เทวฤทธิ์ มณีฉาย
ข้อถกเถียงว่าด้วยเรื่องของประเด็น 1. สู้หรือซ้อม 2. ชัยภูมิ ไม่ใช่รายแรก เดือนที่แล้วก็มีเหตุวิสามัญแบบนี้ 3. เงินจากขายยาบ้าหรือกาแฟ 4. ขนยาหรือโดนยัด 5. กล้องวงจรปิดดทำไมไม่เปิด 6. ลาหู่ และผลกระทบในช่วงสงครามยาเสพติด-โดนคุกคามหนักถึงชีวิต และ 7. ชาวบ้านกับ จนท. ทะเลาะกันบ่อยจนไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่เรื่องที่ทำกินยันโพสต์คลิปในเฟซบุ๊ก
Mister American
“สิ่งที่เป็นความจริง เราไม่จำเป็นต้องเอามาพูดกันก็ได้ เราเอาเรื่องดี ๆ มาพูดกันดีกว่า” (1) คำพูดจากรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมท่านหนึ่งที่พูดในระหว่างเหตุการณ์แบนหนังเรื่องหนึ่งในปี 2554 ที่กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อมีคนบอ
Hit & Run
ภาพจากเว็บบอร์ด pantipจันทร์ ในบ่อ เชื่อว่าหลายคนคงได้ชมรายการตีสิบเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเชิญ ‘คุณต้น' อดีตนักร้องวง ‘ทิค แทค โท' บอยแบนด์ไทยสไตล์ญี่ปุ่นรุ่นแรกๆ ที่โด่งดังราวสิบปีก่อนมาออกรายการ เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่สังคมเรื่องผลเสียจากการใช้ยาเสพติดคุณต้นสูญเสียความทรงจำและมีอาการทางสมองชนิดที่เรียกว่า ‘จิตเภท' จากการใช้ยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและยานอนหลับชนิดรุนแรง จนหลายปีมานี้เขาได้หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงและจดจำใครไม่ได้เลย คุณแม่เคยสัญญากับคุณต้นไว้ว่า หากอาการดีขึ้นจะพามาออกรายการตีสิบอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องราวในอดีต เพราะคุณต้นและเพื่อนๆ เคยมาเป็นแขกอย่างสนุกสนานในสมัยที่วง ‘ทิค แทค โท' ยังโด่งดัง เวลาผ่านไปคุณแม่และครอบครัวยังดูแลคุณต้นเป็นอย่างดีเสมอมา วันนี้คุณต้นจดจำคนรอบตัวได้และความทรงจำในอดีตเริ่มกลับมามากแล้ว คุณแม่จึงติดต่อมาที่รายการตีสิบเพื่อให้คุณต้นมาออกรายการอีกครั้งเรื่องราวของคุณต้นสามารถเป็นบทเรียนให้ใครหลายๆ คนได้อย่างแน่นอน แต่กระนั้นสิ่งที่ชวนตั้งคำถามกลับเป็นวิธีการนำเสนอของรายการตีสิบมากกว่า แม้ว่าการพูดคุยหรือการสัมภาษณ์โดยตรงจะเป็นจุดเด่นของรายการนี้ และเป็นวิธีการนำเสนอแบบหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเข้าถึงผู้ชมและมีความน่าสนใจสูง แต่การพูดคุยก็มีความละเอียดอ่อนในตัวมันเองอย่างยิ่ง อย่างที่เคยมีกรณีตีศอกฟาดปากกันมาแล้วในการสัมภาษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพที่ผ่านมาเมื่อมีคำถามระคายหู และยิ่งสำหรับคุณต้นซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากบทเรียนของอดีตแล้ว การนำเสนอต้องยิ่งละเอียดอ่อนระมัดระวังอย่างสูง แต่รายการตีสิบเทปนี้ดูเหมือนจะละเลยรายละเอียดของ ‘ความเป็นมนุษย์' ไปมาก เมื่อรายการเหมือนไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การพูดคุยแต่เพียงเป็นการจับเอาคุณต้นมานั่งออกโทรทัศน์เพียงเพื่อบอกและย้ำแก่สาธารณะตลอดเวลาว่า คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ‘ไม่ปกติ' คุณต้นจึงถูกทดสอบจาก วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ผู้ดำเนินรายการตลอดเวลาเพื่อยืนยัน ‘อาการที่ดีขึ้น' เท่านั้น และทั้งที่ผ่านไปได้หลายคำถาม