Skip to main content

เคยได้ยินเพลงนี้มานานมาก แต่ไม่เคยรู้ว่าชื่อเพลงอะไร จนกระทั่งวันนี้ ผ่านไปพบมณีคลั่งเม็ดนี้หลายเวอร์ชั่น แน่นอนถ้าให้เลือกใครในพิงค์ฟรอยด์อิฉันขอเลือกฟังเดวิด กิลมอร์ เพราะชอบเสียงกีต้าร์โปร่งมากกว่ากีต้าร์ไฟฟ้า เนื้อหาเพลงเป็นสัญลักษณ์ ฟังอยู่หลายรอบ อ่านและตีความอยู่นานก็ตีไม่ออกว่าเพชรเม็ดนี้หมายความว่าอะไร เพชรที่บ้าคลั่ง!


เข้าไปเที่ยวในพี่กู (Google) ก็ไม่ผิดหวัง ได้ความรู้เกี่ยวกับวงโปรดอีกมากมาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับเพลงนี้ เป็นเพลงที่พวกเขาแต่งให้กับเพื่อนเก่าชื่อ Syd Barrett ผู้ก่อตั้งวงพิงค์ฟรอยด์ จนประสบความสำเร็จ แต่ Syd Barrett ก็ต้องหันหลังให้กับวงการเพลงไปเพราะปัญหาจากการใช้ยาแอลเอสดีซึ่งมีส่วนทำให้เขาสร้างสรรค์เพลงขึ้นมา และเมื่อดังมาก ๆ เขารับผลพวงจากความดังไม่ไหว จึงใช้ยามากขึ้น และทำให้ต้องลาจากวงไปในที่สุด


อยู่มาวันหนึ่งเขากลับมาหาเพื่อน ๆ แต่ไม่มีใครจำได้เพราะเขาอ้วนฉุ เพื่อน ๆ สะเทือนใจจึงแต่งเพลงนี้ขึ้นมาให้กับเขา พร้อม ๆ กับเพลง Wish you were here.


ว่ากันว่าเดวิดเริ่มต้นเพลงนี้จากโน้ตไม่กี่ตัวจนกลายเป็นเพลงยาวเหยียด


ขอเชิญฟังค่ะ




Remember when you were young, you shone like the sun.
Shine on you crazy diamond.


Now theres a look in your eyes, like black holes in the sky.
Shine on you crazy diamond.



You were caught on the crossfire of childhood and stardom, blown on the Steel breeze.
Come on you target for faraway laughter, come on you stranger, you legend,
You martyr, and shine!

You reached for the secret too soon, you cried for the moon.
Shine on you crazy diamond.


Threatened by shadows at night, and exposed in the light.
Shine on you crazy diamond.

Well you wore out your welcome with random precision, rode on the Steel breeze.
Come on you raver, you seer of visions, come on you painter, you piper,
You prisoner, and shine!



หมายเหตุ ภาพถ่ายชุดนี้ไม่ได้ถ่ายเองค่ะ ขอยืมเพื่อนที่หลงมาโหลดไฟล์ลงเครื่องเรา สวย

ดีก็เลยนำมาแจมด้วย ผลงานของเพื่อนชื่อ “เพ็ญสุดา ต้นเถา” ค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติมของเพลงนี้

เกี่ยวกับเพลง-ดนตรี http://topicstock2.pantip.com/topicstock/2007/01/C5027578/C5027578.html

เกี่ยวกับที่มาของเพลง http://jackpot329.spaces.live.com/Blog/cns!FECEF4BAD62F6B3!137.entry



บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…