Skip to main content
ในวงการนักอนุรักษ์ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักคุณลุงโชคดี ...!!!

ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณะ v4n กำลังเป็นที่รู้จัก ...!!!


แววตาอ่อนโยนหลังแว่นกรอบนั้นมองมาที่พวกเราอย่างสงสัย เส้นผมและหนวดเคราเส้นเล็กขาวโพลนเหมือนกับปุยฝ้ายแตกปุยทำให้คุณลุงโชคดีดูอ่อนโยนมากขึ้น ใต้ศาลาเอนกประสงค์กลางลานบ้านของสวนลุงโชค เด็กๆ รุ่นหลังอย่างพวกเรากำลังตามความคิดของคุณลุง


โชคดี ปรโลกานนท์แห่งเขาแผงม้า โดดเด่นขึ้นมาทันทีเมื่อเขาได้สร้างสีเขียวให้กับพื้นโลก พลิกภูเขาหัวโล้นที่ชาวบ้านแถบนั้นเคยเรียกกันติดปากว่า ‘ภูเขาไฟ' ให้กลายเป็นภูเขาเขียว


จากปี 2537 จนวันนี้ 15 ปี คุณลุงโชคดีทำให้กระทิงคืนป่า


จนวันนี้ ‘มาดูกระทิงที่เขาแผงม้า' ถือเป็นโปรแกรมเด็ดของการท่องเที่ยวในแถบอำเภอวังน้ำเขียว

‘เขาแผงม้า' เป็นชื่อเรียกเทือกเขาแห่งหนึ่งในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ตามลักษณะเฉพาะของมัน เทือกแผงม้าเคยเป็นป่าดงดิบชื้น มีต้นไม้ปกคลุมอย่างหนาแน่นในยุคพ่อแม่ยังหนุ่มสาวต่อเมื่อมีคนรุกเข้าจับจองเปลี่ยนป่าเป็นไร่


ป่าจึงเปลี่ยนไป ...

ทิวไผ่เป็นแนวครึ้ม คุณลุงโชค บอกว่า เมื่อการท่องเที่ยวกลายเป็นจุดขายทำให้มีคนเข้ามาอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียวมากขึ้น

นักลงทุนมองเห็นช่องทางทำเงิน

 

วังน้ำเขียวในยุคแรก ถูกยกย่องให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์แดนอิสาน

ยุคต่อมา ถูกกล่าวขวัญให้เป็นแหล่งโอโซนอันดับเจ็ด

จนวันนี้ วังน้ำเขียวกลายเป็นลมปราณแห่งอุษาคเนย์

ป๊าดท่อ!!! ลุงโชคคราง ทำเอาพวกเราหัวเราะก๊ากในอารมณ์ขันของแก

 

หลังจาก ป่าฟื้น การท่องเที่ยวกำลังก่อปัญหาใหม่ .. ราคาที่ดินสูง ชาวบ้านจึงขายที่ดินของตัวเองหรือไม่ก็เปลี่ยนไร่เป็นรีสอร์ทและต้อนรับทัวร์ทุกคณะ

ลุงโชคดีชี้ไปยังเด็กๆ กลุ่มหนึ่งนอกศาลาเอนกประสงค์

พ่อแม่ของเด็กๆ เหล่านี้ขายที่ขายทางกันหมดพอเงินหมดจึงไปเป็นคนสวนประจำรีสอร์ทใหญ่ในที่ที่เคยเป็นของตนเอง

!!!

 

ขอบคุณชาวคณะ v4nature ทุกคน

ที่ชวนไปทำแนวป้องกันไฟป่าที่เขาแผงม้า

 

 


กระทิงตัวนี้ ยืนต้อนรับทุกคนที่พร้อมอยากจะรู้เรื่องเขาแผงม้าอยู่หน้าสถานี



เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายพื้นความรู้ก่อนจะออกเดินป่าไปตามสถานีต่างๆ