แต่เมื่อคำถามสุดท้ายคุณต้นไม่สามารถตอบโจทย์การคิดเลขในใจได้ถูก เทปการสัมภาษณ์ก็ไม่ได้ตัดออกทั้งที่สามารถทำได้โดยไม่ได้ทำให้เนื้อหาสาระเสียแต่อย่างใด รายการกลับปล่อยความผิดพลาดของคุณต้นออกมาสำหรับคนดูรายการเป็นไปได้ว่าคงรู้สึกสะท้อนใจไม่น้อย แต่สำหรับคุณต้นแล้วการทดสอบต่างๆ ออกรายการโทรทัศน์มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย และที่สำคัญการทดสอบนั่นเองก็คือสิ่งที่จะชี้นำให้สังคมตัดสินคุณต้นให้มีอาการไปมากกว่า ‘ความเป็นมนุษย์' ที่คุณต้นเป็น คุณต้นอาจเป็นคนๆ หนึ่งที่มีอาการผิดปกติที่สมองจริง แต่ที่สำคัญคือ คุณต้นยังเป็นมนุษย์เหมือนทุกๆ คน ซึ่งมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดมาก็ไม่สมควรถูกทดสอบใดๆ จากสาธารณะว่า เขาปกติหรือไม่ปกติกว่าคนอื่นหรือไม่ ส่วนสิ่งที่สังคมควรทำคือเรื่องการเปิดโอกาสต่างหาก แม้ว่าวันนั้นคุณต้นดูเหมือนยิ้มและตอบคำถาม แต่หลายครั้งคุณต้นก็ขมวดคิ้วและมีสีหน้าขรึม ยกมือลูบใบหน้าครุ่นคิด ในความเป็นจริงเราไม่รู้เลยในช่วงเวลาที่คุณต้นกำลังออกรายการหรือกำลังถูกทดสอบ คุณต้นกำลังเครียดหรือไม่ เหมือนกับครั้งหนึ่งในอดีตที่คุณแม่เล่าว่าคุณต้นเป็นคนร่าเริง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ชอบเก็บงำ บางที ณ เวลานั้น คุณต้นก็อาจกำลังเก็บงำอะไรอยู่ในใจมากกว่าที่เราเห็นในจอโทรทัศน์ไม่กี่นาทีก็ได้ การที่คุณแม่ของคุณต้นมีความหวังดีต่อสังคมและคุณต้นโดยเป็นผู้ติดต่อมาทางรายการด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง แต่ความรับผิดชอบในด้านรูปแบบการนำเสนอที่ไม่ควรลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์นั้นน่าจะเป็นความรับผิดชอบของทางรายการที่มีประสบการณ์มากกว่า การหวังเพียงการใช้อารมณ์ที่ตรึงคนดูมาเป็นเครื่องมือในการคงเรทติ้งให้สูงไว้นั้นคงเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามกันต่อไปในอนาคต แม้ว่าเรื่องยาเสพติดจะเป็นอุทธาหรณ์แก่สังคมได้ก็ตาม แต่เชื่อว่าทางรายการที่มีสมองขนาดนี้น่าจะสร้างรูปแบบการนำเสนอที่ดีได้มากกว่านี้การเดินไปสู่เส้นทางยาเสพติดของแต่ละคนคงมีเหตุผลต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่กระตุ้นเร่งเร้าจนอาจพอฟันธงได้ก็คือ แรงบีบคั้นจากคนรอบข้างนั่นแหล่ะที่เป็นแรงผลักคนๆ หนึ่งให้เดินไปสู่ทางที่ตีบตันได้อย่างรุนแรงและหลังชนฝา ในทางเดียวกันรายการตีสิบเองอาจจะต้องทบทวนบทบาทตัวเองด้วยว่าบทสัมภาษณ์ไม่กี่นาทีในวันนั้นกำลังสร้างแรงบีบคั้นทางสังคมให้คนๆ หนึ่งไม่แตกต่างไปจากที่สังคมกำลังผลักใครบางคนไปสู่ปลายขอบเหวอันมืดมิดอยู่หรือไม่ สุดท้ายนี้ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณต้นและคนอื่นๆ ไม่ว่าใครที่กำลังเผชิญแรงบีบคั้นรอบด้านจากสังคม ขอให้ทุกคนจงแปลเปลี่ยนมันเป็นความสำเร็จเหมือนกับที่ จอห์น แนช เคยทำได้ หากใครเคยดูหนังเรื่องA Beautiful Mind คงทราบว่าเป็นหนังที่สร้างจากบางมุมชีวิตของเขาซึ่งเป็นผู้มีอาการทางสมองชนิดจิตเภทแบบเดียวกับคุณต้นเป็น แต่ในที่สุด จอห์น แนชก็ฟันฝ่าข้อจำกัดของตนเองจนสามารถเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และยังคิดทฤษฎีเกมจนคว้ารางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์มาได้ ก้าวต่อไป..ก้าวต่อไป ครับ