Skip to main content

 




ผู้ส่งเข้าประกวด: นายชญานนท์  สุขสด 
ได้รับรางวัลจากการประกวดต้นไม้ใหญ่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่  ประจำปี  2549
สถานที่              เจดีย์หลวง
                        เลขที่  103  ถนนพระปกเกล้า  ตำบลพระสิงห์  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่
อายุ                   ประมาณ   210   ปี
ความสูง              ประมาณ  30  เมตร
เส้นรอบวง           4  เมตร

จากป้ายประวัติของต้นยางนาเขียนไว้ว่า  "ต้นยางต้นนี้ปลูกสมัยพระเจ้ากาวิละเจ้าผู้ครองเชียงใหม่  องค์ที่ 1 วงศ์ทิพยจักร(พ.ศ.2324-2358)" สันนิษฐาน ว่าปลูกขึ้นมาเพื่อให้เป็นไม้หมายเมือง  ในปีที่ย้ายจากเวียงป่าซาง มาอยู่ที่เมืองเชียงใหม่เป็นการถาวร  เมื่อ  พ.ศ. 2339   ..........."

ต้นยางที่นี่เป็นไม้ขนาดใหญ่ระดับบรรพบุรุษของเมืองเชียงใหม่อีกต้น ลำต้นใหญ่สูง ต้องแหงนคอตั้งบ่ามอง ถือเป็นไม้คู่เมืองเชียงใหม่อีกต้นหนึ่ง สถานที่ตั้งคือวัดเจดีย์หลวง ที่ตั้งเสาอินทขิล หรือศาลหลักเมืองอันเป็นที่สักการะของชาวเชียงใหม่

วัดนี้ตั้งอยู่บนถนนพระปกเกล้า สำหรับนักท่องเที่ยวหรือท่านที่อยากมาเยี่ยมชมต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้ไม่ยากค่ะ มาที่ถนนคนเดินวันอาทิตย์ หรือจะมาวันอื่นก็ได้ ถ้ามาจากอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ก็ขับรถตรงมาเรื่อย ๆ ผ่านสี่แยกกลางเวียงวัดเจดีย์หลวงจะอยู่ทางขวามือ

ว่ากันว่าในสมัยโบราณการเดินทางมาเชียงใหม่ทางเรือนั้นใช้เวลายาวนานมาก ก่อนเข้าเมืองเชียงใหม่เมื่อถึงโรงพยาบาลแมคเคน ที่ต.ป่าแดด จะมองเห็นยอดเจดีย์หลวง นั่นแปลว่ามาถึงเชียงใหม่แล้ว เตรียมตัวลงจากเรือได้แล้ว

นอกจากมาชมความยิ่งใหญ่ขององค์เจดีย์ ต้นยางโบราณแล้ว เดินไปบริเวณด้านหลังวัดใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่ เป็นที่บรรจุศพของคุณ'รงค์  วงษ์สวรรค์ ในวันบรรจุศพนั้น วงดำเลิง ลูกชายคนโตบอกกับเพื่อนมิตรว่า "หากใครคิดถึงพ่อ ก็แวะมาเยี่ยมพ่อ และอย่าลืมซื้อหนังสือพิมพ์ติดมือมาสักเล่ม เอามาให้พ่ออ่านครับ"

ขอเปิดเพลงนี้กล่อมคุณ'รงค์ค่ะ Only time ของ Enya

Who can say where the road goes,
Where the day flows, only time?
And who can say if your love grows,
As your heart chose, only time?

Who can say why your heart sights,
As your live flies, only time?
And who can say why your heart cries
when your love lies, only time?

Who can say when the roads meet,
That love might be ,in your heart?
and who can say when the day sleeps,
and the night keeps all your heart?
Night keeps all your heart.....

Who can say if your love groves,
As your heart chose, only time?
And who can say where the road goes
Where the day flows, only time?

Who knows? Only time
Who knows? Only time

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…