dinya
ช่วงนี้มีโอกาสได้เห็นสายรุ้งบ่อย เรียกว่าวันเว้นวันก็ว่าได้ เวลาเห็นรุ้งจะคิดว่าเป็นวันดีๆ เพราะว่ากันว่า ทุกแห่งทุกหนนั้นมีรุ้งเกิดขึ้นเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะยืนในตำแหน่งที่มองเห็นหรือเปล่า บางคนบอกว่า รุ้งตัวเดิม หากเรายืนอยู่คนละมุมเราจะเห็นแสงแตกต่างกัน เหมือนเป็นรุ้งคนละตัว ดังนั้น ธรรมชาติได้ทำให้เราทุกคน มีรุ้งของตัวเอง ที่มองเห็นเฉพาะตัว ไม่มีทางเหมือนกันนั่นเอง ตั้งแต่เด็กๆ เราเห็นรุ้งมี 7 สี ไล่จาก ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง พอโตมาถึงรู้ว่า รุ้งมีสีเยอะมากๆๆ ไล่ตั้งแต่สีม่วงไปจนถึงสีแดง แต่เราเห็นเฉพาะสีหลักๆ อย่างที่รู้กันว่ารุ้งธรรมชาตินั้นเกิดหลังฝนตก และมีแดดออก และปรากฏอยู่ด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เวลาจะมองหารุ้งเลยต้องหันหลังให้ดวงตะวันเสมอ ซึ่งกระบวนการเกิดรุ้งก็คือแสงเดินทางไปหาหยดน้ำ หักเหผ่านตัวกลางจากอากาศสู่น้ำ เกิดแสงสะท้อนภายในหยดน้ำที่โค้งและมีผิวเหมือนกระจก แสงเลยหักเหผ่านหยดน้ำมาสู่อากาศอีกครั้ง ยังไงเสีย ทุกครั้งที่ได้มองรุ้ง ผู้เขียนรู้สึกว่าช่างสวยเหลือเกิน แต่ละครั้งมีแถบกว้างแคบไม่เหมือนกัน ลักษณะวงบางครั้งเล็ก บางครั้งใหญ่ แถมบางทีก็ออกมาไม่ครบวง เหมือนถูกหั่นครึ่งบ้าง หรือสลับกลับหัวเป็นโค้งหงายเหมือนพระจันทร์บ้าง จากชอบมองก็เปลี่ยนเป็นสงสัยว่า "รุ้งมีกี่แบบกันแน่?" และเริ่มสนุกกับการเฝ้ารอสายรุ้งว่า จะต่างไปจากวันอื่นอย่างไร แถมยังมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชวนกันคุยบ่อยเรื่องสายรุ้ง ถ่ายรูปมาแลกเปลี่ยนประจำ เสียดายที่ถ่ายรูปไว้ไม่สวย หรือเห็นได้ไม่ชัด บันทึกเรื่องรุ้งตอนนี้เลยขอยืมภาพของคนอื่นมาประกอบไปก่อนนะคะ