Skip to main content


ติดพันจากแมวคราวที่แล้ว ตอนทำรูปก็พบว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยากนักในการปรับภาพในโปรแกรมโฟโต้ช็อปเอามาแนะนำกัน ภาพที่เราถ่ายนั้นบางครั้งองค์ประกอบของภาพก็ยังไม่สมบูรณ์นัก เราสามารถใช้คำสั่ง crop ในโฟโต้ช็อปได้ หรือคลิ้กที่เครื่องหมายที่เราทำลูกศรสีแดงชี้ไว้ แล้วลากที่ภาพ สร้างกรอบภาพขึ้นมาใหม่
จากตัวอย่างที่ยกมาให้ดูภาพเต็มคือทั้งหมด เมื่อเราลาก
crop ส่วนที่เป็นแถบสีดำรอบ ๆ ภาพ กรอบเล็กจะหายไปเมื่อเราดับเบิ้ลคลิ้ก

 

 

ที่เราใช้บ่อย ๆ ในการปรับแสงของภาพก็คือคำสั่ง Level ถ้าภาพมืดไปหรือสว่างไป เราเข้าไปที่เมนู Image เลือก adjustment และเลือก Level ตามภาพ

 

 

 

จากนั้นก็จะมีหน้าต่างใหม่ออกมาแบบนี้ จะเห็นเส้นกราฟ และลูกศรใต้กราฟ 3 อัน อันซ้ายสุดมีสีดำ อันกลางสีเทา อันขวาสุดสีขาว ถ้าภาพสว่างไปลากลูกศรสีดำมาทางขวา ภาพจะมืดลง ถ้าภาพมืดไปเราลากลูกศรสีขาวมาทางซ้ายมือ ภาพจะสว่างขึ้น จะเห็นว่าตอนลากลูกศรเส้นกราฟจะเปลี่ยนไปด้วยตามสภาพแสง และลูกศรสีเทาตรงกลางก็ขยับไปด้วย ลูกศรดำขาวเมื่อเราลากจะมีผลต่อภาพทั้งหมด แต่ถ้าขยับลูกศรสีเทาภาพจะไม่เปลี่ยนทั้งหมด ลองเล่นดูก็ได้ ลองประเมินแสงเงาจากสายตาของเราดูก่อน

 

 

 

ถ่ายรูปแมวหลับง่ายที่สุด (ฮา)

เจ้าโฟรโด้ หรือพี่โด้ของน้องอองคนดังที่หน้าหมอดู โด้เป็นแมวน่ารักหน้าหล่อ เวลาถ่ายรูปจะมองกล้อง ยอมให้ถ่ายแต่โดยดี จึงมีรูปโด้มากกว่าแมวตัวอื่นในบ้าน แต่ความยากอย่างหนึ่งของการถ่ายแมวที่มีขนสีขาวคือข้อจำกัดของกล้องดิจิตอล โดยเฉพาะกล้องคอมแพ็ค ตรงความละเอียดของขนสีขาวมักจะหายไป ตรงนี้รวมถึงสีขาวของอื่น ๆ ที่ควรมีเฉดสีอ่อนแก่ด้วย เช่น ก้อนเมฆ เป็นต้น

 

 

 

ดูรูปนี้เป็นตัวอย่าง แม้ว่าจะใช้กล้อง DSLR ใช้เลนส์คุณภาพดีแล้ว ความละเอียดบางส่วนก็หายไป ดูที่ลูกศรข้างบน จะเห็นเป็นสีขาวกระด้าง ขนแมวส่วนนี้หายไป ขณะที่ขนแมวที่ลูกศรด้านล่างยังอยู่ ภาพนี้อาจเกิดจากการวัดแสงที่ไม่พอดี เราอาจวัดแสงตรงที่มืดเกินไป ส่วนที่สว่างจึง Over แบบนี้ ขณะเดียวกันโด้ยังมีขนสีดำ เทา แซมอยู่ด้วย เมื่อกล้องประมวลผลในระบบออโต้ ก็อาจเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นมาได้ เพราะ contrast ต่างกันนี่คือข้อเสียของกล้องดิจิตอล ช่างภาพหลายคนจึงมักบอกว่ายังไงก็สู้กล้องฟิล์มไม่ได้ วิธีแก้ไขก็ทำได้ส่วนหนึ่งในโฟโต้ช็อปเช่นกัน ตามวิธีที่ยกมาข้างบนก็พอช่วยได้ แต่บางรูปก็ต้องมีวิธีการจุกจิกเพิ่มขึ้นมา


อยากบอกว่าที่เล่า ๆ มานี้ก็ถ่ายไปเล่นไปงมเข็มในโฟโต้ช็อปไปเหมือนกัน

 

 

 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…