Skip to main content

“พี่มันน่ากลัวจริง ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม้พี่ไม้ ไม้เป็นหมื่น ๆ” เธอส่งเสียงมาเหมือนถูกผีหลอกกลางวัน
“อยู่แดนสนธยาที่ไหน” ฉันถามกลับไปเพื่อให้ตัวเองตั้งสติหากมีเรื่องร้าย “ไม่ใช่ต้นไม้แต่เป็นไม้เป็นหมื่น ๆ ท่อนพี่ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย มันเยอะจริง เดี๋ยวจะถ่ายรูปส่งไปให้ดู บางต้นมีผ้าเหลืองผ้าแดงผูกโคนต้นด้วย”
“ที่ไหน”
“กิ่วคอหมาพี่ เขากำลังสร้างเขื่อนกิ่วคอหมา พี่รู้เรื่องนี้ไหม พูดแล้วขนลุกพี่ รอเดี๋ยว ๆ นะพี่นะจะส่งรูปไปให้ดู”
“จ๊ะ แล้วเธอไปทำไม”
“ขับรถผ่านมานะพี่  กลับมาจากลำปาง”

เธอพูดหลายครั้งว่าเธอไม่เคยเห็นไม้เยอะขนาดนี้มาก่อนจริง ๆ และสงสัยว่าทำไมเขายังตัดไม้กันขนาดนี้ การสร้างเขื่อนต้องตัดไม้กันขนาดนี้เหรอ

20080502 (1)

20080502 (2)

“บางต้นมีผ้าผูกติดอยู่ด้วย” เธอพูดเรื่องผ้าอีกครั้งหนึ่ง
“ผ้าอะไร” ฉันถาม
“ผ้าเหลืองที่ผูกกับต้นไม้ เมื่อเขาบวชป่า แล้วผ้าที่ผู้คนเอามาผูกไหว้ต้นไม้ศักดิสิทธิ์”  
“ออ...เข้าใจแล้ว”
“พี่รู้เรื่องเขื่อนกิ่วคอหมาไหม”

ฉันบอกเธอว่า รู้เหมือนที่คนอื่น ๆ รู้นั่นแหละ รู้แต่ว่ารัฐบาลมีโครงการก่อสร้างเขื่อนกิ่วคอหมา เพื่อกั้นแม่น้ำวังบริเวณ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

20080502 (3)

20080502 (4)

วางสายจากเธอแล้ว กลับไปอ่านข่าวเก่า ๆ พบว่า โครงการเขื่อนกิ่วคอหมาเริ่มขึ้นเมื่อปี 2535-2536 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในกิจการเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง โดยเฉพาะการหล่อเย็นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ต่อมาโรงไฟฟ้าแม่เมาะลดกำลังการผลิตลง เขื่อนกิ่วคอหมาก็ไม่มีความเป็นอีกต่อไป แต่แทนที่จะหยุดสร้าง รัฐก็เปลี่ยนวัตถุประสงค์จากการใช้ในกิจการเหมืองแม่เมาะมาเป็นเขื่อนเพื่อการชลประทานแทน เพื่อใช้น้ำในการเกษตร ใช้เงินเกือบสี่พันล้าน ครม.อนุมัติไปเมื่อปี 48 ประมาณปี 53 ก็จะสร้างเสร็จ

ในการสร้างเขื่อนนี้ ประชาชนเดือนร้อนสองร้อยกว่าครอบครัว สี่หมูบ้าน สัตว์เดือดร้อนเท่าไหร่ไม่รู้  ต้นไม้ ผืนป่าหายไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ อีกทั้งเขื่อนที่สร้างแล้วใช้ประโยชน์ได้เท่าไหร่ก็ไม่รู้อีก ซึ่งเขื่อนขนาดใหญ่มากมายที่สร้างไปยังไม่รู้ว่าผลได้ผลเสียคุ้มกันหรือไม่ ประชาชนอย่างเราก็ไม่รู้อีกแหละ

ดูรูปที่เธอส่งมาให้รู้สึกน่าขนลุกจริงๆ เมื่อเห็นภาพต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถูกโค่นลงทั้งที่มีผ้าผูกไว้ ต้นไม้เหล่านี้มีคนกราบไหว้บูชามาก่อน

จำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งเคยพูดว่า เมื่อพวกที่เขาจะปรับพื้นที่ตัดไม้ถากดินให้เรียบ เพื่อทำโครงการ เขาไม่สนใจหรอกว่าจะมีบ่อน้ำที่ห้ามถมอยู่ตรงไหน มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน เขาเอารถไถดันครูดเดียว ต้นไม้ใหญ่ก็ใช้เลื่อยขนาดใหญ่ครูดเดียวเหมือนกัน มันเร็วจนมองไม่เห็นอะไร ไม่เห็นบ่อน้ำ ไม่เห็นจอมปลวก ไม่เห็นผ้าเหลืองหรือผ้าสีอื่นใดหรอก ความศรัทธา ความศักดิสิทธิ์มันอยู่ที่ใจที่ละเอียดอ่อน แต่จิตใจที่หยาบและรุนแรงมากอยู่เหนือทุกสิ่งอยู่แล้ว เจ้าแห่งต้นไม้ เจ้าป่าเจ้าเขาก็สัมผัสผัสความหยาบนั้นไม่ได้เช่นกัน

ถ้าจะจริงอย่างเพื่อนว่า
คำถามสุดท้ายเธอถามฉันว่า ไม้มากมายเขาจะเอาไปไหน  
“ไม่รู้จริง ๆ แต่ถึงอยากรู้ก็คงไม่มีใครบอก”   

หมายเหตุ : ถ่ายภาพโดย ตั๊ก เล่าเรื่องพบเห็น โดย วิมายา

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
  แล้วฉันก็คิดว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิน ฉันเดินทางไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ  และบอกเธอว่า ฉันอยากจะไปเยี่ยมนักเขียนผู้ใหญ่รุ่นพี่คนหนึ่ง  เพื่อนบอกว่า ไม่ได้ไปนานแล้ว ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีใครไปหาใครกัน  เมื่อถามว่าทำไม
แพร จารุ
ป่าสนวัดจันทร์   หลังจากที่เขียนเรื่องป่าสนวัดจันทร์ถูกโฆษณาว่าเป็นผืนป่าสนแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีชนเผ่าใช้วิถีชีวิตแบบเดิม ๆ
แพร จารุ
เมื่อเขียนเรื่อง “ป่าสนวัดจันทร์ถูกโฆษณาว่าเป็นที่สุด”  ฉันก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนถึงเรื่องอำเภอใหม่ส่งเข้ามา วันนี้จึงนำจดหมายฉบับนี้มาให้อ่านกันค่ะ  เธอเขียนมาว่า ลองเขียนเรื่องอำเภอใหม่มาให้อ่าน
แพร จารุ
ป่าสนผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มองขึ้นบนต้นสนเหมือนหนึ่งว่ามีนกเกาะอยู่บนนั้นเต็มไปหมด จนใครบางคนเผลอถามว่า นั่นนกอะไรเกาะอยู่เต็มไปหมด หลายคนหัวเราะ ไม่ใช่นกหรอกมันคือลูกสน ที่นี่มีชื่อว่า ป่าสนวัดจันทร์ เป็นครั้งที่สองที่ฉันเดินทางมาที่นี้ห่างจากครั้งแรกเกือบยี่สิบปี ฉันไม่กล้าเดินทางไปที่นั่นเพราะรู้สึกว่ามันลำบากยากเย็นเหลือเกิน เป็นการเดินทางที่โหด ๆ ในช่วงวัยเยาว์ เพราะต้องนั่งรถไฟชั้นสามมาจากกรุงเทพฯ นานกว่าสิบสองชั่วโมง ก็รู้กันอยู่ว่ารถไฟไทยเสียเวลาเสมอ ๆ ลงจากรถไฟมีนักเขียนจากเมืองเหนือรอรับอยู่
แพร จารุ
มุสโต๊ะ (มุส-สะ-โต๊ะ) อาหารมื้อไหน ๆ ก็ต้องมีมุสโต๊ะ มุสโต๊ะก็คือน้ำพริกนั่นเอง ฉันรู้จักมุสโต๊ะครั้งแรกเมื่อเที่ยวบ้านปกาเกอญอ และนับจากวันนั้นก็ชอบมุสโต๊ะแบบปกาเกอญอทันที่
แพร จารุ
คุณทำอะไรเมื่อเช้านี้  ส่วนฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ จากโต๊ะกินข้าวติดมือไปนอนอ่านในเปลใต้ต้นมะขามเล็ก  หนังสือชื่อ ไม่รักไม่บอก 5 เป็นของกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่  ฉันเป็นอาสาสมัครในกลุ่มนี้กับเขาด้วย แต่ฉันไม่ได้ทำหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นฉันจึงเพิ่งได้อ่านจริง ๆ ครูโรงเรียนอนุบาลเพิ่งให้มาสิบเอ็ดเล่ม วันนั้นมีน้อง ๆ หนุ่ม ๆ จากไหนก็ไม่รู้มาช่วยกันขนหนังสือหลายกล่องที่นำมาขายในงานอำลา ‘รงค์ วงษ์สวรรค์  ฉันไม่มีของอะไรตอบแทนน้องจึงแจกพวกเขาไปคนละเล่มเหลือเก็บไว้เล่มหนึ่ง ภาพปกเป็นแม่มดหน้าตาน่ารักถือไม้เท้าวิเศษ มีข้อเขียนว่า จงสุภาพกับโลกใบนี้ (คำจากสาร…
แพร จารุ
  เล่าเรื่องงาน อำลา ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เปิดงานไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม ยามแดดร่มลมตก หน้าที่ของฉันในงานนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลงานขายหนังสือ ฉันรับปากไปว่า “ได้ค่ะ” ทั้งที่ไม่มีความชำนาญเรื่องการขาย หรือเรียกว่าไม่มีทักษะสักนิดเดียว และมักจะคิดตัวเลขผิด วิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่บวกลบคูณหารไม่เก่งเลย ยิ่งวิชาเลขคณิตคิดในใจนี้ไม่ได้เลย แต่ เพราะว่าในช่วงที่เขาประชุมเรื่องการดำเนินการจัดงานฉันไมได้เข้าร่วมประชุม…
แพร จารุ
ฤดูร้อนในเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างน่าสยองค่ะ เพราะนอกจากความแห้งแล้งที่เริ่มขึ้นในปลายฤดูหนาวนี้แล้ว เมื่อฤดูร้อนมาถึงเราก็จะพบกับกลุ่มหมอกควันที่มีทั่วเมือง สำหรับประชาชนในชนชั้นเรา ๆ นั้น เตรียมอะไรได้บ้างคะ
แพร จารุ
สวัสดีนักท่องเที่ยว ระหว่างทางนักท่องเที่ยวเจออะไรมาบ้าง ฉันมาอยู่เชียงใหม่สิบกว่าปี แต่บ่อยครั้งที่รู้สึกว่า ตัวเองเหมือนนักท่องเที่ยว
แพร จารุ
  หญิงสาวมักจะกลัวอ้วนเพราะอยากสวย เราถูกทำให้เชื่อกันว่าคนอ้วนจะไม่สวย เป็นสาวเป็นนางต้องผอมเข้าไว้ ใครไม่ผอมเหมือนนางแบบ หรือนักแสดงหน้าจอโทรทัศน์ก็จะไมได้มาตรฐาน ซึ่งความจริงแล้วบางคนผอมจนเกินไป เรียกว่าแห้งแรงน้อยไม่แข็งแรง ขาแขนมีแต่กระดูก คอโปน ไหปลาร้าลึกขนาดน้ำขังยามเมื่ออาบน้ำ
แพร จารุ
ชวนมากินกันต่อค่ะ เพื่อนนักเขียนรุ่นน้องที่เชียงดาว เล่าว่าเธอปลูกข้าวไร่ที่บ้านของเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่ฉันคิดว่าแค่เธอเริ่มต้นปลูกข้าวความมั่นคงทางอาหารก็เริ่มมีแล้ว ต่อมาน้องนักเขียนที่เพิ่งรู้จักยังไม่ได้เห็นหน้ากันเลย เขียนมาบอกว่า เธอปลูกข้าวได้เจ็ดกระสอบ ฉันชื่นชมยินดีกับเธออย่างจริงจังและจริงใจยิ่ง เพราะฉันมีความฝันที่จะปลูกข้าวปลูกผักไว้กินเอง แต่ไม่ได้ทำ และคิดว่าคงไม่ได้ทำ เพราะอายุปูนนี้แล้ว กล้ามเนื้อเป็นไขมัน เรี่ยวแรงหมดไปแล้ว ที่ทำได้ก็คือปลูกกล้วย ซึ่งก็เหมาะสมอยู่เพราะกล้วยเป็นอาหารนิ่ม ๆ กินง่าย…
แพร จารุ
ชวนมากินกันต่อดีกว่า   คราวนี้กินถั่วงอกผัดเห็ดสามอย่างค่ะ ดูเป็นอาหารธรรมดา ๆ นะคะ แต่พิเศษก็ตรงที่ เป็นอาหารที่ประกอบด้วยเห็ดสามอย่างนะคะ ความจริงแล้วอาหารเห็ดสามอย่างที่กินเป็นยานี้ เขาว่าหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเป็นดีค่ะ แต่ไม่เป็นไรใช้น้อย ๆ เราเน้นความอร่อยด้วยค่ะ