แสงดาว ศรัทธามั่น
ล ม ห น า ว เ ห นื อ พั ด โ ช ย ม ายามต้องไล้ผิวกายร้อน ที่รุ่ม ก็ คลายกลิ่นอาย เหมันตฤดู มิรู้เลือน น ก น้ อ ย ๆ สีเหลืองเรืองเรื่อโบยบินทุกแหล่งหล้ามิรู้หนโผร่อนจับเกาะกิ่งก้านต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฎร์ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว – ตามไล่ทักทายกันโ อ ... ก็นานนักแล้วซิหนอที่พวกเจ้ามิได้มาพบกัน! ณ เบื้อง ฟ้าบนด ว ง ต ะ วั น สาดแสงแรงกล้า น ก พิ ร า บ ข า ว พราวอันมิถ้วนนับสะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อน ... ราวจักข่ม คคนานต์พราวปีกขาว สะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อนเริงรำร่อนจับเกาะกอดโดมแดนธรรม... ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์โ อ !... ดูช่างงามเกลื่อนกลาดไปทั่วดินแดนเสรี ... เ จ้ า น ก เ ส รี !แ ล ณ ลานโพธิ์ เล่าใ บ โ พ ธิ์ ก็ พลิกพลิ้วระริกริก ระเริงร่า แกร่งกล้า – กล้า โห่ร้องขานรับกันกรูกราว – กรูเกรียวงใ บ โ พ ธิ์ ก็โห่ร้องขานรับ กัน กรู กราว กรูเกรียวยามเมื่อพระพายรำเพยพัด--- ยัง เย็นยะเยืยบเยือกแห่ง ส า ย น้ำ เ จ้ า พ ร ะ ย า เล่าแ ม่ เ จ้ า ก็ ถ ะ ถั่ ง หลั่งไหลอันมิสุดสิ้นโหม คลื่นอย่าง ครื้นเครง ทุกวัน – คืน มิรู้รา – มิรู้เลือนโ อ !... สามสิบสี่ปี – สิบสี่ตุลาฯ !บ า !... สามสิบเอ็ดปี – หกตุลาฯ!ยังจำได้ ... ยังจำได้มิรู้ลืม – มิรู้เลือนไม่ โกรธ --- ไม่ เกลียดไม่ เคืองเคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ใดๆต่อไปอีกแล้ว!---- ใ ห้ ก า ล เ ว ล า วั ด คุ ณ ค่ า !---- ใ ห้ ธ ร ร ม ช า ติ ชี วิ ต จิ ต วิ ญ ญ า ณ ตั ด สิ น !โ อ้ ... 14 ตุลาฯ 16 อา... 6 ตุลาฯ 19 พั น ธุ์ พื ช เ ดื อ น ตุ ลาฯ !!! ฉั น รั ก เธ อ ฉั น รั ก เ ธ อ + + + + + + + + + + + + + + + + + + แด่.... ประชาชน นิสิตนักศึกษา แลผองเพื่อน เดือนตุลาฯ ผู้หยัดยืนในอุดมการณ์ที่งดงามเป็น นิรันดร์ และแด่ คนเดือนตุลาฯ ที่ ดูเหมือน เปลี่ยนสี แปรธาตุ ไปซะแล้ว เมื่อถูกคลื่นอ๓ิ มหาบริโภคทุนนิยม – สามานย์สุดโต่ง สาดซัด ไป อย่างไร้ชีวิตชีวา ฯลฯ กระทั่งรุกราน รากเหง้าชีวิตประชาชนแด่.... พี่น้องประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยครา “พฤษภาทมิฬ ปี 35”แด่.... พี่น้องประชาชนที่ต่อสู้เพื่อรากเหง้าวิถีชีวิตของแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง... พรบ. ป่า ชุมชน การต่อต้านโรงงานไฟฟ้า – ถ่านหิน การสร้างเขื่อน การระเบิดเกาะแก่ง ฯลฯแด่.... นักธุรกิจกินเมือง – การเมือง และรัฐบาลเผด็จการพลเรือนรัฐสภาสามานย์ทุกยุคที่อ้าง เสียงข้างมากโดยการซื้อเสียง (เราไม่โทษประชาชนดอก เพราะประชาชนไม่มีที่พึ่งมาทุกยุค) เพื่อเข้ามากอบโกยโกงกิน ปล้นชาติ ปล้นประชาชนอย่างน่าทุเรศ!