1.Megalomaniac - โรคหลงคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่และหมกมุ่นกับอำนาจ เราใช้คำนี้กับบุคคลซึ่งมีความประพฤติราวกับเชืื่อจริงๆ จังๆ ถึงอำนาจโดยเด็ดขาดและความยิ่งใหญ่ของตัวเอง ดังพฤติกรรมเช่น ชอบตะคอก ทำตัวเหนือกว่าคนอื่นโดยเฉพาะนักข่าวที่มาสัมภาษณ์ หรือแสดงการดูถูกประชาชนผ่านสื่อมวลชน ร้ายไปกว่านั้นคือพล่ามอยู่คนเดียวหน้าโทรทัศน์โดยหลงคิดว่าประชาชนกว่าหกสิบล้านคนคงนั่งทำแป๋วฟังตัวเองและคิดว่าตัวเองจะเป็นนายกฯ ไปชั่วนิรันดร
2.Pathological liar -คนชอบโกหกพกลม คนที่เป็นโรคนี้ชอบโกหกเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขั้นสร้างวาทกรรมขึ้นมาใหม่โดยไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเลยเพียงเพื่อให้ได้รับความสนใจหรือการยอมรับจากคนรอบข้าง หรือเข้าสู่เป้าหมายเช่นอำนาจ หลายคนก็เป็นพวกมีทักษะอย่างดีเยี่ยมในการสื่อสาร มีเสน่ห์ แต่เป็นเจ้าเล่ห์เพทุบาย ไม่ใส่ใจผลที่เกิดขึ้น อย่างเช่นสัญญาเรื่องการเลือกตั้งผ่านคำพูดและท่าทางขึงขังราวกับเป็นผู้รักษาสัจจะ
3.Bipolar disorder -โรคอารมณ์สองขั้ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เช่นตะหวาดคนรอบข้าง แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว ต่อมาก็พูดดี แสดงอารมณ์ขััน ยิ้มระรื่น ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนตลก คนรอบข้างต่างระอากับการแสดงความรู้สึกผิดอยู่ร่ำไปพร้อมกับสัญญาเลื่อนลอยของบุคคลเช่นนี้ว่าจะปรับปรุงหรือเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งก็เป็นเพียงการโกหกพกลม (สอดคล้องกับข้อ 2)
4.Split personality -โรคหลายบุคลิก ซึ่งผู้ป่วยเพียง 1 คนสามารถมีบุคลิกหรือตัวตนหลายตัวและแสดงออกมาในต่างกรรมต่างวาระ เช่น เดี๋ยวก็แสดงตนเป็นกุ๊ยกักขฬะ เดี๋ยวก็เป็นนักแต่งเพลง อารมณ์อ่อนไหว (เนื้อเพลงเต็มไปด้วยความรันทด สงสารตัวเอง) เดี๋ยวก็เป็นนักปกครองมีเมตตาและวิสัยทัศน์กว้างไกล เดี๋ยวก็เป็นเผด็จการความคิดวนอยู่แต่ในกะลา
5.Obsessive-Compulsive -โรคย้ำคิดย้ำทำ หรือโรคที่หมกมุ่นทำในสิ่งเดิมๆ มากเกินไปเช่นชอบตำหนิรัฐบาลชุดก่อนหรือคิดถึงแต่อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่าพยายามกลับมาแย่งอำนาจตน อันสอดคล้องกับ 6. Paranoid คือโรคหวาดระแวงว่าจะมีคนมาทำอันตรายหรือแย่งอำนาจตนทั้งที่กลุ่มบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นเพียงต้องการเลือกตั้งหรือต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย และพวกเขาก็ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
(ภาพจาก www.stephealth.com)