ตามป้ายคับ



ความงดงามของกล้วยไม้ป่าระหว่างทางเดิน







คุณลุงโชคดี ปรโลกานนท์ ชาวบ้านธรรมดาแห่งเขาแผงม้า



รองเท้านารี ในสวนลุงโชค



ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า



ผู้เรียนรู้จะได้ก้าวเข้าสู่แต่ละสถานีเพื่อเรียนรู้วิถีแห่งเขาแผงม้า

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
สะพานมอญเป็นอีกที่เที่ยวยอดนิยมอีกที่ ,ที่คนส่วนใหญ่จะไป ข้อแรก ไปง่าย ข้อสอง สวยดี นอกเหนือจากนี้ ยังมีเรื่องราวของคนหลากหลายกลุ่ม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในวันที่บ้านชื่นใจเต็มไปด้วยสายหมอก ไอชื้นหนาก่อตัวเป็นหยดน้ำ เกาะตามร่องใบสีเขียวอ่อนของยอดหญ้า ... บนทางดิน ดอกปีบสีขาวร่วงเกลื่อนดินนุ่ม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
คนกลัวลิงจากหลายเหตุผล ?? จากหน้าตา ท่าทางที่เอาเรื่อง จากความซุกซน อยู่ไม่นิ่งและอารมณ์ปรวนแปร "อย่าเข้าไปใกล้มันนะ" คุณแม่ยื้อยุดมือลูกสาวที่ยื่นขนมสีหวานไปให้ ... ขณะกดชัตเตอร์ จ๋อบางตัวกระโดดเกาะหลัง ผมคิดว่า มันคงอยากรู้อยากเห็น  
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ลิง เรียนรู้การมีชีวิตจากคน ,เราเป็นบรรพบุรุษของลิงผ่านสายใยของวิวัฒนาการ ดวงตาใสแหน๋ว มองตรงมายังกล้วยและถั่วลิสงต้ม ,ไอติมปั่นสีแดงในมือเด็กน้อยถูกฉกไปดูดเลียคลายความร้อนจากอากาศยามเที่ยง ,ทั่วบริเวณพระปรางค์สามยอดแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานโต๊ะจีนลิงที่จัดเป็นประจำทุกๆ ปี
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้า รวมพลก่อนออกเดินทางไกล จะเห็นได้ว่าทุกคนยังสดใส ภาพนี้ถ่ายระหว่างรอรถไปส่งปากทางเข้าดงนาทาม รอยยิ้มใสใสกับผิวพรรณใสใสจะกลายเป็นสีแทนในอีกไม่ช้า  
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยาวไกล สายน้ำสีขาวหายเข้าไปในขุนเขา โขดหินและทิวป่า .. เหล่าผู้นิยมไพร ยังคงเดินทางไกล ,ยาวนาน จนเสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงพึมพำ “เพ่ ทามมายมันร้อนอย่างงี้” นายคนหนึ่งเอ่ย “ป่าอิสานไม่เหมือนป่าภาคเหนือ” พี่ลม นายกท้องถิ่นเอ่ยอย่างนิ่มนวล ก่อนออกตัวอย่างเป็นทางการถึงความนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักจะนิยมป่าแถบเหนือมากกว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักคิดถึงการเดินทางขึ้นเหนือ ....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
สายลมต้นฤดูหนาวกระหวัดวนบนยอดหญ้า เห็นเป็นริ้วๆ เหนือผลาญหินแห่งดงนาทาม ทุ่งดอกแดงอุบลสลับเหลืองพิมร บานสะพรั่ง ถึงแม้จะดูแห้งแล้งแต่ในโลกของธรรมชาติกลับมอบชีวิตและความสมดุล
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แดดร้อนเปรี้ยง ผ่าลงกลางหัว , เบื้องหน้า คือ ทางเดินหินที่ดูเหมือนจะไร้จุดสิ้นสุด ,แต่ทุกคนต่างมีความหวังจะเดินไปให้ถึงจุดหมาย
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ปลาหมึกสีชมพู ใต้ท้องทะเลสีฟ้า ,มันเอาหนวดยาวๆ เกี่ยวกระหวัด เรือสีน้ำตาลที่มีใบสีเขียว ในสายตาของใครหลายคน ,สีน้ำบนกระดาษดูเลอะเทอ ,แต่ไม่เป็นไร สำหรับน้องกายส์ ซ์ซ์ซ์ , "นี่มันเรื่อง โจรสลัดแห่งทะเลแคริบเบี้ยน ใช่ไม๊" "ไม่ใช่" น้องกายทำหน้า งง อะไรเหรอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
นิ้วเล็กๆ บรรจงแต้มสีและกาว ด้วยความตั้งใจ ,เด็กๆ มักจะไม่กังวลกับความเลอะเทอะ ,ไม่เหมือนผู้ใหญ่ เชื่อกันว่า ,ศิลปะ กว้างและลึก จรรโลงและสร้างสรรค์ ,เด็กๆ มองเห็นภาพในความว่างเปล่าของอากาศ จนกระทั่ง พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ ,และความจำเป็นในชีวิตโบยตี ,เหตุผลของมันทำให้ดวงตาแบบนั้นหายไป  
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
สำหรับคนที่รักการเดินทาง ยาดาเป็นหนึ่งในนั้น, สำหรับเธอ โลกนี้ไร้กาลเวลา,และเขตแดน หลากเชื้อชาติ ,มีชีวิตและเรื่องราวเสมอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
หลังวันเลือกตั้งเป็นเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม ,ยาดาและทีมสังเกตุการณ์การเลือกตั้งกลับมายังกรุงคาบูล์ เมืองทั้งเมืองสงบนิ่งด้วยบรรยากาศแห่งความศรัทธาและเป็นครั้งแรกที่อัลเฟรลอนุญาตให้ทีมงานออกไปเดินเล่นได้โดยไม่ต้องมีล่ามและทีมการ์ด   บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่เคร่งขรึม ไม่ดื่ม ไม่กิน จนกว่าพระอาทิตย์จะตกดิน ไร้ข่าวของความรุนแรง ถึงแม้ว่า กลุ่มตาลีบันจะพยายามล้มการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่วันนี้ ถือเป็นวันอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเช่นเดียวกับชาวมุสลิมทั่วโลก ทุกคนกลายเป็นหนึ่ง ไม่ว่า พ่อค้า ข้าราชการหรือกรรมกร ชิกเก้น สตรีท เป็นถนนสายใหญ่ที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว…