้อยเดินลงบันไดมาหาพระรูปนั้น

“ อยู่ในวิหาร  หลวงปู่กำลังดูแลอยู่  เปิ้นหื้อผมมาตามครูบาไปช่วยฮักษา.”

“  ไปๆ !   พาไปเร็ว  เป็นคนตี้ไหนหือ .” พระดอนเดินเร็วตามพระที่นำหน้าสู่วิหาร

“ เป็นชาวเขา  ช่วยกันหามคนเจ็บข้ามห้วยข้ามดอยมา 2  คืน 1 วัน คนเจ็บตัวใหญ่มาก.”  พระที่นำหน้าพูดบอกขณะเดินมายังวิหาร

พอมาถึง  พระดอนสั่งให้หามคนเจ็บมาที่ศาลา  สั่งพระรูปอื่นและโขยมวัดช่วยกันถอดเสื้อคนเจ็บออก  ขยับขากางเกงให้ร่นขึ้น  ช่วยกันใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเนื้อตัวให้สะอาด

 

“ ครูบา   ช่วยหลานเฮาตวย  มันโดนทหารพม่ารุมฟัน แผลเต็มตัว  ฮือๆ...”

ญาติคนป่วยเป็นชายอายุราว 50 ปีเศษร้องไห้ฟูมฟาย  คนมาส่ง 3-4 คน  หน้าตาขะมุกขะมอมอิดโรย  นั่งยองๆล้อมรอบคอยดูแลคนป่วยอย่างเป็นห่วง  คนเจ็บรูปร่างสูงใหญ่กว่าคนธรรมดาราวศอกหนึ่ง  นอนสงบนิ่งหายใจระรวย  พระดอนตรวจดูบาดแผล  เห็นมีเลือดเกรอะกรังทั่วร่าง  บาดแผลกระจายไปทั้งหน้าและด้านหลัง  มีฉกรรจ์ 2 แผลที่หน้าอกและใต้สะบักซ้าย
 

“ โยมบ่ต้องตระหนกหื้อมากไป  อาตมาจะดูแลฮักษาเต็มที่ เจ้าเป็นมูเซอร์หรือกระเหรี่ยง .”

“ เป็นกะเหรี่ยงครูบา  หมู่บ้านเฮาอยู่ใกล้เขตพม่า ทหารพม่ามันจะเอาผ้าปิดหน้า  เข้ามาปล้น  นานๆครั้ง  หมู่เฮาบ่ทันฮู้ตัว.”

“ มันมากันกี่คน ?.”  เจ้าอาวาสสูงวัยถามขึ้นบ้าง  พลางปัดผมปกหน้าคนป่วยที่หายใจรวยรินออก

 “ มาราว  30 - 40  คน  มันเข้ามาปล้น  ฉุดผู้หญิงสาวของเฮาไป เจ้ากุยโน่คนนี้.”  กะเหรี่ยงอาวุโสตอบและชี้มือไปยังคนเจ็บ

 “ เข้าต่อสู้  มันพอมีฝีมือ  ทหารพม่าแตกกระจาย  หัวหน้ามันสั่งให้ รุมเจ้ากุยโน่ มันขี่ม้าล้อมเจ้ากุยโน่ไว้แล้วพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกัน  สู้กันพักเดียวเจ้ากุยโน่ได้ล้มลง  มันเผาบ้าน 3-4 หลัง  ฉุดผู้หญิงไป 2 คน   คนหนึ่งกำลังจะแต่งงานกับข้า  มันเหมือนฉุดหัวใจข้าไปตวย  ยังบ่ฮู้ เป็นตายอย่างใด? โอ  !  เจ้ามีนะของข้า ฯ.” 
 

กะเหรี่ยงหนุ่มกำลังจะได้เป็นเจ้าบ่าวพูดกับกะเหรี่ยงอาวุโส  ก้มหน้าใช้มือปาดน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้น  ชวนให้เวทนาหดหู่

“ อาตมาไปเอายาก่อนเน้อ.”  พระดอนรีบสาวเท้าไปกุฏิ  กลับมาพร้อมยาสั่งโขยมและพระอีกรูป
“ เอาเกลือเม็ดแช่น้ำในขัน  แล้วล้างหื้อสะอาด  เทน้ำทิ้ง  เติมน้ำใหม่ลงไปเอาผ้าชุบน้ำเกลือเช็ดตามบาดแผล  ทำความสะอาดก่อน.” พระอีกรูปขมีขมันทำตามรวดเร็ว 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…