แด่.... รัฐบาลและเผด็จการทหาร ค.ม.ช พวกคุณลงจากเวทีได้แล้ว!แด่.... คารวะแด่พี่น้องประชาชนพม่า (พระสงฆ์ แม่ชี นักศึกษา ประชาชน ฯลฯ) ที่ต่อสู้กับ รัฐบาลเผด็จการทหารฟัสซิสม์ “สล็อก” หฤโหดแด่.... พี่น้องประชาชนทั่วโลกที่กำลังต่อสู้ เพื่อรากเหง้าวิถีชีวิตของตนและของโลกโดยองค์รวม และกำลังต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการในประเทศสมมุติของตัวเอง ฯลฯแด่.... ฯลฯ ..... ฯลฯ ...... ฯลฯ
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1)จักรวาลอวยพรชัยณ ยามราตรีกาลดวงดาวเดือนพราวพร่างบนทุ่งฟ้าวิบ วิบ วับ วับ เปล่งประกายทอแสงเจิดจ้าอวยพรชัยแด่โลก ชีวิต!แล ณ ยามอรุณรุ่งดวงตะวันสาดแสงสีทองส่องโลกหล้าวิหคนกกามวลสรรพสิ่ง – สรรพชีวี...เริงระบำรำร่ายฟ้อนอวยพรชัยแด่ผองเพื่อนมนุษยชาติ!ณ คืนวันแห่งการสัปประยุทธ ต่อสู้ด้วยอหิงสา ศานติวิธีพี่น้องม่าน พี่น้องชนเผ่าทั้งผอง...แล สตรีเหล็ก “ออง ซาน ซูคยี”รวมทั้งผองเพื่อนพี่น้องร่วมโลกร่วมแผ่นดินแห่งดาวโลกดวงนี้ต่างคล้องแขนร่วมเดินทางเปล่งร้องขับขานบทเพลงแห่งชัย...ชัย...ชัย...ชัย ! ดูรา...ภราดา...ภราดายลดูด้วยประกายดวงตาปลื้มปิติ...ดูซี...ดูซี...“มองดูความจริงซี”พระคุณท่าน แม่ชี...พระสงฆ์องคเจ้าเดินจงกรม สวดมนต์ให้ประชาชนแลร่วมขับขานบทเพลงสวดแห่งเสรี!ท่านเป็นทัพหน้าพร้อมประจญประจัญบาน กับหมู่มาร อสูร ทุกผู้ !สาเหตุ เป็นด้วย เพราะ...“สุดแสนที่จักทนทานได้”ท่านจึ่งพร้อมประจญประจัญบานกับมารปีศาจ อสูรด้วยอหิงสา ศานติวิธี เมตตาธรรมกรุณา ปราณี แลยืนหยัดมั่นเถิดเหล่าพี่น้องเผด็จการฟัสซิสต์สลอร์คแห่งมิยันม่าคุณจงลงจากเวทีที่คุณเล่นละครจอมปลอมมานานแสนนานแล้ว !จงลงจากเวทีอันแสนทุเรศซะดีๆ หมดเวลาของเธอแล้ว !หมดเวลาของเธอแล้ว !โลก เอกภพ จักรวาล อวยพรชัยให้ประชาชน...มหาประชาชน จงเจริญ ! (2) หัวใจจิตวิญญาณมนุษยชาติมิเคยตาย !เผด็จการท็อปบูททมิฬมิยันม่าร์ถ้าเธอจักเข่นฆ่าทำร้ายจับกุมคุมขังประชาชน...กระทั่งเข่นฆ่าทำร้ายพระสงฆ์องคเจ้า !นั่นคือ บาปหนาที่เธอกระทำด้วยความโลภ โกรธ หลง ผลประโยชน์ของเธอเอง...Hello...เผด็จการฟัสซิสต์การท็อปบูททมิฬจงจำใส่ใจเอาไว้จนตาย...หัวใจจิตวิญญาณอันบริสุทธ์ของประชาชนมนุษยชาติมิเคยตายเธอผองนั่นแหละจักตายเอง !จงจดจำเอาไว้...หมู่มารทั้งผองจักตายเอง !มหาประชาชนจงเจริญ !เผด็จการจงพินาศ ! ด้วยพลังใจจากประชาชนชาวไทย แสงดาว ศรัทธามั่นหมายเหตุ : บทกวีชิ้นนี้เขียนขึ้นอ่านในงานชุมนุมภาวนาส่งกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวพม่าที่กำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ ลานหน้าอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย