Skip to main content

"..คุณอาจจะคิดเอาง่ายๆว่าขอแค่เพียงคุณเป็นคนรักเจ้า คุณก็จะไม่ต้องเผชิญกับความบ้าคลั่งของพวกคลั่งเจ้า (ชี้แจงเพิ่มเติมไว้หน่อยว่าสำรับผม "รักเจ้า" กับ "คลั่งเจ้า" นี่ไม่เหมือนกัน) แต่จากกรณีคุณโกวิทก็เป็นอีกตัวอย่างรูปธรรมหนึ่งที่ทำให้เราเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร รักหรือไม่รักเจ้า คุณจะมีโอกาส/มีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญความบ้าคลั่งแบบนี้ได้ทั้งนั้น"

Chotisak Onsoong

 

จากกรณีคุณโกวิท วัฒนกุล ผมอยากฝากอะไรถึงคนกลุ่มที่ "รักเจ้า" หน่อยนะครับ คือคุณอาจจะคิดเอาง่ายๆว่าขอแค่เพียงคุณเป็นคนรักเจ้า คุณก็จะไม่ต้องเผชิญกับความบ้าคลั่งของพวกคลั่งเจ้า (ชี้แจงเพิ่มเติมไว้หน่อยว่าสำรับผม "รักเจ้า" กับ "คลั่งเจ้า" นี่ไม่เหมือนกัน) แต่จากกรณีคุณโกวิทก็เป็นอีกตัวอย่างรูปธรรมหนึ่งที่ทำให้เราเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร รักหรือไม่รักเจ้า คุณจะมีโอกาส/มีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญความบ้าคลั่งแบบนี้ได้ทั้งนั้น

ทำไมกรณีคุณโกวิทถึงทำให้ผมสรุปไปอย่างนั้น?

ตอบ - ก็เพราะคุณโกวิทเป็นหนึ่งใน "คนรักเจ้า" นะสิครับ แต่ในขณะที่คุณโกวิทเป็น "คนรักเจ้า" คุณโกวิท (และครอบครัว) ก็ต้องมาเผชิญบ้าคลั่งของพวกคลั่งเจ้าอย่างที่เห็นกัน ดังนั้นผมจึงสรุปอย่างที่เขียนไปข้างต้นว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร รักหรือไม่รักเจ้า คุณจะมีโอกาส/มีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญความบ้าคลั่งแบบเดียวกันนั้นได้ทั้งนั้น

ที่ผมบอกว่าคุณโกวิทเป็นหนึ่งใน "คนรักเจ้า" ก็เพราะได้อ่านคำชี้แจงของคุณโกวิทเกี่ยวกับเรื่องข้อกล่าวหา "ไม่รักเจ้า" ซึ่งจากที่อ่านทำให้ผมเชื่อว่าคุณโกวิทเป็น "คนรักเจ้า" จริง (ที่ผมคิดว่ามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ เช่น กรณีการอ้างคุณพงษ์พัฒน์ เป็นต้น)

และที่ผมพูดว่า "เป็นอีกตัวอย่างรูปธรรมหนึ่ง" ก็เพราะว่าก่อนนี้ก็มีตัวอย่างรูปธรรมอื่นให้เห็นมาแล้ว เช่น กรณี "อากง" (คนที่ไม่เคยไปชุมนุม แต่แค่ไป "สังเกตุการณ์" ทั้งม็อบเหลือแดง และคนที่พาหลานๆไปลงชื่อถวายพระพร)

ดังนั้นตราบใดที่เรายังอยู่ในสังคมบ้าคลั่งแบบนี้ อย่านิ่งนอนใจครับ อย่าคิดเอาเองง่ายๆว่าการที่คุณเป็น "คนรักเจ้า" แล้วจะไม่เสี่ยง อย่ารอให้ความเดือดร้อนมาถึงตัวเองแล้วถึงคิดจะขยับทำอะไร เพราะถึงวันนั้นมันอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้

 

ตัวอย่างที่คุณโกวิท ถูกเล่นงาน

จาก Jim Bandon

จาก Red Intelligence

###########

“จิตตนาถ” เผยเสียใจ “โกวิท” เสียลูกสาว ไล่พวกป่วนเว็บซ้ำเติม ชี้คนมีสำนึกไม่ทำกัน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา จิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือASTV ผู้จัดการและแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีมีผู้ใช้เว็บไซต์ในเครือ ASTV โพสต์ข้อความในทำนองโจมตีนายโกวิท วัฒนกุล นักแสดงรุ่นใหญ่ ถึงเรื่องจุดยืนทางการเมือง ในข่าวการเสียชีวิตของ น.ส. มาธวี วัฒนกุล หรือน้องมายด์ บุตรสาวคนเล็กของนายโกวิทจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนขอบสะพานข้ามแยกรัชวิภาจนตกลงมาพื้นล่าง แล้ว ว่า

ภาพประกอบจากเพจ วิวาทะ

“เรื่องนี้ผมขอประณามสาวกแมลงสาบ ที่เข้ามาป่วนเว็บ เพราะผมคิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่ไม่รู้จักแยกแยะ ไม่รู้จักกาลเทศะ เข้ามากระหน่ำซ้ำเติมเวลาที่คนอื่นเขาล้ม เวลาที่ครอบครัวเขาต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป เรื่องการเสียชีวิตของน้องมายด์ ควรจะแยกแยะออกจากประเด็นทางด้านการเมือง เขาจะเป็นเสื้อสีเสื้อใด เวลาที่เขาประสบภาวะเช่นนี้ คนที่เขาเป็นพันธมิตรฯ แท้ คนที่เขามีจิตสำนึกที่ดีแท้เขาจะไม่เหยียบย่ำ เขาจะไม่ซ้ำเติมกัน การที่เข้ามาให้คอมเมนต์ว่าเขาเสียๆ หายๆ มาสมน้ำหน้าเขาแบบนี้ ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ใช้ไม่ได้ แล้วพรรคแมลงสาบมักจะพยายามสร้างความเกลียดชังขึ้นมาให้กับคนที่เขาระบุว่าอย่างฝ่ายตรงข้าม รวมถึงพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีทางกลุ่มพันธมิตรฯ หรือว่าสื่อในเครือเอเอสทีวีตลอดมา" นายจิตตนาถ กล่าว

 

บล็อกของ ประกายไฟ

ประกายไฟ
แถลงการณ์ กลุ่มประกายไฟ 
ประกายไฟ
...ข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดการสังคมหลังทุนนิยมข้างต้นนี้ถือเป็นเป้าหมายหลัก และเป็นผลผลิตโดยตรงของการเติบโตของขบวนการโลกาภิวัตน์จากรากฐาน ที่พยายามเสนอทางเลือกใหม่ในการพัฒนาท่ามกลางซากปรักหักพังของโลกสังคมนิยม ในทศวรรษ 1990 ที่นักคิดฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยมต่างประกาศว่า “เราไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลือแล้วนอกจากระบบทุนนิยมกลไกตลาดและระบอบ ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม” แม้ว่าเป้าหมายดังกล่าวจะยังไม่บรรลุ แต่คุณูปการที่สำคัญที่สุดที่ขบวนการโลกาภิวัตน์จากรากฐานได้สร้างไว้ก็คือ ความหวังที่ว่า “โลกใบใหม่เป็นไปได้” ซึ่งเป็นคำขวัญของขบวนการสมัชชาสังคมโลกนับตั้งแต่ ค.ศ.2001 เป็นต้นมา
ประกายไฟ
“..รู้สึกว่าธรายอาร์มไม่ใช่แค่กางเกงใน แต่มันแสดงถึงสัญญะบางอย่างของการต่อสู้ ซึ่งเห็นไหมคะ แค่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นกางเกงในของธรายอาร์ม คนที่สงสัยเขาก็ต้องหาเรื่องราวของมันบ้างล่ะค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้สื่อเรื่องความไม่เป็นธรรมนอกจากแคมเปญหลักของงานนี้..” - ลูกปัด 1 สวาผู้ร่วมรณรงค์ 
ประกายไฟ
 “...พวกนายทุนจึงต้องหาทางให้ปัญหาเหล่านี้ทุเลาเบาบางลง ไม่อย่างนั้นการผลิตในระบบทุนนิยมอาจต้องล่มสลาย จึงต้องสร้างกติกากลางขึ้นมาเพื่อให้การขูดรีดยังดำรงตนต่อไปได้...”
ประกายไฟ
...ผมไม่คิดว่าการมีวันพ่อวันแม่มันจะสร้างประโยชน์อะไรให้กับคนที่ "มีพ่อมีแม่" (หรือแม้แต่ตัวคนเป็นพ่อเป็นแม่) แต่ขณะเดียวกันมันกลับเป็นวันที่ "ซ้ำเติม" คนที่ "ขาดพ่อขาดแม่" ซึ่งโดยปกติก็อาจจะมีชีวิตที่รันทดเจ็บปวดกับเรื่องนี้อยู่แล้ว..
ประกายไฟ
...แต่เชื่อไหม (เหมือนถาพในหนัง) ใบหน้าคนเหล่านั้นลอยออกมาปะทะสายตาเรา เรามองไม่เห็นความกลัวในใบหน้าของคนเหล่านั้น บางคนด่าไปอมยิ่มไป บางคนด่าไปก็แสดงอาการท้าทายไป มันต่างกันมาก ต่างกันจริงๆ เราเคยเห็นคนในม็อบเสื้อแดงช่วงที่มีการสลาย ทั้งวันที่ 10 เมษา และ 19 พฤษภา เราเห็นแววตาคนที่กลัวตาย เห็นแววตาคนที่มีห่วงเห็นแววตาคนที่พร้อมจะยอมตาย แต่คนเหล่านั้นไม่กร่างเท่านี้นะ
ประกายไฟ
...ที่มาที่ไปของ "เสื้อแดง" มันไม่เกี่ยวกับเรื่อง "รักเจ้า" หรือ "รักทักษิณ" ..